บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 16 ช่วยหรือไม่ช่วย

ไท่ซั่งหวงกลอกพระเนตรมองไปยังบรรดากลุ่มผมดำ ๆ ของผู้คนที่คุกเข่ากันสลอนเต็มพื้น พระโอษฐ์ขยับไหวสั่น แต่ไม่อาจตรัสสิ่งใดออกมาได้แม้เพียงคำเดียว สุดท้ายจึงทอดถอนพระปัสสาสะออกมาแผ่วเบา คล้ายมีสิ่งที่ค้างคาในพระทัย
หยวนชิงหลิงรู้ว่าพวกเขาคุกเข่าอยู่ที่นี่ ก็เพื่อรอเวลาที่ไท่ซ่างหวงจะเสด็จสวรรคต ตอนที่เพิ่งเข้ามาเมื่อครู่ พระองค์ก็ดูเหมือนว่าจะเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายแล้ว ดูตามสถานการณ์ก็คงจะมีอันเป็นไปในไม่ช้า
แต่เมื่อมองไปที่พระองค์ในยามนี้ กลับดูไม่เหมือนตะเกียงที่น้ำมันใกล้จะเหือดแห้งเท่าไหร่ ในทางกลับกัน พระองค์ทรงมีพละกำลังในการหายใจมากขึ้นกว่าเดิมแล้วด้วย
แต่อาจเป็นเพราะบางที ยาที่หมอหลวงถวายอาจกำลังได้ผลก็เป็นไปได้
ไท่ซ่างหวงคล้ายว่าจะทรงมีโรคหัวใจอยู่เป็นทุนเดิม ประกอบกับการต้องลมเย็น จนเกิดประชวรหนัก
เกรงว่าจนถึงตอนนี้ อาจร้ายแรงจนเกิดเป็นภาวะหัวใจล้มเหลวได้แล้วกระมัง?
หัวใจล้มเหลว หายใจลำบาก ..... มันมีโดปามีนอยู่ในกล่องยาของนางนี่นา!
บังเกิดความคิดนี้แล่นปราดขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย แค่เรื่องที่นางเข้าใจภาษาสุนัข ก็ยังไม่ทันหายรู้สึกสยองขวัญเลยด้วยซ้ำ นางกลับต้องเผชิญหน้ากับบททดสอบเรื่องความเป็นความตายของคนเข้าอีก แต่ถึงจะอย่างไรก็ตาม ต่อให้นางจะสับสนแค่ไหน นางก็รู้แก่ใจดีว่าไม่มีใครยอมเชื่อนางแน่ๆ
ดังนั้นสุดท้ายแล้ว ความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวก็คือ นางต้องมองดูไท่ซ่างหวงสิ้นลมไปต่อหน้าต่อตานางอย่างไม่อาจทำอะไรได้
หากพูดในมุมมองของคนเป็นหมอที่ช่วยชีวิตคนไข้จนเป็นวิสัย สิ่งนี้ช่างเป็นอะไรที่ทรมานจิตใจจนยากเกินจะทานทนจริงๆ
ร่างนางก็เริ่มสั่นไหวโอนเอนแล้ว ท่าคุกเข่าของนางนั้น เป็นอะไรที่ทั้งอึดอัดและต้องเกร็งตัวจนแข็งทื่อไปหมด เป็นเพราะร่างกายของนางตอนนี้กำลังชาดิก และเพราะนางไม่อยากทนทรมานจากการที่แผลจะกระทบกระเทือน
เสี้ยวหน้าด้านข้างคมเข้มเด่นชัด ทั้งร่างถูกปกคลุมไปด้วยความเศร้าโศก ดูไปแล้วไม่เหมือนว่าเป็นความรู้สึกปลอมๆ คำพูดที่เขาว่ากันว่า พวกราชวงศ์ต่างก็ไร้ซึ่งความรักต่อกันพรรค์นั้น
ท่านหมอหลวงเยวี้ยนพ่าน พากันเดินออกไป
พอจะได้ยินคำพูดสองสามประโยคที่พวกเขาพูดกันแว่วๆ ฮ่องเต้หมิงหยวนทรงเห็นว่าสถานการณ์ของไท่ซ่างหวงดีขึ้นบ้างแล้ว จึงตรัสถามหมอหลวงผู้วินิจฉัย ว่าควรให้เสวยยาอีกหรือไม่ แต่หมอหลวงผู้วินิจฉัยทูลกลับไปว่า นี่อาจเป็นปฏิกิริยาเฮือกสุดท้าย
เมื่อฮ่องเต้หมิงหยวนเสด็จกลับเข้ามาอีกครั้ง ก็ทรงมีรับสั่งให้คนวางม่านพลับพลา
รวมถึงม่านพลับพลาสีเขียวด้านนอกลง ตรัสด้วยสุรเสียงหนักอึ้งเคร่งเครียดว่า "พวกเจ้า
ไทเฮาเริ่มกันแสงอีกครั้ง ทั้งวรกายของพระนางดูหมดสิ้นเรี่ยวแรง ไร้สิ้นหนทาง และโศกเศร้าโศกาอย่างหาใดเปรียบ ฮองเฮาประทับนั่งอยู่เคียงข้าง กุมจับพระหัตถ์ของพระนางไว้จนแน่น แต่ไทเฮาก็เอาแต่ทอดพระเนตรมองไปยังคนบนแท่นบรรทม ท่านผู้นี้ เป็นผู้ที่อยู่กับพระนางมาโดยตลอด อยู่ด้วยกันมาจนเกือบตลอดทั้งชีวิต
ไทเฮาทรงถูกเกลี้ยกล่อมให้เสด็จออกไปนอกม่านกั้น ฮ่องเต้เสด็จเข้ามาพยุงนางไปนั่งด้วยองค์เอง ทันทีที่พระนางประทับนั่งลง วรกายก็แทบจะทรุดล้มลงไปให้ได้
คนแรกที่ได้เข้าไป คือคู่ของอ๋องชินลุ่ยสามีภรรยา
อ๋องชินลุ่ยเป็นพระโอรสองค์โตของไท่ซ่างหวง เป็นโอรสร่วมอุทรเดียวกันกับฮ่องเต้หมิงหยวน ทั้งสองล้วนเกิดจากไทเฮาทั้งคู่
กล่าวคำลาสองสามคำกับไท่ซ่างหวง เสร็จแล้วก็ถอยออกมา ตอนที่ออกมา ดวงตาของพวกเขาต่างก็แดงก่ำ
ต่างก็กล่าวคำลาเพียงสองสามคำ แล้วก็ถอยออกมาเช่นกัน เป็นคำพูดไม่กี่คำ
แต่ละคนที่เข้าไป ใช้เวลาประมาณสามนาที ถ้าต้องตรวจชีพจร ฉีดยาโดปามีนเข้าเส้นเลือดดำของไท่ซ่างหวง โดยยึดตามหลักการใช้ปริมาณยา และความเร็วตามภาวะหัวใจที่ใกล้จะล้มเหลวอันยากจะหยั่งถึงเข้าไปแล้ว
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ขอเพียงแค่นางสามารถยื้อเวลาอยู่ข้างในนั้นได้ถึงห้านาที นางก็จะสามารถให้ยาได้สำเร็จนั่นเอง
ถ้านางช่วย นางจะต้องแบกรับความเสี่ยงอันใหญ่หลวง
แต่ถ้าไม่ช่วย นั่นก็คือหนึ่งชีวิตเหมือนกันนะ!
นางไม่มีเวลาให้มัวลังเลใจมากนัก สำหรับคนเป็นหมอแล้ว
อ่านนวนิยายออนไลน์ บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 16 ช่วยหรือไม่ช่วย
นวนิยายชุด บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 16 ช่วยหรือไม่ช่วย เป็นหนึ่งในผลงานที่ดีที่สุดของผู้เขียน ลิ่วเยว่ ที่ บทที่ 16 ช่วยหรือไม่ช่วย บัลลังก์หมอยาเซียน ตัวเอกชายและหญิงได้แก้ปัญหาให้กันและกัน ความรักของนางเอกช่างสูงส่งเสียเหลือเกิน ที่ บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 16 ช่วยหรือไม่ช่วย ในที่สุด นางเอกก็ตระหนักถึงความรู้สึกของเขา ความรักของพวกเขาจะชนะทุกสิ่งหรือไม่? ติดตาม บัลลังก์หมอยาเซียน ลิ่วเยว่ บทที่ 16 ช่วยหรือไม่ช่วย ที่ th.readeraz.com ได้แล้ววันนี้
บัลลังก์หมอยาเซียน ลิ่วเยว่ บทที่ 16 ช่วยหรือไม่ช่วย
นวนิยาย บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 16 ช่วยหรือไม่ช่วย