บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 131 ท่านอ๋องไม่ให้ความร่วมมือ

หยวนชิง “หลิง” ยกมุมปากยิ้มจางๆ
ใครจะไปรู้เล่าว่าอ๋องหวยเองก็ได้ยินเสียงพูดคุยจากด้านนอก ไม่ได้เป็นเพราะทักษะการได้ยินเลิศเลออะไร แต่เสียงของพระชายาจี้ค่อนข้างจะเสียงดังไปเสียหน่อย
อ๋องหวยยิ้มออกมา พร้อมกล่าวออกมาโดยแอบแฝงความประชดประชันเอาไว้: “พี่สะใภ้ห้า ได้ยินนั่นหรือไม่?แท้จริงไม่ใช่ว่าข้านั้นท้อแท้หรอก เพราะแม้แต่คนข้างนอกเองต่างก็ไม่เชื่อเช่นกันว่าข้าจะสามารถหายป่วยได้”
“คนข้างนอกจะกล่าวสิ่งใดก็ไม่สำคัญทั้งนั้น สิ่งที่ข้ากล่าวนั้นถึงจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะข้าเป็นหมอรักษาเจ้า” หยวนชิงหลิงดึงเก้าอี้เข้ามานั่งข้างเตียง
อ๋องหวยมองไปยังนาง แล้วยิ้มออกมากว้างขึ้น “พี่สะใภ้ห้าสวมผ้าปิดปากเอาไว้แล้วพูดว่าสามารถที่จะรักษาข้าให้หายได้งั้นหรือ?ข้าว่าพี่สะใภ้ห้าเองก็คงจะไม่เชื่อเช่นกัน?”
หยวนชิงหลิงคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะยังถือสาเรื่องของผ้าปิดปากอีก “ผ้าปิดปากอันนี้ ทำให้ใจของท่านอ๋องทุกข์ใจหรือ?”
อ๋องหวยกล่าวตอบอย่างนิ่งเฉย : “ไม่ได้ทุกข์ใจ เพียงรู้สึกว่าข้าเป็นดั่งนักโทษรายหนึ่ง นักโทษที่ทำได้แต่เผยแพร่ความตายเท่านั้น”
หยวนชิงหลิงกล่าว: “ท่านไม่ใช่ต้นเหตุของเรื่องราวนี้ โรคนี้ต่างหากที่เป็น ท่านเป็นผู้ที่รับกรรม คือคนที่ได้รับความทุกข์ ส่วนเรื่องผ้าปิดปาก ที่จริงข้านั้นสามารถถอดออกได้ ข้าไม่มีทางติดโรคได้หรอก แต่ว่าข้าไม่อาจที่จะเสี่ยงได้ เพราะชีวิตนั้นมีค่าอย่างมากยิ่งนัก ข้าพยายามใช้ทุกวิถีทางเพื่อที่จะปกป้องตัวเองเอาไว้ ท่านอ๋องติดโรค ทำให้ไม่มีความสุข สามปีมานี้ก็คงจะทุกข์ทรมานไม่น้อย วันๆ ได้เพียงแต่นอนอยู่บนเตียง ไม่สามารถออกไปไหนได้ ขยับเพียงนิดเดียวก็ไอจนปอดแทบจะพัง ข้าเข้าใจความทุกข์ของท่านอ๋อง และข้าก็เข้าใจที่ท่านอ๋องไม่เชื่อในตัวหมอใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งคาดว่าเหมือนตอนนี้สถานการณ์กำลังจะดีขึ้น แต่เมื่อก่อนนี้ในตอนที่มีการทดลองเปลี่ยนยา ก็มักจะมีผลลัพธ์ออกมาบ้าง แต่พอผ่านไปได้ไม่กี่วัน อาการก็กำเริบอีกจนไม่สามารถสะกดเอาไว้ได้ จนทำให้อาการทรุดหนักลงทันที จนทำให้ท่านอ๋องนั้นหมดซึ่งความหวังแล้วสินะ?”
อ๋องหวยไม่ตอบกลับใดๆ ทั้งที่ได้เพียงยอมรับอย่างเงียบๆ
ไม่มีจิตตนุภาพที่ต้องการเอาชนะ ไร้ซึ่งความยืนหยัดที่จะต่อกรกับโรคร้าย ต่อให้ข้านั้นจะใช้ยาที่ดีที่สุด ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถช่วยท่านได้
แต่ไม่ได้นำไปปฏิบัติใช้ในชีวิตจริง น่าจะดีกว่าหากจะรีบแจ้งกับข้า เพราะจะได้ประหยัดยาชั้นดีเหล่านี้ของข้าด้วย”
“นี่พี่สะใภ้ห้าคิดว่าข้ายังให้ความร่วมมือไม่เพียงพออีกหรือ?” อ๋องหวยเริ่มโมโหขึ้นมา จนใบหน้าแดงระเรื่อขึ้นมา ก่อนจะหันหน้าไปด้านหลัง แล้วเอนไปข้างไอออกมาบนผ้าที่เคยใช้เป็นประจำ
ทว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเพียงเปลือกนอก แล้วในท้ายที่สุดท่านจะไม่ให้ความร่วมมือ” หยวนชิงหลิงลุกขึ้นยืนเดินไปยังหัวเตียง แล้วใช้มือดึงผ้าที่เขาใช้เช็ดปากออก
ซึ่งก็พอจะคาดเดาได้เลยว่า ในขณะที่แม่นมสี่จดจ้องนั้นเขาได้ทำการกินยาเข้าไป แต่สุดท้ายก็ใช้การไอมาเป็นข้ออ้างในการคายยาออกมาไว้ในผ้าเช็ดปาก เดิมทีหยวนชิงหลิงไม่ได้สงสัยอะไร แต่ในตอนที่เขาหันหลังกลับไปแล้วผ้าเช็ดปากเปิดออกแล้วมียาเม็ดหนึ่งโผล่ออกมา
เขาไม่เชื่อ เขาไม่กินยา ซึ่งก็ทำให้ใจไร้ซึ่งความหวัง
หยวนชิงหลิงผิดหวังอย่างมาก ซึ่งสามารถกล่าวได้เลยว่าเมื่อวานหลังจากที่นางกลับไปแล้ว เขาได้คายยาทั้งหมดออกมานั่นเอง
“ท่านอาจจะคิดว่าสิ่งที่ท่านคายออกมานั้นเป็นเพียงแค่ยา แต่ที่จริงแล้วสิ่งที่ท่านคายออกมานั้นคือชีวิต แล้วแต่ใจท่านเถอะ ไม่มีผู้ใดจะมาใส่ใจแทนตัวท่าน ขนาดตัวท่านยังไม่ใส่ใจตัวเองเลย เช่นนั้นท่านก็จงไปอยู่ในปรโลก คอยมองดูท่านแม่ของท่านอำลาคนหนุ่มสู่โลกหลังความตายเถอะ”
จู่ๆ อ๋องหวยก็ตะโกนออกมาเสียงดัง “เจ้าหุบปาก!แล้วไสหัวออกไปเสีย!”
หยวนชิงหลิงหันหลังแล้วเดินไปสองก้าว ก็หยุดชะงัก หลังจากที่ยืนอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นนางก็หันหลังกลับมาอีกครั้งแล้วยกเก้าอี้ขึ้นทุบลงบนพื้นอย่างรุนแรง จนเกิดเสียงดังขึ้นมา แล้วเก้าอี้ก็แตกเป็นเสี่ยงๆ
ดวงตาขอนางแดงเดือดพร้อมตะโกนออกมาอย่างโมโห
: “ท่านโวยวายอะไรกัน?ท่านมีสิทธิ์อะไรกันทีจะโวยวายเช่นนี้?คิดว่าข้าไร้อารมณ์โกรธหรืออย่างไร?ข้าทุ่มกำลังกายใจมารักษาท่าน แล้วยังจะต้องมาคอยรองรับอารมณ์ของท่านอีกงั้นหรือ?รักษาท่านหาย คุณงามความดีของข้าก็เป็นแค่เรื่องสูญเปล่า แต่หากรักษาท่านไม่ได้ เสด็จพ่อของเจ้าจะลงโทษข้าอย่างไรก็ยังไม่ทราบเลยด้วยซ้ำ นี่เจ้าไม่รู้เลยหรือว่าหากเจ้าตายแล้วต้องมีคนในจวนจำนวนมากมายต้องตายเพราะเจ้า?เจ้ามีสิทธิ์อันใดกันที่กล้ามาทำตัวเป็นเด็กน้อยขี้แยในเวลาเช่นนี้?ยาเหล่านี้มีมูลค่ามากเพียงใดนั้นต่อให้ท่านพยายามใช้สมองของท่านมากเพียงสักแค่ไหนก็ไม่อาจประเมินออกมาได้ ท่านไม่ชื่นชอบ แต่ท่านทราบหรือไม่ว่ามีผู้ป่วยวัณโรคจำนวนเท่าไหร่ที่รอคอยยาเหล่านี้ในการเยียวยาชีวิตต่อไป?ข้าขอเตือนท่านเอาไว้เลยว่านับแต่วันนี้ไปหากท่านกล้าคายยาออกมาแม้แต่เม็ดเดียว ข้าจะสังหารท่านเสีย จะได้ลดความลำบากใจและความอึดอัดที่ท่านมอบให้กับทุกคน ท่านป่วยอยู่ที่กาย ไม่ใช่ใจท่านที่ป่วย พระชายาจี้ที่อยู่ด้านนอกเพียงกล่าวไม่กี่คำที่ว่าท่านจะตาย ท่านก็เชื่อคำพูดของนางแล้ว และยังคิดอีกว่าทุกคนไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตารอให้ท่านหายดีอีก ท่านตาบอดหรือไร?ที่ไม่เห็นว่าด้านนอกนั่นนอกจากพระชายาจี้แล้ว ยังมีพี่น้องที่ยังรักและใส่ใจท่านด้วยใจจริงอยู่ด้วย?หลิงเอ๋อร์ที่ไม่สนใจการคัดค้านของเสียนเฟย มาอยู่ที่นี่คอยดูแลท่าน ท่านมองไม่เห็นเลยหรือ?ท่านไม่ได้ใส่ใจบ้างเลย?ช่างเป็นคนที่จิตใจโหดเหี้ยม!”
หยวนชิงหลิงด่าเสร็จ ก็ผลักประตูเดินออกไป
ซึ่งผู้ที่อยู่ด้านนอกต่างก็ตื่นตกใจ
การพูดครั้งนี้หยวนชิงหลิงนั้น นางไม่ได้สนใจว่าจะมีผลกระทบสิ่งใดตามมาเลยแม้แต่น้อย จนทำให้ทุกคนที่อยู่ด้านนอกได้ยิน รวมถึงหลู่เฟยที่เพิ่งกลับไปนอนแต่ไม่อาจวางใจได้จึงกลับมาดู
ใบหน้าของพระชายาจี้ซีดเผือดดึงมือหยวนชิงหลิงเอาไว้ อย่างไม่สามารถอดกลั้นความโกรธที่ซ่อนเอาไว้ได้อีกแล้ว
: “พระชายาฉู่ เจ้าจงพูดมาให้ชัดเจน ข้าไปกล่าวหาว่าเขาจะไม่มีทางหายดีตั้งแต่เมื่อใดกัน?เจ้าอย่าได้มาพูดจาใส่ร้ายผู้อื่นเช่นนี้”
ก่อนจะด่าทอออกมาดั่งสายฟ้า “เจ้าหวังอยากจะให้เขาหายดีงั้นหรือ?เจ้าหวังอยากจะให้เขาหาย แล้วเหตุใดถึงไม่พิจารณาเสียหน่อยว่าสิ่งที่เจ้าพูดออกมานั้นมีแต่คำพูดแทงใจ?คนที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการรักษา เจ้าก็ดันออกไปป่าวประกาศว่าอีกไม่นานก็จะมีต้องมีเรื่อง จงใจให้เขาได้ยินแล้วจะได้ทุกข์ใจใช่ไหมเล่า?และข้าก็กล้าท้าเช่นกันว่าเจ้าจะต้องเคยพูดต่อหน้าเขาอีกด้วยว่าเขาไม่มีทางหายป่วยเป็นแน่ แล้วให้เขาอย่าหลงต่อสะกดจิตของข้า จะได้ไม่ต้องเจ็บปวด
พระชายาจี้โกรธเป็นอย่างมากจนตัวสั่น ดวงตาทั้งสองกลอกไปมา จนเกือบจะหมดสติลงไป
หลู่เฟยกล่าวห้ามอย่างขุ่นเคือง: “ทุกคนเงียบเดี๋ยวนี้ จะมาทะเลาะอะไรกันตั้งแต่เช้าตรู่เช่นนี้?เกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่?”
จึงรีบกล่าวขึ้นมา : “ท่านแม่หลู่ เมื่อสักครู่นี้พี่สะใภ้ใหญ่ไปตะโกนในลานว่าท่านพี่หกไม่มีทางรักษาหาย จากนั้นไม่นาน พี่สะใภ้ห้าจึงอาละวาดอยู่ด้านใน
หยวนชิงหลิงสงบอารมณ์โกรธลงแล้วเดินเข้าไปโน้มตัวเคารพ “หลู่เฟย อ๋องหวยคายยาออกมาจนหมด ยาทั้งสองครั้งที่เมื่อวานได้ทานไปก็คายออกมาจนหมด หากเป็นเช่นนี้ข้าเองก็ไร้ซึ่งปัญญาที่จะรักษาเขาให้หายได้ ข้าคิดว่าข้าควรที่จะไปรายงานแก่เสด็จพ่อโดยเร็วจะดีกว่าเจ้าค่ะ”
อ่าน บัลลังก์หมอยาเซียน ลิ่วเยว่ บทที่ 131 ท่านอ๋องไม่ให้ความร่วมมือ ออนไลน์ฟรี
บัลลังก์หมอยาเซียน นวนิยาย บทที่ 131 ท่านอ๋องไม่ให้ความร่วมมือ ชุดของผู้แต่ง ลิ่วเยว่ ได้รับการอัปเดตใน th.readeraz.com แล้ว ที่ บทที่ 131 ท่านอ๋องไม่ให้ความร่วมมือ บัลลังก์หมอยาเซียน เราเห็นว่านักแสดงนำหญิงล้วนเป็นเด็กผู้หญิงที่น่าสังเวชที่ด้านล่างของสังคม ถูกรังแกและกดขี่ แต่ ลิ่วเยว่ จะปล่อยให้หัวหน้าฝ่ายชายช่วยเธอให้รอดพ้นจากคนอื่นๆ แผนของผู้คน? ติดตาม บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 131 ท่านอ๋องไม่ให้ความร่วมมือ ที่นี่
บัลลังก์หมอยาเซียน ลิ่วเยว่ บทที่ 131 ท่านอ๋องไม่ให้ความร่วมมือ
บัลลังก์หมอยาเซียน นวนิยาย บทที่ 131 ท่านอ๋องไม่ให้ความร่วมมือ