บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 150

หรือว่าบางทีต้องผ่าศพออก

แต่ว่าตอนนี้ศพมีอาการบวมอืดแล้ว ยากเกินไปที่นางจะทำการผ่าศพคนเดียว

เมื่อคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า นางจึงหยิบแม่เหล็กออกมาสัมผัสไปตามบริเวณศีรษะของศพ

จนกระทั่งไล่มาจนถึงบริเวณหัวใจ แม่เหล็กก็เกิดปฏิกิริยาขึ้น โดยบริเวณหน้าอกมีการเคลื่อนไหวเล็กน้อยเช่นกัน

หยวนชิงหลิงวางแม่เหล็กลง แล้วทำการสำรวจบริเวณหน้าอกอย่างละเอียด ปรากฏว่าในหัวใจจะมีเข็มฝังอยู่ มันมีขนาดบางอย่างมาก ดั่งขนนกก็ไม่ปาน ถึงแม้ตอนนี้ร่างกายศพจะบวมอืดขึ้นแต่รูเข็มก็เล็กจนไม่สามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน

อย่างไรเสีย ตอนนี้คงต้องผ่าศพดูหัวใจเสียแล้ว

ตั้งแต่ไหนแต่ไรการชันสูตรพลิกศพก็ไม่เคยใช่เรื่องง่ายดายเลย

ซึ่งตัวนางก็ไม่ได้ประสบการณ์อันโชกโชน เพียงแค่เคยเข้าร่วมคลาสเรียนในตอนที่ยังเรียนหมอเท่านั้น

อีกอย่างตอนนี้ไหล่ของนางมีบาดแผล ไม่มีทางที่จะออกแรง เป็นเช่นนี้คงต้องเรียกให้สวีอีเข้ามาช่วยแล้ว

สวีอีที่รออยู่ด้านนอกด้วยความร้อนรน เมื่อเห็นประตูถูกเปิดออก เขาถึงกับสะดุ้งทันที “พระ……พระชายา!”

“เข้ามา ช่วยข้าหน่อย” หยวนชิงหลิงบอก

สวีอีมองยังไฟฉายบนหัวของนาง “สิ่งนี้คืออะไรกันพ่ะย่ะค่ะ?”

“อย่าเพิ่งพร่ำเพรื่อ รีบเข้ามาช่วยข้าเร็วเข้า ข้าเจอบางอย่างแล้ว” หยวนชิงหลิงขัดทันที

สวีอีที่ได้ยินว่าเจอบางอย่างแล้ว ก็รีบเข้าไปช่วยนางทันที

กลิ่นฉุนลอยฟุ้งออกมา ทำเอาสวีอีแทบอาเจียนออกมา หยวนชิงหลิงจึงรีบหยิบผ้าปิดปากออกมาให้เขาสวมเอาไว้ แต่ถึงอย่างนั้นกลิ่นก็ยังแรงจนทำเอาสวีอีแทบจะขาดใจตาย

หยวนชิงหลิงรอให้เขาจัดการการรับรู้กลิ่นของตัวเองจนเรียบร้อย จึงค่อยส่งมีดผ่าตัดให้กับเขา

“เจ้าช่วยข้าผ่าหัวใจศพออกมาที ข้าอยากเห็นว่าด้านในนั้นมีเข็มฝังอยู่หรือไม่”

“ห๊า?เปิดหัวใจ?” มือของสวีอีสั่นเทาขึ้นมา โดยเฉพาะในตอนที่เห็นศพเหล่าเขียวช้ำ ทั้งยังบวมอืดไปหมดแล้ว เขาก็ยิ่งตื่นตระหนก

“กลัวอะไรกัน?คนตายไปแล้ว ถ้าหากเจ้าช่วยพวกเขาค้นพบตัวฆาตกร ให้พวกเขาได้นอนตายตาหลับสักที พวกเขาจะขอบคุณเจ้าด้วยซ้ำ”

หยวนชิงหลิงกดเสียงต่ำ

ภายใต้แรงกดดัน สวีอีจึงทำได้เพียงลงมีดเท่านั้น

เมื่อผ่าเปิดหัวใจออกมา หัวใจทั้งดวงกลายเป็นสีดำ ทั้งยังค้นพบว่ามีเข็มเล็กๆ ฝังอยู่ในนั้นด้วย

หยวนชิงหลิงใช้ตัวคีบหยิบเอาเข็มออกมา แล้วมองไปยังหัวใจที่เปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำนั้น

“ถูกพิษสินะพ่ะย่ะค่ะ?” สวีอีกล่าวขึ้นด้วยอาการคลื่นไส้

“มีความเป็นไปได้ มีคนยิงเข็มยาพิษนี้ใส่พวกเขาให้พวกเขาเกิดอาการขาดอากาศหายใจภายในทันที ส่วนบาดแผลด้านนอกเป็นเพียงการตบตาเท่านั้น เจ้าลองผ่าศพอื่นๆ ดูสิ ว่าเป็นเช่นเดียวกันหรือไม่ ?” หยวนชิงหลิงกล่าว

สวีอีถึงกับตกตะลึง “ถ้าหากเป็นอย่างที่ท่านว่า คนที่ทำร้ายพวกเขาจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้ยาพิษงั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ ?”

“ดูเหมือนจะถูกต้อง เพราะเขาใช้พิษในจำนวนน้อย แต่สามารถเจาะจงบริเวณได้อย่างตรงจุดทำให้คนสามารถตายได้ในทันที ทั้งยังทำให้ไม่มีการแพร่พิษไปยังบริเวณอื่นของร่างกายอีกด้วย”

หัวใจได้รับพิษ ทำให้หัวใจหยุดเต้นก่อน จึงทำให้พิษไม่สามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นของร่างกายหรือเส้นเลือดต่างๆได้ เช่นนั้นเมื่อเทียบการทักษะในการชันสูตรพลิกศพในยุคโบราณเช่นนี้แล้ว เป็นเรื่องที่พวกเขาไม่สามารถพิสูจน์ออกมาได้แน่นอน

อีกทั้งบนร่างกายศพมีบาดแผลมากมายเช่นนี้ เจ้าหน้าที่พิสูจน์ศพทั่วไปจะไม่ทำการผ่าศพเด็ดขาด เพราะพวกเขาถือว่านั่นเป็นการไม่ให้เกียรติต่อผู้ตาย

และอันที่จริงการจะบอกว่าแผลนั้นเกิดขึ้นก่อนหรือหลังจากที่ผู้ตายเสียชีวิต หมอนิติเวชผู้มากประสบการณ์จะสามารถบอกได้เลยทันทีที่ได้เห็นศพ แต่หยวนชิงหลิงไม่ใช่หมอนิติเวช รวมทั้งศพที่ขึ้นอืดจากการถูกทิ้งไว้เป็นเวลานาน ยิ่งทำให้นางไม่สามารถที่จะวิเคราะห์ได้เลย

ซึ่งแน่นอนแล้วว่านางไม่สามารถวิเคราะห์สาเหตุการตายที่แน่ชัด บางทีผู้ตายอาจถูกทำร้ายในขณะที่กำลังขาดอากาศหายใจก็เป็นได้ ความต่างของช่วงเวลามีความไม่ชัดเจน ดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่จะถูกทำร้ายหลังจากที่เสียชีวิตแล้ว

สวีอีได้ทำการผ่าเปิดหัวใจของผู้ตายอีกคนหนึ่ง ปรากฏว่าพบเข็มเล็กๆ เช่นเดียวกันอยู่ในนั้น ทั้งหัวใจก็เป็นสีเดียวกัน

เขาเกิดความเคลิบเคลิ้ม จนลืมความกลัวไปจนหมด ซึ่งในขณะที่กำลังทำการผ่าศพอีกครั้ง กลับมีเสียงฝีเท้าจำนวนมากดังแทรกเข้ามาจากด้านนอก

ทันใดนั้นประตูก็ถูกผลักเข้ามาทันที

สีหน้าของหยู่เหวินเห้าเต็มไปด้วยความโกรธพร้อมกับพาผู้ช่วยกรมและคนอื่นๆ ตามมาด้วย เมื่อเขาได้เห็นหยวนชิงหลิงกำลังยืนอยู่ด้านข้างศพ เขาก็เกิดความรู้สึกที่ทั้งโกรธทั้งเจ็บปวดใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน