บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 253

วันรุ่งขึ้น เมื่อหยู่เหวินเห้าพอจะมีเวลาว่างเล็กน้อย ก็เข้าวังไปน้อมทักทายไท่ซ่างหวง

แต่การจะไปขอร้องให้ผู้อื่นช่วยจะไปมือเปล่าไม่ได้ ความจริงข้อนี้เขารู้ดีเสียยิ่งกว่าอะไร

หลังจากเดินวนรอบถนนจนครบหนึ่งรอบ เนื่องจากมีเวลาน้อยมาก จึงตัดสินใจซื้อใบยาสูบชั้นดีสองสามห่อแล้วกระวีกระวาดเข้าวังไปทันที

ไท่ซ่างหวงเหลือบมองที่ใบยาสูบคุณภาพดีเหล่านั้นแวบหนึ่ง แล้วสั่งให้ฉางกงกงไปนำที่เซียวเหยากงหามาให้เขาออกมา เปรียบเทียบทั้งสองชนิดแล้ว ใบยาสูบชั้นหนึ่งของเขาก็มีอันตกชั้น กลายเป็นขยะไปในทันที

หยู่เหวินเห้าพูดอย่างไร้ยางอายว่า: "ใบยาสูบไม่สามารถดูเพียงแค่สีหรือกลิ่น หรือแค่ดูสถานที่ผลิตเพียงอย่างเดียวเท่านั้น”

“เช่นนั้นแล้ว จะต้องดูอะไรรึ?” ไท่ซ่างหวงตรัสถาม

“ดูความตั้งใจ” หยู่เหวินเห้าคลานเข่าเข้าไปข้างหน้า แล้วค้อมตัวห่อไหล่พูดออกไปว่า “ท่านดูสิ จะดีจะชั่วอย่างไรก็เป็นความตั้งใจของหลานชายคนนี้ของท่าน อย่างน้อยก็ทรงโปรดรับน้ำใจนี้ของข้าไว้ด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ ภรรยาข้าก็พูดอยู่ว่า คนมีอายุสูบใบยามาก ๆ จะไม่ดีต่อร่างกาย หากว่าใบยาสูบนี้คุณภาพไม่ดี ท่านก็สูบให้น้อยลงหน่อย นี่ไม่เท่ากับว่ายิ่งดีต่อร่างกายของท่านหรอกรึ? "

“ไม่ต้องมาทำดีหวังผลต่อหน้าข้าหน่อยเลย ว่ามาเถอะ มีเรื่องอะไรล่ะ?” ไท่ซ่างหวงแค่นเสียงเย็นชา นับตั้งแต่แต่งงานกับหลานสะใภ้คนนี้ นับวันก็ยิ่งทำตัวกะล่อนไม่สำรวมไปทุกทีๆแล้ว แต่ก็ยังดีกว่าเมื่อก่อน ตอนอายุยังน้อย ๆ กลับเอาจริงเอาจังอย่างกับพวกตาแก่หัวดื้อ ช่างน่ารักน่าชังเสียจริง

หยู่เหวินเห้ารีบโน้มตัวไปข้างหน้า ยิ้มแฉ่งจนแก้มแทบปริ "ไม่มีอะไรมากพ่ะย่ะค่ะ หลานแค่อยากขอยืมคนสักสองคนมาใช้งาน"

"ใคร?"

“หลานอยากขอยืมองครักษ์ลับผีสักสองคน ไปช่วยปกป้องภรรยา ช่วงนี้นางต้องไปที่จวนอ๋องหวยอีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ” หยู่เหวินเห้าตอบ

“ทำไมล่ะ?” ไท่ซ่างหวงตกตะลึง

เป็นธรรมดา ที่หยู่เหวินเห้าจะไม่กล้าบอกเรื่องที่หลู่เฟยขายยา เมื่อชายชราฟังคร่าว ๆ ก็รู้ได้ทันทีว่าหลู่เฟยต้องทำอะไรบางอย่าง ซึ่งมีส่วนที่ทำให้เจ้าหกต้องเดือดร้อนไปด้วยแน่

“เห็นบอกว่าเพราะอากาศหนาวแล้ว จึงกลัวว่าอาการของโรคอาจมีการเปลี่ยนแปลง จึงต้องไปอีกสักหลาย ๆ ครั้งหน่อยพ่ะย่ะค่ะ” หยู่เหวินเห้ากล่าว

ไท่ซ่างหวงยกพระหัตถ์ขึ้น ฉางกงกงรีบไปหยิบไปป์สูบยามาทันที ชายชราวางท่าเกียจคร้านเหมือนพวกอันธพาลขาใหญ่คุมบ่อน พ่นควันยาทั้งหมดที่สูบไปเข้าใส่ใบหน้าของหยู่เหวินเห้าเต็ม ๆ หยู่เหวินเห้าหน้าแดงก่ำ อดสำลักกระอักไอออกมาไม่ได้

ท่ามกลางควันคลุ้งโขมง ชายชราพูดอย่างเฉยเมยว่า: "ไม่ต้องถามยืมหรอก หลังจากที่เกิดเหตุ ครั้งก่อน ข้าก็ได้ส่งองครักษ์ลับผีไปคอยคุ้มครองนางแล้ว"

หยู่เหวินเห้าตกใจมาก “เหตุใดหลานจึงไม่เคยรู้มาก่อน?”

ชายชราพ่นลมหายใจ "ถ้าเจ้ารู้ล่ะก็ ยังจะเรียกว่าเป็นองครักษ์ลับผีได้อยู่รึ?"

หยู่เหวินเห้าแอบเห็นด้วยในใจ: “จริงแท้!”

“ขอบใจ ไสหัวไปได้แล้ว!” ไท่ซ่างหวงโบกพระหัตถ์ไล่ ช่วงนี้นับวันพระองค์ก็ยิ่งคร้านจะพูดคุยอะไรกับใครให้มากมายนัก

หยู่เหวินเห้าโขกหัวทำความเคารพ "หลานขอบพระทัยในพระมหากรุณาธิคุณของเสด็จปู่เหลือเกินพ่ะย่ะค่ะ"

ฉางกงกงส่งเขาออกไป พลางกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า "ท่านอ๋องอย่าได้กังวลไป ไท่ซ่างหวงทรงห่วงใยเด็กในท้องของพระชายาเสียยิ่งกว่าท่านอีก"

หยู่เหวินเห้าแก้ไขคำเสียใหม่ "ยกเว้นเพียงเรื่องของพระชายาเท่านั้น ที่เป็นไปไม่ได้หากจะมีใครที่ห่วงใยนางมากไปกว่าข้า หรือกระทั่งจะให้คนอื่นมาใส่ใจมากกว่า ก็ยิ่งเป็นเรื่องไม่เหมาะสม"

“เป็นเช่นนั้นพ่ะย่ะค่ะ” ฉางกงกงยิ้ม “แต่น้ำส้มสายชูนี้ท่านจะกินเข้าไปก็คงไม่เหมาะเช่นกัน” (เป็นสแลงที่มีความหมายว่าหึงหวง)

หยู่เหวินเห้าถามฉางกงกงด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “ เสด็จปู่ได้ส่งองครักษ์ลับผีไปคุ้มครองพระชายาแล้วจริง ๆ น่ะรึ? ”

“ส่งไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ฉางกงกงตอบ

“จริงรึ?” หยู่เหวินเห้าถามย้ำเพื่อยืนยันอีกครั้ง

ฉางกงกงมองเขา แล้วถอนหายใจเฮือกอย่างรู้สึกจนใจ “ท่านอ๋อง แต่ก่อนนี้ท่านเคยเป็นคนเซ้าซี้ถึงเพียงนี้มาก่อนหรือไม่? เหตุใดข้าน้อยจึงจำได้เพียงว่า ท่านจะพูดหรือทำสิ่งใด ๆ ก็ล้วนรวดเร็วเฉียบขาดยิ่งนัก?”

หยู่เหวินเห้าปรายตามองฉางกงกงแวบหนึ่ง ก็ชักเท้าจากไปทันที

ขณะที่หยวนชิงหลิงกลับมาจากจวนอ๋องหวย นางก็ถูกพระชายาจี้มาขวางที่หน้าประตูใหญ่อีกครั้ง

หยวนชิงหลิงกอดอก มองนางอย่างจนใจ “ พระชายาจี้ ข้าไม่มียาแล้วจริงๆ”

“ข้าอยากคุยเรื่องนี้กับเจ้าหน่อย” พระชายาจี้กระซิบ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน