ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 4931

เย่เฉินยิ้มเอ่ย : “พล.ต.ท.หลี่กับฉันคิดเหมือนกัน ตอนนี้ฉันอยากตามเบาะแสนี้ไป ฉวยโอกาสนี้ให้หลาย ๆ บทเรียนกับพวกเขาหน่อย หากว่าพวกเขาประสบความล้มเหลวที่ทีมถูกทำลายบ่อย ๆ พวกเขาไม่เพียงจะสงสัยเรื่องราวก่อนหน้านี้ ยังจะขาดความมั่นใจ และไม่กล้าที่จะทำอย่างเต็มที่ภายในช่วงเวลาอันยาวนานมากในอนาคต”

พูดถึงตรงนี้ เย่เฉินสีหน้าหวาดกลัว เอ่ยด้วยเสียงเย็นยะเยือก : “แม้ว่าฉันไม่เคยเห็นผู้มีพระคุณที่พวกเขาเรียกกันนั่น แต่จากการบรรยายของห้าสี่เจ็ด ไม่ยากที่จะวิเคราะห์นิสัยของคนนี้ออก คนคนนี้จะต้องมีความมั่นใจและความถือดีสูงมาก และเนื่องจากศักยภาพยิ่งใหญ่มากพอจริง ๆ น่าจะประสบความพ่ายแพ้อย่างยับเยินน้อยมาก ดังนั้นก่อนหน้าที่จะพบกับเขา ฉันต้องให้คนที่มีความถือดีสุด ๆ คนนี้ถูกบีบบังคับให้รู้จักถึงหลักการที่ไม่เปลี่ยนแปลงชั่วนิรันดร์ นั่นก็คือเหนือคนยังมีคน เหนือฟ้ายังมีฟ้า !”

สงครามทางจิตวิทยา เป็นประเด็นที่เย่เฉินให้ความสำคัญมาโดยตลอด

สมัยแรกสุด เขาเคยผลักบริษัทวัสดุก่อสร้างเทียนเหาทั้งหมดให้ราบเป็นหน้ากลอง ต่อหน้าสามีภรรยาโจวเทียนเหา นั่นก็เพื่อทำลายจิตใจของพวกเขาให้ย่อยยับ

ให้หงห้าสลักตัวอักษรไว้ที่หน้าผากพ่อลูกหลิวกว่างกับหลิวหมิงสองคนด้วย ก็คืออุบายที่ฆ่าทั้งคนและจิตใจ

ยังมีเย่ฉางหมิ่นผู้เป็นอาที่โลกทัศน์สูงลิ่ว เย่อหยิ่งกดคนอื่น ก็ถูกเขาขังในหมู่บ้านชุมชนเพื่อถูเหลี่ยมให้เรียบด้วยเหมือนกัน

ในขณะนี้ แม้ว่าเขายังขาดความมั่นใจองค์กรลึกลับนี้ แต่เขาได้ตัดสินใจแล้ว ต้องค่อย ๆ เล่นกับองค์กรนี้ ทำให้ผู้ที่ควบคุมอยู่เบื้องหลังองค์กรนี้พังทลายลงก่อน จากนั้นค่อยเหยียบองค์กรนี้ให้ราบสิ้นซากอีกที !

ในจังหวะนี้ นักฆ่าที่อยู่ระหว่างการเตรียมพร้อมแปดคนนี้ ยังเดินเคลื่อนไหวอย่างลับ ๆ อยู่ในความมืด

การบุกจู่โจมของคนพวกนี้ถือว่าไวพอตัว และแทบไม่ส่งเสียงดังเลยสักนิด เมื่อดูจากตรงนี้จะเห็นได้ว่า ศักยภาพของคนพวกนี้น่ากลัวพอสมควร

หากว่าทิ้งอาวุธออก ศักยภาพเฉพาะตัวของพวกเขา เห็นได้ชัดว่าแกร่งกว่าพวกห้าสี่เจ็ดไม่น้อยเลย แม้ว่าที่ฝึกฝนจะไม่ใช่ศิลปะการบู๊ก็ตาม แต่ศักยภาพก็จะไม่ด้อยไปกว่านักบู๊หกดาวเช่นกัน

เย่เฉินตามพวกเขาโดยอยู่ห่างไปหลายร้อยเมตรอย่างไม่รีบไม่ร้อน ปีนขึ้นเนินเขาที่ค่อนข้างราบเรียบตามพวกเขาไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน