บัลลังก์หมอยาเซียน ตอนที่ 289ฟางหยู่วีรบุรุษกู้ชาติ

หยวนชิงหลิงเปิดโปงอย่างไม่รีรอ “พวกเขากำลังดื่มสุราอยู่ด้านใน”
แต่ฉางกงกงยังคงตอบกลับด้วยมารยาท : “เป็นเรื่องสำคัญจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ เชิญพระชายาไปถวายพระพรไทเฮาก่อนพ่ะย่ะค่ะ”
หยวนชิงหลิงรู้ดีว่าหากมีการดื่มขึ้นมาจะไม่มีการกำหนดปริมาณ แต่เมื่อประตูใหญ่ปิดสนิทเช่นนี้ นางไม่สามารถเข้าไปด้านในได้ เช่นนั้นนางจึงได้แต่จำยอม: “เช่นนั้นก็ได้ วานเจ้าไปแจ้งกับเสด็จปู่ด้วยว่าข้ามีเรื่องเร่งด่วน หลังจากที่ข้าไปถวายพระพรไทเฮากลับมา โปรดให้เขาอนุญาตให้พวกข้าเข้าพบด้วย”
ฉางกงกงยิ้มจางๆ : “รับทราบ!พระชายาเจ้าไปก่อน วันนี้ไท่ซ่างหวงมีความสุขยิ่งนัก ให้เขาได้สุขสำราญอีกสักนิดเถอะ”
หยวนชิงหลิงพยักหน้าเข้าใจ ก็จริงเพราะเรื่องที่อีกสักครู่นางจะพูดนั้นต้องทำลายความสุขของไท่ซ่างหวงเป็นแน่ เช่นนั้นก็ให้เขาได้เสพสุขสำราญอีกสักหน่อยดีกว่า
เมื่อเดินทางมาถึงฝั่งของไทเฮา พอดีกับเต๋อเฟยที่มาอยู่ที่นี่ด้วย ไทเฮามีความปลาบปลื้มเป็นอย่างมากจึงดึงตัวหยวนชิงหลิงเข้ามาดูอย่างละเอียดโดยเฉพาะท้องของนาง แต่พอดูไปดูมาคิ้วของนางกลับขมวดขึ้น “ครรภ์นี้ใหญ่เร็วจริงเลย อีกทั้งยังดูกลมๆ อีกด้วย”
เต๋อเฟยพูดพร้อมรอยยิ้ม : “ไทเฮา ครรภ์กลมโตไม่ดีหรือเพคะ?”
ไทเฮาเหลียวหันไปมองเต๋อเฟย : “เจ้าไม่เข้าใจ เจ้ายังไม่เคยคลอดลูกเลย ส่วนมากท้องกลมจะได้เป็นลูกสาว ส่วนท้องมีปลายแหลมถึงจะเป็นลูกชาย”
เต๋อเฟยตอบ “อ่อ” คำเดียวแล้วกลับมายิ้ม ในขณะที่แววตากลับมีความอ้างว้าง “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง หม่อมฉันยังไม่เข้าใจจริงๆ ”
ไทเฮารู้ตัวถึงสิ่งที่ตนพูด จึงหันไปตบมือนางเบาๆ “เจ้าปรนนิบัติฝ่าบาทได้อย่างดีที่สุดแล้ว อย่าไปใส่ใจเรื่องพวกนี้เลย”
เต๋อเฟยจึงตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม: “หม่อมฉันเป็นคนไร้บุญวาสนา ต่อให้ใส่ใจ ก็คงจะทำไม่ได้เพคะ”
“บุญวาสนาของคนไม่ได้ขึ้นอยู่กับทายาทเสมอไป ยังมีอย่างอื่นอีกมากมาย ตอนนี้เจ้าโชคดีเพียงใดที่ผ่านมาหลายปีแล้วแต่ฝ่าบาทยังไม่เคยละทิ้งเจ้าเลยสักครั้ง เจ้าควรที่จะรู้สำนึกจะดีกว่า” ไทเฮากล่าว
“เพคะ หม่อมฉันรู้ดี การที่หม่อมฉันได้มาอยู่เคียงข้างพูดคุยกับไทเฮาทุกๆ วันก็นับว่าเพียงพอมากแล้วเพค่ะ” เต๋อเฟยตอบ
ไทเฮายิ้มบางๆ ก่อนจะเรียกให้หยวนชิงหลิงนั่งลงพร้อมไถ่ถาม: “ทานอาหารได้เยอะหรือไม่?อาเจียนหรือเปล่า?หรือว่าชอบทานเผ็ด?ชอบทานอาหารรสเปรี้ยวหรือไม่?”
แต่นางไม่กล้าที่จะเอ่ยออกมา จึงได้แต่ตอบคำถามไปตามมารยาท: “ทูลท่านย่า ข้าพอทานอาหารได้บ้าง ส่วนอาการอาเจียนก็ไม่ค่อยเป็นบ่อยมากแล้ว
ไทเฮาพยักหน้ารับเบาๆ แล้วมองดูครรภ์ของนางอย่างถี่ถ้วน จนสุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะขอให้กำเนิดเป็นลูกชาย
ไทเฮาหันไปส่งสัญญาณให้แม่นมนำขนมเซียงจามาให้หนึ่งจาน ก่อนจะส่งให้กับหยวนชิงหลิง “เจ้าทานสักคำ ดูสิว่าชอบทานหรือไม่?”
นางกัดฟันทนกินจนหมด แล้วกล่าวออกมาตามตรง : “เสด็จย่าเพค่ะ ขนมเซียงจานี้ไม่ใส่น้ำตาลหรือเพคะ
ยังโชคดีที่ไม่ชอบทานเผ็ดด้วย นับว่ายังพอมีหวังแต่เพราะครรภ์มันกลมเกินไป หรือว่าเจ้าจะทานจนอ้วนขึ้น
เต๋อเฟยถึงกับอดยิ้มออกมาไม่ได้: “ไทเฮาทำเช่นนี้จะทำให้พระชายาฉู่ตกใจแล้วเพค่ะ ไม่ว่าจะเป็นซื่อจื่อหรือจวิ้นจู่ ขอให้แข็งแรงก็เพียงพอแล้ว เจ้าอย่าได้พูดอีกเลย ไม่เช่นนั้นหลังจากที่เด็กคนนี้กำเนิดออกมาแล้วทราบว่าเจ้าเคยรังเกียจจะทำให้เขาไม่สนิทสนมกับเจ้าได้เพค่ะ”
ลูกสาวทั้งสองคนของเจ้าใหญ่ล้วนไม่สนิทสนมกับข้า คนนี้ไม่อาจให้เป็นเช่นนั้นอีก เต๋อเฟยพูดถูก
นางจึงรีบสั่งให้คนเก็บขนมเซียงจากลับไป แล้วหันไปหาหยวนหย่งอี้ “เจ้าล่ะ?อภิเษกไปก็ตั้งนานแล้ว ตั้งครรภ์แล้วหรือยัง?”
หยวนหย่งอี้ยกกำปั้นขึ้นแล้วทุบลงไปบนท้องของตัวเองหลายที “ไม่เพคะ ยังคงปกติดี”
ไทเฮาถึงกับตกใจกับการกระทำของ ก่อนจะรีบยิ้มออกมา: “เจ้านี่ช่างน่าเวทนา เหตุใดเจ้าถึงได้มีนิสัยเหมือนท่านย่าของเจ้านักนะ ?ใช้แรงขนาดนี้ไม่เจ็บบ้างหรือ?”
หยวนหย่งอี้รีบตอบกลับทันที : “ไม่เจ็บเพคะ ไม่มีอะไรเลย เจ้าอ๋องไม่เคยนอนกับข้า เอาแต่ไปนอนกับพระชายา” นางชะงักไปครู่หนึ่ง
“ไม่ใช่ ตอนนี้เจ้าอ๋องก็ไม่ได้นอนกับพระชายาแล้วเช่นกัน ต่างแยกห้องกันหมด”
ไทเฮาถึงกับตะลึงงัน “หมายความว่าอย่างไร?ไม่นอนกับเจ้าเลยหมายความว่าอย่างไร?”
เรื่องนี้ได้อบรมเขาไปกี่ครั้งแล้ว?ว่าต้องมีความเท่าเทียมกัน แต่เขากลับมอบความโปรดปรานให้กับหญิงตระกูลฉู่นั่นคนเดียว
ไม่เอาไหน!
หยวนหย่งอี้ตอบอย่างตรงไปตรงมา: “ก็หมายความว่าเขาไม่เคยนอนกับข้าเลย นับตั้งแต่ที่อภิเษกเขาไม่เคยมานอนที่ห้องของข้าเลยเพค่ะ”
ไทเฮาตกใจไม่เบา “เช่นนี้ก็ได้หรือ?นี่ไม่ใช่ว่าเหมือนเจ้าห้าในตอนนั้นหรอกหรือ ?อภิเษกกันไปตั้งหนึ่งปียังไม่เคยมีการร่วมสัมพันธ์กันเลย จะปล่อยให้เป็นเช่นนั้นหรือ?ข้าจะต้องอบรมเขาหน่อยเสียแล้ว”
“ไม่ต้องหรอกเพคะ ข้าไม่ชอบให้เขามานอนด้วยกับข้า นอนคนเดียวดีจะตายเพค่ะ”หยวนหย่งอี้รีบปฏิเสธทันที ในขณะที่พูดนางพลางหันไปมองหยวนชิงหลิง ในแววตามีความปลาบปลื้มใจแฝงอยู่ ดีจริงๆ นางมีประสบการณ์เช่นเดียวกับพระชายาฉู่ด้วยแหละ
หยวนชิงหลิงที่เห็นประกายในดวงตาของนาง ก็ถึงกับหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก เด็กคนนี้แปลกคนจริงๆ !
แต่ว่าตอนนี้อ๋องฉีและหยวนหย่งอี้นั้นมีเรื่องราวที่เหมือนกับตัวนางและหยู่เหวินเห้าในตอนนั้นเลยจริงๆ ตอนนั้นในใจของอ๋องฉู่มีเพียงฉู่หมิงชุ่ย ตอนนี้ในใจของอ๋องฉีก็มีเพียงแต่ฉู่หมิงชุ่ย
พี่น้องสองคนนี้ตาบอดจริงๆ !
ตอนนี้หยวนชิงหลิงไม่อาจที่จะทนนั่งต่อไปได้อีกแล้ว พูดคุยเรื่องพวกนี้ไม่มีความน่าสนใจอะไรสำหรับนางเลย เพราะนางอยากจะไปพบโสวฝู่ฉู่โดยเร็วที่สุดเท่านั้น
อีกอย่างนั่งอยู่ที่นี่ไทเฮาก็เอาแต่จ้องมองครรภ์ของนางอยู่ตลอดเวลา ทำให้นางรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก
แล้วโชคดีก็เกิดขึ้นเมื่อเต๋อเฟยลุกขึ้นยืน : “ไทเฮาได้เวลาพักกลางวันแล้วเพคะ พระชายาฉู่จะไปนั่งยังตำหนักของข้าสักหน่อยหรือไม่ ?”
หยวนชิงหลิงจึงรีบลุกขึ้นยืนทันที “เพคะ!”
หยวนหย่งอี้ลุกขึ้นตาม “ข้าไปด้วยเช่นกันเพคะ!”
ทั้งสามถวายบังคมลาไทเฮาเรียบร้อยก็พากันเดินออกมาจากตำหนักพร้อมกัน
ทันทีที่เดินออกมาด้านนอก เต๋อเฟยก็หันไปกล่าวถามหยวนชิงหลิงทันที “เหตุใดใจของพระชายาฉู่ไม่ค่อยอยู่กับที่เลย?เกิดเรื่องอันใดขึ้นแล้วใช่หรือไม่?”
หยวนชิงหลิงที่ไม่คิดจะปกปิดอะไร จึงได้เล่าเรื่องราวให้กับเต๋อเฟยฟัง
อ่าน บัลลังก์หมอยาเซียน นวนิยาย ตอนที่ 289ฟางหยู่วีรบุรุษกู้ชาติ
ชุดนวนิยาย บัลลังก์หมอยาเซียน ของ ลิ่วเยว่ ได้อัปเดตบทล่าสุดแล้ว ตอนที่ 289ฟางหยู่วีรบุรุษกู้ชาติ. ที่ ตอนที่ 289ฟางหยู่วีรบุรุษกู้ชาติ ตัวละครชายและหญิงยังคงอยู่ที่จุดสูงสุดของปัญหา ซีรีส์ บัลลังก์หมอยาเซียน ลิ่วเยว่ ตอนที่ 289ฟางหยู่วีรบุรุษกู้ชาติ เป็นนวนิยายที่ดีมาก ดึงดูดผู้อ่านได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตอนที่ 289ฟางหยู่วีรบุรุษกู้ชาติ ได้นำรายละเอียดที่น่าตื่นเต้นมาให้ผู้อ่าน เนื้อหาใดที่ผู้เขียน ลิ่วเยว่ จะนำเรามาที่ ตอนที่ 289ฟางหยู่วีรบุรุษกู้ชาติ ติดตาม บัลลังก์หมอยาเซียน ตอนที่ 289ฟางหยู่วีรบุรุษกู้ชาติ ได้ที่เว็บไซต์ th.readeraz.com.
บัลลังก์หมอยาเซียน ลิ่วเยว่ ตอนที่ 289ฟางหยู่วีรบุรุษกู้ชาติ
บัลลังก์หมอยาเซียน ตอนที่ 289ฟางหยู่วีรบุรุษกู้ชาติ