บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 339 ชื่นชอบกู้จือตรงไหน

sprite

พระชายาซุนมองใบหน้าขาวซีดนั้น ก็โมโหมากขึ้น “เจ้ากลัวอะไร เจ้าก็ลองสู้กับหญิงคนนั้นดูสักครั้งจะเป็นไรไป เจ้ารู้จักแสวงหาความตาย แล้วความกล้าในตอนแรกนั้นหายไปไหน ตอนนั้นเป็นตายอย่างไรก็จะต้องแต่งกับเจ้าสามให้ได้ ทำไมตอนนี้จึงได้เปลี่ยนเป็นคนอ่อนแอเช่นนี้ไปได้”

พระชายาซุนพูด แล้วก็หันมาพูดกับหยวนชิงหลิงว่า “เจ้าก็เข้ามาช่วยกล่อมนางที ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป ไม่แน่ว่าสักวันอาจจะตายด้วยน้ำมือตัวเองจริงๆ ไม่คุ้มค่าเลย ”

ที่จริงรอยแผลพวกนี้ หยวนชิงหลิงเห็นตั้งแต่ตอนที่ทำการตรวจให้นางแล้ว

แต่ว่าตอนนี้นางได้ปกปิดมันไว้อย่างรวดเร็ว แสดงว่าไม่อยากให้ใครรู้ นางก็เลยไม่พูดอะไร

แต่ตอนนี้ถูกพระชายาซุนรู้เข้าแล้ว อีกทั้งพระชายาซุนยังด่าออกไปตรงๆ นางจึงพูดว่า “พี่สะใภ้รองท่านอย่าเพิ่งร้อนใจไป ข้าคิดว่าพี่สะใภ้สามคงไม่ได้คิดสั้นเพราะกู้จือคนนั้นหรอก”

พระชายาซุนพูดอย่างโกรธๆว่า “ไม่ใช่เพราะนางก็เพราะเจ้าสาม ยังจะเพราะใครได้อีก”

หยวนชิงหลิงเดินเข้าไป ดึงพระชายาเว่ยให้นั่งลง พระชายาซุนเห็นดังนั้น ก็ค่อยๆเข้ามานั่งลง

พระชายาเว่ยแววตานิ่งขรึม มุมปากโค้งลง ขอบตาดำคล้ำมาก สีหน้าขาวซีดไปหมด ดูแล้วไม่มีชีวิตชีวาเลยแม้แต่น้อย

นางจึงถามขึ้นว่า “กลางคืนนอนไม่หลับตลอดเลยหรือ”

พระชายาเว่ยพยักหน้า “ใช่แล้ว นอนไม่ดีเลย”

“นอกจากเรื่องนอนไม่หลับเล่า ”หยวนชิงหลิงถาม

พระชายาเว่ยมองนาง ตอบอย่างสุภาพเยือกเย็นว่า “พระชายาฉู่อยากถามอะไร”

“ใจสั่น ปวดหัว หายใจลำบาก เกิดภาพหลอน หรือว่ารู้สึกไม่สบายตรงไหน เจ็บตรงนั้นตรงนี้หรือไม่ ”

พระชายาเว่ยนิ่งอึ้ง ดวงตาจ้องเขม็ง “เจ้ารู้ได้อย่างไร ”

พระชายาซุนได้ยิน ก็สะดุ้งตกใจ “คงไม่ใช่ถูกวางยาพิษหรอกนะ”

หยวนชิงหลิงไม่สนใจพระชายาซุน ยังคงถามต่อไปว่า “เริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”

ก็พักฟื้นอยู่เดือนกว่า แต่พักอย่างไรก็ไม่รู้สึกดีขึ้น ยังคงรู้สึกปวดหัวเวียนหัว จากนั้นก็รู้สึกปวดที่หู ปวดที่เอว ได้เรียกให้หมอมาดูแล้ว แต่หมอก็บอกว่าไม่เป็นไร ช่วงหลายวันมานี้ ก็เกิดภาพหลอนบ่อยๆ

“ตอนที่กรีดข้อมือ ใช่ตอนที่เกิดภาพหลอนหรือไม่ ”หยวนชิงหลิงถาม

พระชายาเว่ยยิ้มขม“ใช่ ก็ตอนที่ข้าเห็นภาพหลอนของเขาที่มาร้องไห้ต่อหน้าข้า ข้ารู้สึกทนไม่ได้ และข้าเองก็ไม่รู้ว่าทำไมจึงได้ลงมือไปอย่างนั้น ”

พระชายาซุนเบิกตาและอ้าปากกว้าง “สวรรค์ นี่เจ้าถูกทำคุณไสยหรือนี่”

พระชายาเว่ยเองก็สะดุ้งตกใจ “ไม่ใช่กระมัง ข้าไม่เคยไปล่วงเกินใครนี่นา”

“แล้วกู้จือคนนั้นเล่า เจ้าช่วยนางกลับมา ข้าดูแล้วนางก็ไม่ใช่คนดีอะไร ต้องเป็นนางที่ปองร้ายเจ้าแน่”พระชายาซุนเอ่ยด้วยเสียงฮึดฮัด

พระชายาเว่ยโบกมือไปมา “ไม่เกี่ยวกับนาง นางไม่เคยมาที่เรือนของข้าด้วยซ้ำ ข้าพบหน้านางน้อยมาก”

“เจ้ายังจะพูดจาแทนนางอีก เจ้านี่มันไม่ได้เรื่องจริงๆ ”พระชายาซุนยังคงคุกรุ่น “ผู้ชายของเจ้าก็ถูกนางแย่งไป เจ้ายังบอกว่านางเป็นคนดี”

“ข้าไม่ได้บอกว่านางเป็นคนดี แต่เรื่องนี้อาจไม่ใช่ฝีมือนางก็ได้ อย่างน้อยพวกเราก็ไม่มีหลักฐาน ส่วนเรื่องนางกับท่านอ๋อง ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังอยู่แล้ว

หยวนชิงหลิงรู้สึกคาดไม่ถึง ก่อนหน้านี้ได้ยินจากพระชายาซุนว่านางเสียใจเรื่องที่กู้จือคนนั้นตั้งครรภ์เป็นอย่างมาก เอาแต่ร้องห่มร้องไห้ เดิมคิดว่านางคงจะยึดติดอยู่อย่างนั้น คิดไม่ถึงว่านางจะใจกว้างมีเหตุผลขนาดนี้ อย่างน้อยนางก็สามารถพูดออกมาคำหนึ่งว่าจะโทษผู้หญิงฝ่ายเดียวนั้นมันไม่ยุติธรรม

พระชายาซุนสะบัดหน้า เอ่ยอย่างโมโหว่า “ข้าไม่อยากพูดกับเจ้าแล้ว เจ้ามันก็นิสัยอย่างนี้ คนอื่นจะขึ้นมาขี่หัวเจ้าอยู่แล้ว เจ้ายังจะบอกว่าไม่โทษคนอื่นเขาอีก”

พระชายาเว่ยสีหน้าลำบากใจ “พี่สะใภ้รอง พอเถอะ ทำไมท่านต้องโมโหกว่าข้าด้วย ถึงกับพูดจาหยาบคายขึ้นเรื่อยๆแล้ว”

พระชายาซุนพูดว่า “ข้าเป็นอย่างนี้ก็เพราะเจ้า ถ้าเจ้ามีใจสู้สักหน่อย ก็ไม่ต้องให้ข้ามาคอยร้อนใจแทนแล้ว เฮ้อ ไม่ไหว โมโหจนข้าปวดก้นไปหมด ไร้ประโยชน์จริงๆ”

“ทำไมจึงยังปวดอีก ก่อนหน้านี้กินยาของท่านหมอหายแล้วมิใช่หรือ”พระชายาเว่ยถามขึ้น

พระชายาซุนนั่งตะแคงข้าง ขมวดคิ้วราวกับเจ็บปวดจริงๆ “ไม่รู้ทำไมจึงกำเริบขึ้นอีก ตั้งแต่พระชายาฉู่ถูกจับตัวไปวันที่สองก็เริ่มปวดขึ้นมาแล้ว บางทีอาจเป็นเพราะร้อนใจเกินไป”

หยวนชิงหลิงมองนางใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย “เจ็บตรงไหน”

พระชายาซุนหน้าแดงก่ำ “ก็ที่ก้นนั่นแหละ”

“ประสาทกระดูกก้น ปวดเวลานั่งใช่หรือไม่ ใช่ตรงนี้หรือไม่ ”หยวนชิงหลิงยื่นมือไปกดตรงบริเวณกระดูกก้นกบของนาง “ตรงนี้ปวดหรือไม่ ”

พระชายาซุนส่ายหน้า “ไม่ใช่ แต่ว่าบางทีที่ปวดขึ้นมา ก็ปวดไปทั้งหมด ปวดจนจุกไปถึงหน้าอก”

หยวนชิงหลิงประหลาดใจ “ทำไมจึงปวดไปถึงหน้าอกด้วย ท่านปวดที่ไหนกันแน่ ท่านบอกให้ข้าฟังที ”

พระชายาซุนรีบมองออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว ไล่บ่าวรับใช้ออกไปจนหมด จากนั้นก็เอ่ยด้วยอาการหน้าแดงและเขินอายว่า “ก็เจ็บตรงนั้นน่ะสิ”

“ตรงไหนเล่า”หยวนชิงหลิงประหลาดใจ พระชายาซุนทำไมจึงหน้าแดง พระอาทิตย์คงขึ้นจากฝั่งตะวันตกแล้ว

พระชายาซุนเอ่ยเสียงอ่อนว่า “ก็คือที่ดวง……”

“ดวงตาหรือ เจ็บที่ตาทำไมจึง……”หยวนชิงหลิงเข้าใจขึ้นมาทันที ถามยิ้มๆว่า “ถ่ายหนักเป็นเลือดหรือไม่ ”

ท่านหมอบอกว่าข้างในมีฝี เคยกินยาแก้ร้อนในแก้พิษแล้ว แต่พอผ่านไปสักพักก็ปวดอีก จะนั่งนานไม่ได้

หยวนชิงหลิงนึกถึงยาริดสีดวงที่นอนนิ่งๆอยู่ในกล่องยาของนาง เห็นที วันนี้จะได้ใช้ประโยชน์แล้ว

ที่แท้ก็เตรียมไว้เพื่อพระชายาซุนนี่เอง

นางยังคิดว่าหญิงตั้งครรภ์นั้นง่ายต่อการเป็นริดสีดวงมาก ในกล่องยาจึงได้มียานี้เตรียมไว้ให้ ฉะนั้น นางก็คอยแต่คำนวณอยู่ว่าเมื่อไหร่ตัวเองจะเป็นริดสีดวง แต่ก็ไม่เห็นเป็นสักที ทำให้รู้สึกราวกับว่ายังคงมีเรื่องค้างคาทำไม่เสร็จเสียที

นางพูดยิ้มๆว่า “ข้ามียาอยู่หลอดหนึ่ง รักษาอาการฝีของท่านได้ผล ข้าจะหาให้ ”

เมื่อครู่ตอนที่ทำการตรวจให้กับพระชายาเว่ย นางก็เอากล่องยาออกมายังไม่ได้เก็บกลับไป

ยาริดสีดวงวางอยู่ด้านล่างสุด ยื่นส่งให้กับพระชายาซุนยิ้มๆ “ใช้บีบกดเข้าไปด้านใน แท่งนี้สามารถใช้ได้ห้าวัน หลังจากผ่านไปห้าวัน คิดว่าคงจะไม่เป็นไรแล้ว ถ้าหากยังกำเริบอีก

พระชายาซุนดีใจมาก “ได้ผลจริงหรือ เช่นนั้นก็ดีมากเลย นี่ก็ทรมานข้ามานานแล้ว”

พระชายาเว่ยยิ้มขึ้นมา

อ่าน บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 339 ชื่นชอบกู้จือตรงไหน

ผู้แต่ง ลิ่วเยว่ ที่ บัลลังก์หมอยาเซียน นวนิยาย บทที่ 339 ชื่นชอบกู้จือตรงไหน ให้รายละเอียดที่น่าสนใจอย่างยิ่ง นางเอกใน บทที่ 339 ชื่นชอบกู้จือตรงไหน บัลลังก์หมอยาเซียน ที่มีบุคลิกเสรีนิยมและเข้มแข็ง ได้นำเรื่องราวมาสู่รายละเอียดที่คาดไม่ถึง ส่งผลให้ความรักของคนสองคนเริ่มใกล้ชิดกันมากขึ้น นวนิยาย บัลลังก์หมอยาเซียน ลิ่วเยว่ บทที่ 339 ชื่นชอบกู้จือตรงไหน ได้อัปเดตบทล่าสุดที่ th.readeraz.com อ่านชุดเต็ม บัลลังก์หมอยาเซียน แล้ววันนี้

บัลลังก์หมอยาเซียน ลิ่วเยว่ บทที่ 339 ชื่นชอบกู้จือตรงไหน

บัลลังก์หมอยาเซียน นวนิยาย บทที่ 339 ชื่นชอบกู้จือตรงไหน