บัลลังก์ชายาหมอเทวดา นิยาย บท 22

เย่จายซิงเป็นหมอเทวดา มองเพียงสีหน้า นางก็รู้แล้วว่าฮูหยินเฒ่าไม่ได้ล้มป่วย

หญิงชราคนนี้ เพียงแค่แกล้งป่วยเท่านั้น แก่แล้วไม่รู้จักเจียมตัวจริงๆ

เมื่อเห็นใบหน้าแหลมของหญิงชรา ภาพความทรงจำตอนถูกนางกลั่นแกล้งและลงโทษแล่นเข้ามาในความคิดของเย่จายซิง

นางคือภรรยาคนที่สองของนายท่าน ในอดีตเมื่อครั้นนายท่านยังมีชีวิต นางทำตามคำสั่งสายท่านทุกอย่าง แต่หลังจากนายท่านสิ้นใจ นางก็เริ่มร้ายกาจ

ใจร้ายกับเย่จายซิงสองคนพี่น้องทุกอย่าง เพราะบ้านรองบ้านสามจึงจะเป็นลูกแท้ๆ ของนาง แต่ทาสรับใช้ในจวนแม่ทัพเคยชินกับการเอาใจคนมีอำนาจและเหยียบย่ำคนต้อยต่ำ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ฮูหยินเฒ่าดูแคลนพวกเขาสองคนแม่น้องเช่นนี้ พวกทาสรับใช้ก็ไม่เคยเห็นพวกเขาเป็นนายที่แท้จริงมาก่อน

"เย่จายซิง เหตุใดเจ้าจึงไร้มารยาทกับท่านย่าของเจ้าเช่นนี้? ท่านย่าของเจ้าไม่สบาย เจ้ากลับนิ่งเฉย ไม่กลัวว่าท่านย่าของเจ้าจะเสียใจหรือ?

ท่านรองเย่เย่เจ๋อหย่งจับจ้องมาที่นางแล้วพูดด้วยความเยือกเย็น

"ท่านพ่อ อย่างพูดแบบนี้ น้องสี่เพิ่งกลับจวนอ๋องเซ่อเจิ้ง น่าจะเป็นเพราะยังไม่ทราบอาการของท่านย่าอย่างแน่ชัด"

เย่เจียหยูเดินเข้ามาหา จับมือเย่จายซิงด้วยความอ่อนโยน พูดกับนางด้วยความรักใคร่:

"น้องสี่ เจ้าไม่รู้ การตายของน้องสามในวันนั้น ทำให้ท่านย่าสะเทือนใจอย่างมาก ท่านย่ารักและเอ็นดูหลานๆ อย่างพวกเรามาก จู่ๆ คนหนุ่มสาวจากไปก่อนคนชรา ท่านย่าจึงไม่อาจทนรับได้ ท่านย่าให้พวกเจ้ากลับมา เป็นเพราะอยากจะสนิทสนมกับพวกเจ้า"

เย่จายซิงดึงมือกลับด้วยความรังเกียจ หัวเราะแล้วพูด:

"พี่รอง ท่านเป็นคนแทงพี่สามไม่ใช่หรือ ในเมื่อท่านย่าเสียใจเช่นนี้ ท่านก็ควรอยู่เฝ้าข้างเตียงทำตัวกตัญญูต่อท่านย่าต่างหากจึงจะถูกต้อง เหตุใดข้าจึงได้ยินว่าสองวันนี้ท่านมักจะไปที่จวนของเจ้าพระยาเซี่ย? พี่รองอกตัญญูเกินไปแล้วกระมัง?"

สีหน้าของเยี่เจียหยูนิ่งค้าง คิดไม่ถึงว่าจะหาเรื่องให้ตน เจตนาของนางคืออยากจะให้เย่จายซิงอยู่เฝ้าอาการป่วยของท่านย่า ทรมานนางให้สาสม

"เย่จายซิง พี่รองของเจ้าไปขอยาให้กับท่านย่าของเจ้าที่สำนักนักกลั่นยา ไม่เหมือนกับเจ้า เป็นหญิงเป็นนางแต่กลับไปอยู่ที่จวนของอ๋องเซ่อเจิ้ง พูดไปแล้วรังแต่จะทำลายชื่อเสียงจวนแม่ทัพของพวกเรา!"

นางเสิ่นขมวดคิ้วเป็นปมแล้วพูด น้ำเสียงของนางร้ายกาจยิ่งนัก:

"เจ้ารีบเอากุญแจคลังสมบัติมาซะ เพื่อที่ท่านอารองของเจ้าจะได้ไปซื้อยามารักษาท่านย่าของเจ้า เวลานี้จวนแม่ทัพใกล้จะไม่มีกินแล้ว แต่เจ้ากลับดียิ่งนัก ยินดีที่จะเอายาราคาแพงไปให้สัตว์อสูรแต่กลับไม่ให้พวกเราที่เป็นคนในตระกูลเดียวกัน ช่างอกตัญญูยิ่งนัก!"

"พี่สะใภ้รอง ท่านยังมีหน้ามาพูดอีกหรือ ค่าใช้จ่ายทุกอย่างในจวนแม่ทัพล้วนเป็นเงินที่ในอดีตท่านพ่อของเขาเอาให้กองกลาง บ้านรองและบ้านสามของพวกท่านราวกับหนวน ไม่มีความสามารถแม้แต่น้อย แม้จะมีภูเขาทองคำก็ถูกพวกท่านใช้จนหมดได้ ตอนนี้ไม่มีเงินแล้ว แม้แต่กลับข้าที่เป็นเพียงผู้น้อยยังกล้ายื่นมือมาขอ ช่างไร้ยางอายจริงๆ"

เย่จายซิงพูดเสียงดัง นางไม่กลัวที่จะบาดหมางกัน ยิ่งไปกว่านั้นนางเสิ่นเป็นคนพูดจาหยาบคายก่อน เช่นนั้นก็อย่าหาว่านางพูดจาไร้ซึ่งความปรานี

เวลานี้ทุกคนต่างดูออกว่านางเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ไม่ใช่คนอ่อนแอและขวัญอ่อนราวกับหนูในอดีตแล้ว ที่แท้เมื่อก่อนนางก็เสแสร้งแกล้งทำ นี่ต่างหากที่เป็นตัวตนที่แท้จริงของนาง!

"เจ้า......เจ้าช่างเหิมเกริมยิ่งนัก!"

นางเสิ่นและคนอื่นๆ สีหน้าไม่สบอารมณ์ มองค้อนมาที่เย่จายซิง

เพล้ง!

เสียงดังขึ้น ถ้วยยาถูกโยนมาที่เท้าของเย่จายซิง

"หลานทรพี! เจ้าจะทำให้ข้าโมโหจนตายใช่หรือไม่ ผู้ใดอนุญาตให้เจ้าพูดเช่นนี้กับผู้อาวุโส! คุกเข่าเดี๋ยวนี้!"

ใบหน้าของฮูหยินเฒ่าแดงก่ำ ชี้หน้าด่าทอเย่จายซิง

"ท่านมีสิทธิ์อะไรให้พี่สาวของข้าคุกเข่า พี่สะใภ้รองเป็นคนด่าทอพี่สาวของข้าก่อนว่าอกตัญญู หากจะต้องคุกเข่าเช่นนั้นพี่สะใภ้รองก็ต้องคุกเข่าด้วย!"

เย่ยู่หยางพูดด้วยความไม่พอใจ เขารู้ดีว่าความกตัญญูอยู่เหนือทุกอย่าง แต่ผู้อาวุโสเหล่านี้ไม่มีความเป็นผู้อาวุโส ไม่อาจได้รับความเคารพจากเขาและพี่สาว

"ยู่หยางพูดถูก ท่านย่า ให้ท่านจะให้พี่สะใภ้รองคุกเข่าขอโทษข้าต่างหากจึงจะถูกต้อง ไม่แน่ว่าหากข้าอารมณ์ดี อาจจะยกกุญแจคลังสมบัติให้พวกท่านก็ได้

เย่จายซิงเล่นนิ้วมือเรียวยาวของตนเอง ยิ้มแล้วพูด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์ชายาหมอเทวดา