บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 254

หยู่เหวินเห้ากลัวว่านางจะต้องเจอกับพระชายาจี้อีก จึงแนะนำไปว่า: "ถ้านางกลับมาอีก เจ้าก็จงปฏิเสธจะพบหน้านางไปเลยตรงๆ พูดง่าย ๆ ก็คือ คนจวนอ๋องจี๋เราจะไม่ไปหาเรื่อง แต่ก็จะไม่ยอมพบหน้าเช่นกัน"

เขาคิดมาดีแล้ว ไม่ว่าในยามนี้เสด็จพ่อจะมีทัศนคติเช่นไร หรือจะทรงตั้งความหวังเช่นไรต่อพี่ใหญ่ เขาก็ไม่สนใจทั้งนั้น

เรื่องที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือนางกับลูก ส่วนเรื่องอื่นใดทั้งหลาย รอจนลูกคลอดออกมาก่อนค่อยว่ากัน

“ข้าเข้าใจแล้ว จริงสิ คดีเป็นอย่างไรบ้าง?” หยวนชิงหลิงถาม

ช่วงนี้หยู่เหวินเห้าออกไปแต่เช้าตรู่ กลับมาจนดึกดื่น เป็นเพราะพอจะคลำทางไปจนเจอเบาะแสของเมืองถิงเจียงได้ แม้ว่าระหว่างนั้นเขาจะอยู่ในวังเพื่อพักฟื้น แต่เจ้าหน้าที่ของกรมต่างก็ทำงานกันอย่างหนักไม่ว่างเว้น โดยเฉพาะทังหยางที่ช่วงนี้แทบจะหายตัวไปไม่เห็นแม้เงา ดังนั้นจึงคิดได้แค่ว่า ทุกคนคงจะยุ่งมากเพราะเรื่องนี้เป็นแน่

หยู่เหวินเห้าเล่าว่า "โทษของโม่เหวินถูกตัดสินชี้ขาดแล้ว แต่เรื่องที่ว่าหัวของเขาจะหลุดออกจากบ่าหรือไม่ ก็ต้องขึ้นอยู่กับจำนวนคน ที่เขาจะยอมอ้าปากสารภาพออกมาแล้วล่ะ"

“โม่เหวินคนนี้ เป็นลูกพี่ลูกน้องของพระชายาจี้ใช่หรือไม่?” หยวนชิงหลิงถาม

“ใช่ ข้าได้ตรวจสอบจนพบว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ของที่ส่งไปแสดงความกตัญญูกตเวทีของโม่เหวิน ได้ถูกส่งไปยังจวนอ๋องจี้ ชนิดไม่เคยขาดตอนเลยเชียวล่ะ”

หยวนชิงหลิงเอียงศีรษะ พลางพูดอย่างครุ่นคิด: "ส่งไปจวนอ๋องจี้? ไม่อยู่ในมือของอ๋องจี้แล้วรึ? เช่นนั้นอ๋องจี้จะยังหนีไปไหนได้อีก?"

หยู่เหวินเห้าตอบว่า: "ใช่ ยึดตามวิธีการของพี่ใหญ่ พระชายาจี้จะต้องเป็นคนที่ถูกผลักออกมารับผิดในเรื่องนี้แน่"

หยวนชิงหลิงเข้าใจกระจ่างแล้ว พูดขึ้นว่า: "มิน่าล่ะ นางถึงได้มาหาข้า แล้วบอกว่าจะช่วยให้เจ้าได้ครองตำแหน่งรัชทายาท พอจะสันนิษฐานได้ว่า พระชายาจี้ก็คงคิดจะใช้ไพ่ตายกับเขาแน่นอนแล้ว"

“ที่นางมา ไม่แน่ว่าจะเป็นความตั้งใจของนาง แต่อาจเป็นความตั้งใจของถงอันมากกว่า”

“ถงอัน?”

หยู่เหวินเห้าเล่าต่อ: "พี่ชายคนโตของพระชายาจี้ เคยเป็นเลขานุการกรมคลัง ตอนนี้ได้ย้ายไปอยู่ที่เน่ย์เก๋อแล้ว เป็นคนมีเส้นสายที่สามารถติดต่อผู้คนได้มากหน้าหลายตา อายุยังไม่มาก ทั้งยังมีอำนาจ เขาได้รับตำแหน่งหัวหน้ามาหลายปีแล้ว ช่วยดึงคนให้พี่ใหญ่มาได้ไม่น้อย ถ้าเขาทอดทิ้งพี่ใหญ่จริงๆ ความฝันของพี่ใหญ่ที่จะขึ้นสู่ตำแหน่งองค์ชายรัชทายาท ก็คงต้องพังทลายไม่เหลือชิ้นดีเลยเชียวล่ะ"

หยวนชิงหลิงส่ายหน้า "ไม่สิ ยังมีตระกูลฉู่อีกไม่ใช่รึ? เขาจะแต่งฉู่หมิงหยางเป็นชายารองแล้วนะ?"

“เจ้าบ้านตระกูลฉู่จะไม่มีวันเชิดชูพี่ใหญ่แน่” หยู่เหวินเห้าพูดอย่างมั่นใจ

หยวนชิงหลิงพยักหน้า " ก็จริง อ๋องฉีเป็นหลานเขยของเขา ถ้าอยากจะเชิดชูใครสักคนขึ้นไป ก็น่าจะเป็นอ๋องฉีมากกว่าอยู่แล้ว"

“ไม่หรอก นั่นก็ไม่แน่เสมอไป” หยู่เหวินเห้าพูดอย่างมีนัยลึกซึ้ง

หยวนชิงหลิงมองเขาด้วยความประหลาดใจ “ไม่แน่เสมอไป?”

หยู่เหวินเห้ากอดนาง “อย่าพูดถึงเรื่องน่าเบื่อเหล่านี้เลยนะ ไหน บอกข้ามาซิ ว่าวันนี้เจ้าไปไหนมา? แล้วทำอะไรบ้าง?”

“ไปจวนอ๋องหวย ได้เจอพระชายาจี้หลังกลับมาถึงจวน เดินเล่นกับตอเป่าครู่หนึ่ง แล้วก็คุยกับอาซี่อีกพักหนึ่งก็เท่านั้นเอง” หยวนชิงหลิงร่ายเหตุการณ์ราวกับคนท่องหนังสือก็ไม่ปาน

หยู่เหวินเห้าขมวดคิ้ว “หมายความว่าไม่มีการงีบหลับระหว่างวันรึ? ไม่! ไม่ได้! นับจากนี้ไป ต้องมีการงีบหลับทุกวันอย่าได้ขาด!”

"ข้าไม่ง่วง" ช่วงนี้รู้สึกมีเรี่ยวแรง ไม่รู้สึกอยากนอนสักนิดเลย”

หยู่เหวินเห้าเอ่ยอย่างเคร่งขรึม: "นี่คือคำสั่ง"

หยวนชิงหลิงกลอกตามองบนทันที

จะทำยังไงดีนะ? เริ่มจะรู้สึกว่าตัวเองเข้าสู่โหมดคู่สามีภรรยาแก่ ๆ อีกแล้ว หัวข้อสนทนาประจำวันก็มีแต่ การกินหรือไม่ก็การนอนแค่นั้น

“รอเจ้าจัดการธุระยุ่ง ๆ นี้เสร็จ พวกเราออกไปเที่ยวที่ไหนกันสักที่เถอะ” หยวนชิงหลิงชวน

“เจ้าอยากไปไหนล่ะ?” หยู่เหวินเห้าเสยผมนางขึ้น พลางถามอย่างนุ่มนวล

“แค่ไปเดินเที่ยวเล่น จะไปที่ไหนก็ได้ ทิ้งทุกเรื่อง ทิ้งผู้คน ทิ้งทุกสิ่งที่คุ้นเคยทั้งหลายไว้ที่นี่ แล้วไปใช้ชีวิตแบบสดชื่นแปลกใหม่กันสักสองวัน” หยวนชิงหลิงพูด

“ได้ รอให้ข้าทำคดีนี้เสร็จ ข้าจะออกไปเที่ยวเล่นกับเจ้าเอง อย่างไรพอถึงเวลานั้น ก็ไม่จำเป็นต้องไปที่จวนเจ้าหกแล้วด้วย” หยู่เหวินเห้ารู้ดีว่านางเบื่อหน่ายแค่ไหน จึงไม่ควรทำให้หญิงมีครรภ์โกรธ

หลังจากที่ทั้งสองกินข้าวเสร็จ พวกเขาก็จับมือกันเดินเล่นในสวนสักพัก หยู่เหวินเห้าก็ส่งนางกลับไปอาบน้ำแล้วเข้านอน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน