บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 34

บทที่ 34 ดีขึ้นเล็กน้อย

   หยวนชิงหลิงยืนขึ้นขยับมือที่แสนปวดเมื่อยสักพัก ไหล่และต้นคอก็ปวดจนเกือบจะทนไม่ไหวแล้ว

นางมองไปแวบหนึ่ง คนที่อยู่ตรงนี้ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นแพทย์ฝึกหัดหรือแม้กระทั่งพยาบาลด้วยซ้ำ ไม่มีทางที่จะให้คนอื่นมาช่วยงานได้เลย

“พระชายา หากลำบากจริงๆ ไม่สู้ไปเชิญแม่นมฉีมาช่วยเถอะ ฝีมือในการปักเย็บของนางไม่เลวเลย”สวีอีเอ่ยขึ้นอย่างละอายใจ เมื่อครู่ได้แสดงความเขลาออกไป ได้แต่หวังว่าครั้งนี้จะสามารถกู้หน้ากลับมาได้บ้าง

“หากท่านอ๋องเป็นเสื้อตัวหนึ่งแล้วละก็ สามารถเชิญแม่นมฉีมาช่วยได้จริงๆ”

หยวนชิงหลิงเอ่ยขึ้นเรียบๆ

อ๋องฉีทนไม่ไหวแล้ว “นี่เจ้าทำอะไรกันแน่ บาดแผลจะสมานได้เอง ทำไมต้องเย็บแผลด้วย”

ดูท่าแล้วหญิงคนนี้ก็รู้ศาสตร์การแพทย์อยู่บ้าง แต่ไม่ใช่การแพทย์ดั้งเดิม เป็นแพทย์แบบหมอผีอะไรเทือกนั้น กล่องนั้นก็เป็นกล่องของหมอผี

หากไม่ใช่คำสั่งของเสด็จปู่ เขาคงไม่สามารถมองนางทำอะไรตามใจเช่นนี้แน่

ที่น่าขันที่สุดคือนางบอกว่าเลือดของเขาไม่เหมาะกับพี่ห้า เขากับพี่ห้านั้นเกิดจากบิดาคนเดียวกัน สายเลือดเดียวกัน ทำไมถึงใช้ไม่ได้

หยวนชิงหลิงไม่อยากจะสนใจเขา หมุนตัวไปค่อยๆหมุนลำคอเพื่อผ่อนคลาย

อ๋องฉีโมโหจนเกือบกระอักเลือด เหมือนที่ชุ่ยเอ๋อร์พูดไว้ไม่มีผิด หยวนชิงหลิงคนนี้ เต็มไปด้วยคำหลอกลวง ได้ใจจนลืมตัวไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตา

เขายังคงเชื่ออย่างสนิทใจ ที่พี่ห้าดีขึ้นได้นั้น เพราะยาเม็ดจื่อจินของเขา

แต่ไม่ใช่เพราะหยวนชิงหลิง

แต่หยวนชิงหลิงคนนี้ ก็เริ่มทำการเย็บแผลอีกแล้ว

ระหว่างนั้น หยู่เหวินเห้าตื่นขึ้นมา แต่ว่าไม่ค่อยได้สติเท่าไหร่ มองหยวนชิงหลิงอย่างสะลึมสะลือ จากนั้นก็สลบไปอีก

หยวนชิงหลิงรู้ว่าเขาเจ็บมาก เพราะแม้ว่าเขาจะอยู่ในอาการสลบ แต่ร่างกายของเขาก็ยังคงสั่นเบาๆเพราะความเจ็บปวด แต่ว่า นางไม่มีทางอื่น เพราะในกล่องยาไม่มียาชาแล้ว

นี่ช่างน่าประหลาดใจจริงๆ กล่องยาเหมือนจะไม่ค่อยชอบหน้าหยู่เหวินเห้า เมื่อวานนางยังเห็นว่าในกล่องยามียาชาอยู่ขวดหนึ่ง แต่เมื่อครู่กลับหาไม่เจอ

กล่องยาราวกับมีความคิดเป็นของตัวเองอย่างไรอย่างนั้น รู้สึกหยู่เหวินเห้าน่าโมโห จึงไม่ให้เขาใช้ยาชา

หยวนชิงหลิงพลางเย็บแผล พลางครุ่นคิด บางทีกล่องยาก็คือการตอบสนองของจิตใต้สำนึกของนาง

และทุกสิ่งที่ประสบพบเจอในวันนี้ ล้วนอยู่ในความฝัน

หาความสุขเล็กๆจากความเหนื่อย แต่ไม่เห็นสนุกเลยสักนิดเดียว เพราะท้ายที่สุดแล้วชีวิตคนสำคัญมากที่สุด

หลังจากทำแผลเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นเวลาเกือบจะเที่ยงแล้ว

ยังคงถ่ายเลือดต่อเนื่อง แขวนยาแก้อักเสบ ท่อสองสายไหลพร้อมกัน

ที่สุด ก็ถึงเวลาใกล้พลบค่ำ สถานการณ์ค่อยๆนิ่งลง

แต่ว่า จะมองในแง่ดีก็ไม่ได้ เพราะตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่าภายในได้รับบาดเจ็บมากน้อยแค่ไหน กลางคืนบาดแผลจะเกิดอาการซ้ำหรือไม่ ยังคงเป็นสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้

หยวนชิงหลิงได้ให้พวกเขาแบ่งกันไปพักผ่อน และนางเองก็ทำเวลารีบกินอาหารแล้วก็ใช้เบาะรองปูกับพื้นนอนตะแคงสักพัก

พอใกล้หมดเวลายามโหย่ว ฉางกงกงก็มาถามอาการ ทังหยางรีบปลุกหยวนชิงหลิงตื่น

หยวนชิงหลิงลุกขึ้นจากพื้น ก็เห็นฉางกงกงเดินเข้ามาแล้ว

สายตาของฉางกงกงที่มองนางในครั้งนี้ เต็มไปด้วยความสงสาร ช่วงนี้พระชายาลำบากมาก เขาเห็นอยู่ตลอด

“ท่านอ๋องเป็นอย่างไรบ้าง”ฉางกงกงถามเสียงเบา

“ดีขึ้นบ้างแล้ว แต่ว่า ต้องรอดูอาการคืนนี้ไปก่อนจึงจะรู้ได้”หยวนชิงหลิงพูดว่า “ไท่ซ่างหวงเป็นอย่างไรบ้าง”

“อารมณ์เสีย”ฉางกงกงเอ่ยอย่างจนใจ “ไม่มีใครกล่อมให้ท่านเสวยยาได้เลย ฮ่องเต้ก็ไม่สำเร็จ บอกว่าขม”

หยวนชิงหลิงพยักหน้า “ข้าจะเอายาให้กงกงเอากลับไป รบกวนกงกงช่วยดูแลให้ท่านเสวยยาด้วย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน