บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 328

หยวนชิงหลิงรู้สึกโล่งใจขึ้นมาหน่อย นอกจากทำให้ตัวเองสบายใจแล้ว ยังรู้สึกโล่งใจกับคนอื่นๆด้วย

ถ้าหากเพราะอยู่ห่างไกลหน่อย หรือเป็นเพราะนางเคยกินผงอู๋โยวไปจึงทำให้ไม่เป็นอันตราย นั้นแสดงว่ายาพิษนี้ก็ไม่รุนแรง หมอหลวงอาจสามารถรักษาได้

แต่ว่าหยวนชิงหลิงยังคงให้ความร่วมมือแก่ฉู่หมิงชุ่ยเป็นอย่างดี ฉู่หมิงชุ่ยอคติไม่มีเหตุผลอยู่แล้ว หากทำให้นางหงุดหงิด จะไม่เป็นผลดีต่อตัวนางเอง

และฉู่หมิงชุ่ยคงไม่ทำให้นางได้ตายดีแน่ คงหาที่ที่จะทรมานนางอย่างช้าๆแน่ ดังนั้นถึงได้เอาชีวิตของคนอื่นมาข่มขู่นาง

ถ้าหากนางรู้ว่าเป้าหมายนี้ทำไม่สำเร็จ ไม่แน่ว่าตอนนี้นางอาจจะลงมือเลยก็ได้

นางไม่รู้ว่าวิชาศิลปะการต่อสู้ขององครักษ์ลับผีนั้นสูงแค่ไหน ดังนั้นจึงไม่เอาชีวิตเข้าไปเสี่ยงง่ายๆ และจะดูว่านางต้องการจะทำอะไรกันแน่

รถม้าได้มาถึงท่าเรือ ฉู่หมิงชุ่ยลงจากรถก่อนแล้วเอื้อมมือรับหยวนชิงหลิง

หยวนชิงหลิงดันมือของนางลง กรรมกรทั้งสองคนก็ประกบนางซ้ายขวา

มีเรือสินค้าลำหนึ่งกำลังขนถ่ายสินค้า พวกคนขนของถือกระสอบวิ่งมาด้วยความเร็ว หนึ่งในนั้นเกือบจะวิ่งชนหยวนชิงหลิงแล้ว ด้วยสัญชาตญาณหยวนชิงหลิงจึงช่วยพยุงไว้ แต่มีกรรมกรคนหนึ่งรีบก้าวขึ้นไปขวางด้านหน้า พูดขึ้นอย่างดุดันว่า “เจ้าตาบอดหรือ เจ้าเกือบจะชนฮูหยินของข้าแล้ว”

คนขนของคนนั้นรีบขอโทษ พอได้ฟังเสียงแล้วกลับเป็นเสียงผู้หญิง

หยวนชิงหลิงถูกลากเดินไป แต่นี่เป็นครั้งแรกที่นางแสดงความไม่ให้ความร่วมมือ พูดขึ้นอย่างโกรธเคืองว่า “ปล่อยข้า ข้าเดินเองได้”

ฉู่หมิงชุ่ยหันกลับมาดู ดวงตาที่จ้องมองไปยังใบหน้าของนางนั้นแหลมคมราวกับใบมีด พร้อมพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “เจ้าควรรู้จักสถานการณ์ให้ดีกว่านี้หน่อย”

หยวนชิงหลิงก้มหน้าลงและเดินตามนางไปโดยดี ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆอีก

เมื่อเรือเทียบท่าที่ฝั่ง กรรมกรจึงจับแขนของหยวนชิงหลิงแล้วลากนางขึ้นไปบนเรือ ฉู่หมิงชุ่ยก็ขึ้นเรือทันที

นอกจากฉู่หมิงชุ่ยแล้ว ยังมีกรรมกรอีกหลายคนก็ขึ้นเรือด้วย เรือลำนี้ถือว่ามีขนาดใหญ่ ต้องใช้คนขับเรือหลายคน

หยวนชิงหลิงที่ขึ้นเรือแล้ว รู้สึกแอบกังวล เพราะหากก่อนหน้านี้อยู่บนบก องครักษ์ลับผียังแอบตามมาได้ แต่ตอนนี้ องครักษ์ลับผีจะตามมาได้ยังไงกัน? คงไม่สามารถที่จะเหาะมาในอากาศ หรือจะดำน้ำตามมาได้

หากต้องการลงมือ ก็ควรที่จะลงมือก่อนขึ้นเรือแล้ว

ตอนนี้ฉู่หมิงชุ่ยรู้สบายใจเป็นอย่างมาก นั่งพิงเก้าอี้ในท้องเรือ แล้วพูดขึ้นอย่างใจเย็นว่า “รอองครักษ์ลับผีอยู่หรือ?”

สีหน้าของหยวนชิงหลิงมองดูนาง ด้วยท่าทีเปลี่ยนไปเล็กน้อย

ดวงตาของฉู่หมิงชุ่ยดูราวกับน้ำแข็ง พูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มจอมปลอมของนางว่า “เจ้าคิดว่าองครักษ์ลับผีกำลังตามเจ้าอยู่ข้าจะลงมือกับเจ้าได้หรือ? ตอนที่จวนอ๋องฉีเกิดเหตุไฟไหม้องครักษ์ลับผีต่างก็เข้าไปช่วยแล้ว ไฟเริ่มไหม้จากห้องของอ๋องฉีลามไปในบ้าน ชีวิตของอ๋องฉีตกอยู่ในอันตราย แน่นอนว่าองครักษ์ลับผีต้องไปช่วยแน่ แต่น่าเสียดาย ไปแล้วมันก็ไม่มีประโยชน์อะไร เพราะอ๋องฉี ถูกลิขิตให้ตายแล้วเท่านั้น “

หยวนชิงหลิงมองไปยังผู้หญิงที่เหมือนดั่งอสรพิษก็ไม่ปาน พูดขึ้นอย่างอดที่จะกังวลไม่ได้ว่า "เจ้าเป็นภรรยากับเขามาเป็นปียังเป็นลูกพี่ลูกน้องของเจ้าอีก เจ้ากลับลงมือได้อย่างโหดร้ายเช่นนี้ ฉู่หมิงชุ่ย แม้แต่สัตว์เดรัจฉานเจ้าก็สู้ไม่ได้”

“รีบด่าเถอะ” ฉู่หมิงชุ่ยเอนหลังพิงเก้าอี้ ด้วยท่าทางที่ผ่อนคลาย ราวกับว่าหยวนชิงหลิงไม่มีทางที่จะหนีพ้น พร้อมพูดขึ้นว่า "ด่าเสร็จ เจ้าก็ต้องตายไปพร้อมกับข้าแล้ว”

เรือแล่นออกไปแล้ว หยวนชิงหลิงเดินออกมาจากดาดฟ้า มองเห็นท่าเรือที่ไกลออกไป จะเรียกขอความช่วยเหลือก็ไม่มีประโยชน์

แม่น้ำสายนี้กว้างใหญ่ นางว่ายน้ำไม่เป็น ไม่สามารถว่ายกลับไปได้

“ข้าบังคับจับเจ้ามาตลอดทาง ก็เพียงเพราะแค่อยากให้เจ้าตายที่นี่เป็นเพื่อนข้า” ฉู่หมิงชุ่ยจู่ๆก็พูดดูเหมือนเหนื่อยล้าว่า “ตายคนเดียวมันเหงาเกินไป ถ้ามีเจ้าตายเป็นเพื่อนข้าก็ยอม”

นางค่อยๆ ลุกขึ้นยืน มองไปยังหยวนชิงหลิงที่กำลังเดินกลับมา ด้วยดวงตาที่เปล่งประกายว่า "ก่อนหน้านี้ข้าถามเจ้าว่ากลัวไหม เจ้ายังไม่ได้ตอบเลย”

“พวกนางไม่ได้ถูกวางยาพิษใช่ไหม?” หยวนชิงหลิงถาม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน