ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 363

“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท!” ขันทีที่อยู่นอกประตูตอบรับคำสั่ง แล้วรีบวิ่งออกไปประกาศราชโองการทันที

ส่วนเฟิ่งกงกงที่อยู่ข้าง ๆ กู้จิ่งซานก็ยืนซับเหงื่อเย็น ๆ ไม่หยุด สองขาชาดิกจนแทบจะไร้ความรู้สึก

“ฝ่าบาท โปรดทรงไว้ชีวิตด้วยเถิด.....”

“เจ้ายังกล้าขอให้ข้าไว้ชีวิตเจ้าอีกรึ!”

ดวงตาคมกริบดุจพญาเหยี่ยวของกู้จิ่งซานตวัดมอง เงื้อขาขึ้นได้ก็เตะใส่เขาอย่างแรง

“เจ้าไปจวนอ๋องอี้ตั้งหลายครั้งหลายหนแล้วแท้ ๆ เรื่องเด็กผู้หญิงสองคนนั้น เจ้าไม่ได้ยินกระทั่งข่าวลือซุบซิบอะไรบ้างเลยรึ?!”

เฟิ่งกงกงลำบากใจสุดแสนจนไม่รู้จะพูดอย่างไรแล้วจริง ๆ เวลาที่เขาไปจวนอ๋องอี้ เขาไม่เคยได้ยินข่าวซุบซิบอะไรมาเลยแม้แต่น้อย

เขายิ่งหมอบร่างลงต่ำติดพื้นกว่าเดิม ก้มหน้างุด ๆ มองพื้น

“ทูลฝ่าบาท เป็นเพราะอ๋องอี้กับพระชายาอี้ซ่อนเด็กผู้หญิงสองคนนั้นไว้มิดชิดเกินไป ข้าน้อยจึงไม่เคยพบว่ามีเด็กอยู่ในจวนอ๋องอี้จริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ!”

“นอกจากนี้ข้างนอกยังมีข่าวลือหนาหูว่า เด็กผู้หญิงสองคนนั้นเป็นลูกนอกสมรสที่ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อ ข้าน้อยคิดว่าบางทีอ๋องอี้อาจอับอายเกินกว่าจะพูดออกมาได้ จึงเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ..…”

พูดจบเฟิ่งกงกงก็ช้อนสายตาขึ้นอีกครั้ง ลอบมองไปที่ฮ่องเต้ ดวงตาพลันปรากฏแสงสว่างวาบ

ลูกนอกสมรส?

เขาโกรธจนเลอะเลือนเกินไปแล้วจริง ๆ ถึงขั้นลืมจุดสำคัญขนาดนี้ไปเสียได้

ความโกรธของกู้จิ่งซานลดลงมาเล็กน้อย แต่แววตายังคงดุร้ายไม่เปลี่ยน

หากเป็นความจริงตามที่ผู้คนร่ำลือ ว่าหนานหว่านเยียนละเมิดศีลธรรมของสตรีที่ควรปฏิบัติ ลอบให้กำเนิดลูกนอกสมรสถึงสองคน ทำให้ราชวงศ์ต้องเสื่อมเสีย เช่นนั้นแล้วหนานหว่านเยียนก็มีความผิดถึงขั้นถูกสั่งตัดหัวได้เลยตรง ๆ !

แต่หากเด็กสองคนนี้เป็นของลูกของเจ้าหก แล้วกู้โม่หานกลับปกปิดไม่ทูลรายงาน นั่นแปลว่าเขากำลังก่ออาชญากรรมร้ายแรง คือการอำพรางซ่อนเร้นเลือดเนื้อเชื้อไขของราชวงศ์ เป็นความผิดฐานหลอกลวงเบื้องสูง!

ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร ก็ล้วนเป็นประโยชน์ไม่มีโทษอะไรต่อเขาเลย

กู้จิ่งซานรู้สึกสบายใจขึ้นไม่น้อย ยกยิ้มเย็นเยียบ "ถ่ายทอดคำสั่งของข้าออกไป เรียกตัวเชื้อพระวงศ์ทุกคนเข้าวัง เกิดเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ขึ้นในราชวงศ์ พวกเขาควรได้รู้กันอย่างพร้อมหน้า เผื่อว่าข้าสั่งลงโทษแล้ว จะมีคนไม่ยอมรับ”

เฟิ่งกงกงกลอกตาไปมา เข้าใจได้ทันทีว่าฝ่าบาทกำลังจะเดินหมากตาสำคัญแล้ว

“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”

“พระชายาอี้เข้าวังมาแล้วใช่หรือไม่?”

"พ่ะย่ะค่ะ" เฟิ่งกงกงพยักหน้าอย่างเข้าใจกระจ่าง "เวลานี้พระชายาอี้อยู่ที่ตำหนักหยูซินพ่ะย่ะค่ะ!"

"พาตัวมาที่นี่ด้วยเลย" ดวงตาของกู้จิ่งซานเย็นเฉียบดั่งน้ำแข็ง ทั่วร่างเต็มไปด้วยไอสังหารดูน่าสะพรึงกลัว

หนานหว่านเยียนกับกู้โม่หานมีใจคิดแปรพักตร์ ยิ่งกำจัดทั้งคู่ได้เร็วเท่าไหร่ ก็จะรู้สึกสบายใจได้เร็วขึ้นเท่านั้น

นอกค่ายเสินเชื่อ

หลังจากที่กู้โม่หานกับกู้โม่เฟิงจัดการธุระทางนี้เสร็จแล้ว ก็เดินออกจากประตูค่ายไปพร้อมกัน

กู้โม่หานบังคับเลี้ยวม้าอย่างคล่องแคล่ว ชายเสื้อของเขาสะบัดพลิ้วดั่งอินทรีสยายปีก ดูห้าวหาญราววีรบุรุษ ลำแสงที่สาดมาจากเงาต้นไม้ในป่าส่องกระทบลงบนใบหน้าของเขา ใบหน้าที่งดงามทว่าเย็นชาดูคล้ายถูกอาบเคลือบด้วยบรรยากาศของยอดบุรุษผู้แกร่งกล้า งามสง่ายากหาผู้ใดเทียบเทียมได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้