บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 292 ความหวังอันน้อยนิด

sprite

คำพูดนี้เหมือนใบมีดที่นับไม่ถ้วน ในเวลาเดียวกันก็ได้ทิ่มแทงเข้าไปในใจหยู่เหวินเห้า

เขายื่นมือไปกอดนางเอาไว้ ในใจนั้นเจ็บปวดมาก หลับตาลง แต่ก็ไม่สามารถที่จะกดความเจ็บปวดและน้ำตาเอาไว้ได้

“ขอโทษ ขอโทษ.........” น้ำเสียงของเขา แผดเผาไปด้วยความเสียใจ

หยวนชิงหลิงก็เบิกตากว้าง แววตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

ที่แท้ การเมตตาต่อศัตรู ก็คือการโหดร้ายต่อตัวเองคำพูดนี้ เป็นคำพูดที่ถูกต้องที่สุด

นางเคยใจอ่อนขนาดนั้น เคยเมตตาขนาดนั้น เคยบริสุทธิ์ขนาดนั้น บัดนี้ล้วนตลกสิ้นดี

ลูกน้องข้างกายโสวฝู่ฉู่ ได้นำยามามากมาย

โสวฝู่ฉู่ได้เทยาทั้งหมดออกมาบนโต๊ะ เลือกออกมาจากในนั้นสองสามขวด เปิดฝาแล้วเทยาออกมา ยาทุกชนิด เขาได้กินมันเข้าไปก่อนหนึ่งเม็ด อดทนรอเวลาไปสิบนาที แล้วก็ค่อยบดยาป้อนให้แม่นมสี่

หยวนชิงหลิงไม่ได้ห้ามเขา หมอหลวงก็ไม่ได้ห้ามเขา

อยู่ในห้องนี้ เขามีสิทธิ์ที่จะทำการรักษาช่วยชีวิตแม่นมสี่ได้ทุกวิถีทาง

เขาไม่พูดอะไรทั้งนั้น และก็ไม่ถามอะไรเลย ใบหน้าก็ไม่มีความโศกเศร้าหรือความกังวลเหมือนกับท่อนไม้ แต่ว่าบนตัวเขาได้แผ่กระจายความสิ้นหวังออกมา ความสิ้นหวังของคนแก่คนหนึ่ง

หลังจากป้อนยาไปแล้ว เขาก็นั่งอยู่ข้างเตียง จับมือของนางเอาไว้ ไม่พูดไม่จา

สักครู่ใหญ่ ฉางกงกงกับเซียวเหยากงก็มาถึง

เซียวเหยากงได้นำบัวหิมะมาหนึ่งดอก สั่งคนไปต้ม โสวฝู่ฉู่ได้ป้อนนางด้วยตัวเอง ยาได้ไหลออกมาทางมุมปาก เข้าไปน้อยมาก ไหลออกมาเยอะกว่า

ลมหายใจ ยังคงแผ่วเบาอย่างมาก

แต่ว่า ดีกว่าเมื่อกี้นิดหน่อย

หมอหลวงจับชีพจร คำตอบยังคงคือสถานการณ์ไม่ค่อยจะดี

“โสวฝู่ฉู่ ท่านกลับไปก่อนเถอะ ในเวลาอันใกล้ นางยังคงไม่สิ้นใจ” เซียวเหยากงกล่าวปลอบใจ “ท่านควรกลับไปจัดการธุระก่อน”

โสวฝู่ฉู่ไม่ขยับตัวเลย กล่าวอย่างเรียบเฉย “ใจร้อนทำไม?”

“ไท่ซ่างหวงตรัสว่า ลงโทษผู้ปล่อยข่าวลือให้หนัก” เซียวเหยากงกล่าวด้วยเสียงเบา

โสวฝู่ฉู่กล่าวอย่างเรียบเฉย “ลงโทษให้หนัก”

เขาหัวเราะแล้ว “พวกเจ้าออกไปเถอะ ข้าอยากจะอยู่เป็นเพื่อนนาง”

ทุกคนก็ทยอยกันออกไป เหลือเพียงเขาสองคนที่อยู่ข้างใน

หยวนหย่งอี้อาศัยข้ออ้างอยู่เป็นเพื่อนอะซี่ ก็เลยไม่ได้กลับจวนอ๋องฉี

ไม่มีใครจะหลับตาลงได้อย่างจริงจัง ทั้งคืนหยวนชิงหลิงก็มาตั้งหลายครั้ง ให้น้ำเกลืออย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งที่มา โสวฝู่ฉู่ยังคงนั่งอยู่ข้างเตียง นั่งกุมมือของนางอยู่อย่างเงียบๆ จ้องมองนาง

มองจนหยวนชิงหลิงรู้สึกเศร้าใจนัก

ความหมายของหมอหลวงกับหยวนชิงหลิงก็คือเฝ้าสังเกตอาการหนึ่งคืน ดังนั้น ตอนใกล้ค่ำเซียวเหยากงก็ได้กลับไปก่อน ฉางกงกงนั้นอยู่ที่จวนต่อ

เช้าวันต่อมาพระอาทิตย์เพิ่งจะขึ้น เซียวเหยากงก็มาแล้ว ครั้งนี้ เซียวเหยากงได้พาคนมาด้วยสองคน ให้หยู่เหวินเห้าต้อนรับอยู่ข้างนอก เขาเข้าไปหาโสวฝู่ฉู่ก่อน

เซียวเหยากงเข้ามา ก็เห็นเขายังนั่งอยู่ข้างเตียงเหมือนกับท่านั่งตอนที่เขาจากไปเมื่อวาน เซียวเหยากงถอนหายใจเบาๆเหมือนอยากจะร้องไห้ “โสวฝู่ฉู่ ผมของท่านหงอกแล้ว”

ผมของโสวฝู่ฉู่ เดิมนั้นมีทั้งผมหงอกผมดำ แต่บัดนี้มันผมได้หงอกไปทั้งหัวแล้ว

เขานั้นก็ดูแก่ลงไปอย่างมากเหมือนกับดอกไม้ที่กำลังจะโรยรา จู่ๆก็โรยราไปทั้งหมด

โสวฝู่ฉู่มองเขาไปแวบหนึ่ง ก็ถามขึ้น “เรียกพระชายากับหมอหลวงมาตรวจชีพจรเถอะ”

“ท่านกลับไปพักผ่อนเถอะ ท่านอายุมากแล้ว ฝืนต่อไปไม่ได้แล้ว ท่านนึกว่าตัวเองยังหนุ่มอยู่เหรอ?” เซียวเหยากงกล่าว

“ไม่รีบ ยากนักที่ข้าจะได้มองนางอย่างเงียบๆแบบนี้” เขาหันหน้ามองใบหน้าของแม่นมสี่ ยื่นมือไปลูบผมของนาง “ครั้งที่แล้ว ตอนที่ข้าสัมผัสผมของนาง นางยังไม่มีผมหงอกเลยแม้แต่เส้นเดียว ตอนนี้ ผมหงอกไปไม่น้อยแล้ว เจ้าแก่เซียวเหยา พวกเราแก่ไปมากแล้วจริงๆ เรื่องมากมาย ยังนึกว่ายังสามารถที่จะรออีกหน่อย

เซียวเหยากงรู้ว่าเขานั้นลำบากมาทั้งชีวิต พวกเขาสามคน โสวฝู่ฉู่คนที่อดทนต่อความทุกข์ยากและมีความอดทนที่สุด นิสัยยิ่งแล้วใหญ่ ของอะไรที่ยึดมั่นแล้ว ทั้งชีวิตก็จะไม่เปลี่ยนแปลง

คนข้างนอก ต่างว่าโสวฝู่ฉู่เป็นคนมีความทะเยอทะยาน

เขาเห็นด้วย ใช่ โสวฝู่ฉู่มีความทะเยอทะยาน

แต่ว่า ความทะเยอทะยาน ไม่เคยอยู่บนตำแหน่งนั้น

ตอนที่หยวนชิงหลิงกับหยู่เหวินเห้าเข้ามา เห็นผมของโสวฝู่ฉู่หงอกไปทั้งหัว ต่างตกตะลึงกันไปทันที

หากหยวนชิงหลิงเคยเกลียดโสวฝู่ฉู่ เพราะเรื่องของแม่นมสี่ งั้นตอนนี้ก็ไม่โกรธแล้ว

ในขณะที่สายตามองเห็นผมที่หงอกของโสวฝู่ฉู่ ในใจนาง ก็เหลือเพียงเสียงสะอื้นและความเศร้า

ผู้ชายคนนี้ ต้องรักแม่นมสี่มากแค่ไหน?

หยู่เหวินเห้าก็ยื่นยาให้เขาหนึ่งขวด กล่าว “นี่เป็นยาที่เจ้าพระยาเจียงหนิงแห่งแคว้นต้าโจวนำมา เป็นยาที่ไทเฮาหลงของแคล้วต้าโจวสกัดด้วยตัวเอง เรียกว่ายาหลงเหยียน เดิมนั้นจะมอบให้เสด็จปู่ เจ้าพระยาเจียงหนิงบอกว่า

หมอหลวงได้ยินว่าเป็นยาที่ไทเฮาหลงแห่งแคล้วต้าโจวเป็นคนสกัดด้วยตัวเอง ก็ดีใจทันที รีบรับมันไป เทยาออกมาบนฝ่ามือหนึ่งเม็ด

เม็ดกลมมาก มีความแวววาว มีกลิ่นบัว ยานี้เมื่อเทใส่บนฝ่ามือ ความหอมก็ระเหยออกมา ทำให้หยวนชิงหลิงแปลกใจไม่น้อย

นำมันมาผสมกับน้ำ” โสวฝู่ฉู่ก็กล่าวอย่างรีบร้อน บนใบหน้าเขา ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ก็เย็นชามาโดยตลอด จนกระทั่งตอนนี้ ได้ยินว่าเป็นยาของไทเฮาหลง ใบหน้าและแววตาของเขาก็เปล่างประกายออกมาเหมือนกับดอกไม้ที่เหี่ยวเฉา

หยู่เหวินเห้ากล่าว เจ้าพระยาเจียงหนิงบอกว่า ยานี้ให้วางไว้ใต้ลิ้นโดยตรง ให้มันค่อยๆละลาย ไม่ต้องผสมน้ำในการดื่ม

โสวฝู่ฉู่ก็หยิบมันออกมาด้วยตัวเอง ค่อยเปิดปากของแม่นมสี่ออก นำยาหลงเหยียนวางลงไป

มือของโสวฝู่ฉู่ที่สัมผัสกับยา ทำให้มือเต็มไปด้วยความหอมของยา

โสวฝู่ฉู่มองนางโดยไม่ขยับสายตา ราวกับสามารถรับรู้ได้ว่ายาที่อยู่ในปากกำลังค่อยๆละลาย ถูกดูดซึม แววตาของเขา ค่อยๆมีแสงสว่างขึ้นมา

คนยังคงไม่ตื่น แต่ว่าหมอหลวงได้เข้ามาจับชีพจร ถึงหยวนชิงหลิงเข้ามาฟังเสียงหัวใจและวัดความดัน สองคนสบตากันแวบหนึ่ง แววตามีความดีใจ

บัลลังก์หมอยาเซียน ลิ่วเยว่ บทที่ 292 ความหวังอันน้อยนิด ออนไลน์ฟรี

นวนิยาย บัลลังก์หมอยาเซียน ลิ่วเยว่ บทที่ 292 ความหวังอันน้อยนิด ได้อัปเดตบทใหม่พร้อมเนื้อหาใหม่มากมาย ที่ บทที่ 292 ความหวังอันน้อยนิด บัลลังก์หมอยาเซียน คนที่น่าสังเวชสองคนนี้ถูกปฏิเสธโดยทั้งสังคม แม้ว่าจะมีข้อบกพร่องอย่างมากในด้านรูปลักษณ์และความเป็นมนุษย์ ลิ่วเยว่ คิดว่าพวกเขาเป็นชิ้นส่วนที่สมบูรณ์แบบสำหรับกันและกัน ติดตาม บัลลังก์หมอยาเซียน นวนิยาย บทที่ 292 ความหวังอันน้อยนิด ได้ที่เว็บไซต์ th.readeraz.com

บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 292 ความหวังอันน้อยนิด

บัลลังก์หมอยาเซียน นวนิยาย บทที่ 292 ความหวังอันน้อยนิด