บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 356 ยังมีเวลาอีกครึ่งชั่วยาม

sprite

ฮ่องเต้หมิงหยวนเห็นเขายังยืนอยู่โดยที่ไม่ขยับ ก็อดไม่ได้ที่จะโกรธ “ยังมัวยืนอึ้งอยู่ทำไม? ไสหัวไปสิ!”

หยู่เหวินเห้าเงยหน้าพร้อมกับแววตาที่เป็นประกาย มองฮ่องเต้หมิงหยวน “ลูกยังต้องรับโทษกับเสด็จปู่ก่อนถึงจะไปได้”

ฮ่องเต้หมิงหยวนก็รู้อยู่แล้วว่าไท่ซ่างหวงนั้นเดินตามแผนที่หยู่เหวินเห้าวางไว้ อดไม่ได้ที่จะสะบัดแขนเสื้อ เดิมอยากที่จะหันหลังเดินจากไปเลย แต่ก็ไม่บังอาจที่จะเสียงมารยาท หลังจากที่กล่าวคำลากับไท่ซ่างหวง ก็หันหลังเดินจากไปอย่างเย็นชา

“ลูกน้อมส่งเสด็จพ่อ!” หยู่เหวินเห้ากล่าวด้วยความเคารพ

ฮ่องเต้หมิงหยวนเดินจากไปโดยที่ไม่หันกลับมามองเลย

หยู่เหวินเห้ามองจนแผ่นหลังลับตาไปแล้ว ก็คุกเข่าลงบนพื้น กล่าวอย่างเศร้าใจ “เสด็จปู่ ท่านไม่ช่วยยัยแก่หยวน แล้วจะมีใครช่วยยัยแก่หยวน?”

ตอนนี้อารมณ์ของไท่ซ่างหวงเย็นลงมาแล้ว นั่งลงแล้วกล่าวอย่างเรียบเฉย “เจ้าไปก่อน ข้าจะมีคำสั่งลงไปเอง”

“พ่ะย่ะค่ะ!” แววตาของหยู่เหวินเห้าจึงได้ปรากฏขึ้นด้วยแสงของความเจ้าเล่ห์ “งั้นหลานขอทูลลา!”

ไท่ซ่างหวงกล่าว “ไปเถอะ”

หยู่เหวินเห้าที่ออกจากวัง คนทั้งคนได้โล่งอกไปเปลาะหนึ่ง

ทังหยางที่รออยู่หน้าวัง วันนี้หลังจากที่แม่นมสี่ไปแล้ว เขาก็มารออยู่ที่ประตูวัง ในที่สุด พลบค่ำถึงได้เห็นท่านอ๋องออกมา

“ท่านอ๋อง!” เขาเดินเข้ามาต้อนรับอย่างเร็ว “วันนี้แม่นมสี่มาที่จวน พระชายาเป็นคนสั่งให้นางมาถามสถานการณ์ของท่านอ๋อง เกรงว่าพระชายาคงจะร้อนใจจนแย่แล้ว”

“ตอนนี้กี่ยามแล้ว?” หยู่เหวินเห้าถาม

“ยังไม่ถึงสามทุ่ม” ทังหยางกล่าว

หยู่เหวินเห้าหรี่ตาลงเล็กน้อย “วันนี้ยังไม่เลยเวลา วันนี้ยังมีเวลาครึ่งชั่วยาม ห้ามเสียเวลาไปโดยเด็ดขาด ไป ไปที่จวนเจ้าพระยา”

ทังหยางวิ่งตามไปถาม “ท่านอ๋อง นี่มันยังไงกันแน่? พระชายาสามารถกลับมาได้หรือยัง?”

“ตอนนี้ยังไม่ได้ บัดนี้ข้าได้บีบบังคับจนเสด็จพ่ออนุญาตให้ข้าไปได้วันละครึ่งชั่วยาม จะให้ยัยแก่หยวนกลับมา ยังต้องจัดการเรื่องเจ้าพระยาเจิ้งเป่ยให้ได้เสียก่อน อย่างไรก็ตาม

ทังหยางดีใจ “แก้ไขปัญหาได้แล้วใช่หรือไม่?”

นิ่งไปครู่หนึ่ง ส่ายหัวกล่าว “ไม่ใช่ ราชโองการนี้เสด็จพ่อเป็นคนออก เสด็จปู่ไม่มีทางที่จะไปลบล้างราชโองการของเสด็จพ่อ

มีไท่ซ่างหวงเป็นคนชี้ทาง ทังหยางก็วางใจมากแล้ว

หยู่เหวินเห้าเมื่อคืนไม่ได้กลับมา เขาก็ได้ไปหาเหลิ่งจิ้งเหยียนเพื่อทำความเข้าใจกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ประกอบกับคำพูดของพระชายา เขาก็พอจะรู้ว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น

ทั้งสองหน้าหนึ่งคนหลังหนึ่งคนกำลังควบม้าไปที่จวนเจ้าพระยา

เจ้าพระยาจิ้งได้สั่งคนปิดประตูนานแล้ว เศร้ากันอย่างมาก

ตั้งแต่รู้ว่าไม่สามารถรักษาชีวิตไว้ได้ เขากลับไม่อยากที่จะไปสนใจในเรื่องตำแหน่งหน้าที่การงานแล้ว

การเลื่อนตำแหน่งนั้นหมดหวังแล้ว สามารถรักษาชีวิตให้รอดก็ยังเป็นเพียงแค่ความหวัง

นางหวงเป็นคนที่ไม่รู้จักแยกแยะ ประกอบกับไม่รู้สถานการณ์ แล้วก็มาบ่นอยู่ข้างหูของเขา “ในจวนลือกันให้ทั่ว พูดว่านางนั้นถูกเลิกร้างกลับมา ต่อไปข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน? ชีวิตข้าทำไมถึงได้รันทดนัก? ผิงเอ๋อก็แต่งไม่ออกเสียที เจรจาไปหลายครั้งก็ไม่สำเร็จ เห็นว่าหลิงเอ๋อนั้นแต่งเข้าไปในจวนอ๋อง ยังนึกว่าจะถูกรักและเอ็นดู

นางหวงวันนี้ก็ได้ไปหาคุยและกับลูกชายหยวนหลุนเหวินแล้ว ถูกหยวนหลุนเหวินตำหนิไปชุดใหญ่ ว่านางเป็นแม่ เวลานี้ควรที่จะเป็นห่วงเป็นใยหลิงเอ๋อถึงจะถูก

ไม่ใช่ว่านางไม่เป็นห่วง แต่ว่าใครที่เป็นแม่เมื่อเห็นลูกสาวถูกเลิกร้างกลับมาจะไม่โกรธบ้าง? ยังถูกเลิกร้างทั้งๆที่ตั้งครรภ์อยู่ ช่างขายหน้าเสียจริงๆ ดังนั้นวันนี้นางไม่แม้กระทั่งที่อยากจะเจอหน้าหยวนชิงหลิง

เดิมใจของเจ้าพระยาจิ้งก็กระวนกระวายอยู่แล้ว ได้ยินนางบ่นพึมพำตลอดเวลา ไฟโกรธในใจยิ่งอยู่ยิ่งทวีความรุนแรง ตบโต๊ะไปหนึ่งที กล่าวอย่างขุ่นเคือง “ไม่มีหน้าไปพบคนอื่นจะแค่ไหนเชียว สามารถรักษาหัวเอาไว้ได้ก็บุญแล้ว”

นางหวงแต่ไหนแต่ไรก็เห็นสามีเป็นพระเจ้า บัดนี้เห็นเขาโกรธ ก็หุบปากลงทันที อดทนกับความว้าวุ่นในใจ

เจ้าพระยาจิ้งยิ่งคิดยิ่งกลุ้ม กล่าวอย่างเย็นชา “ข้าจะไปทางโน้น”

นางหวงได้ฟัง ก็เงยหน้าทันทีแล้วกล่าวด้วยเสียงสูง “จะไปอีก? เมื่อคืนท่านเพิ่งจะไปทางโน้นมา จะไปอีกแล้ว?”

“ไม่อยากเห็นใบหน้าแก่ๆของเจ้า!” เจ้าพระยาจิ้งที่เอามือไขว้หลังเดินออกไป กล่าวอย่างเย็นชา

นางหวงรู้สึกว่าเป็นเพราะเรื่องของหยวนชิงหลิงทำให้เจ้าพระยาจิ้งพลอยโกรธตัวเองไปด้วย อดไม่ได้ที่จะโกรธเกลียดลูกสาว

ยิ่งคิดความขุ่นเคืองในใจก็ยากที่จะขจัดออกไป ก็พาข้ารับใช้คนแก่ไป

ทางหยวนชิงหลิงเพิ่งจะได้รับข่าวที่แม่นมสี่กลับมารายงาน บอกว่าหยู่เหวินเห้าเมื่อคืนค้างที่พระ นางถึงได้โล่งอก

หมันเอ๋อทำบะหมี่น้ำ ตอนที่นางกำลังจะกินอยู่ ก็ได้ยินว่านางหวงมา

หยวนชิงหลิงนั้นรู้สึกไม่ค่อยดีกับท่านแม่ของเจ้าของร่างเดิมเลย

นางหวงเป็นคนใจแคบ เห็นแก่ตัวมาก น้อยมากที่จะคิดแทนลูกสาว ต่อให้จะเป็นลูกสาวแท้ๆ ก็สู้ผลประโยชน์ของนางไม่ได้

อดไม่ได้ที่กล่าวด้วยความโกรธ “แกยังมีหน้ามากินอีก? นี่มันเวลาอะไรแล้ว แกยังคิดถึงแต่เรื่องกิน

ขณะที่นั่งด่า ก็ได้นั่งอย่างโกรธเคือง

อะซี่นั้นไม่ได้เถียงนาง เพราะยังไงนางก็เป็นท่านแม่ของพระชายา

กล่าว “ฮูหยิน เย็นนี้พระชายายังไม่ได้ทานข้าวเลย ทานมื้อดึกหน่อยจะเป็นไร

ทำเพียงกระทืบเท้า ก็ร้องไห้ขึ้นมา “เจ้าว่าชีวิตข้าทำไมถึงได้รันทดเพียงนี้นะ? เดิมนึกว่าเจ้าแต่งเข้าจวนอ๋องฉู่ คนที่เป็นแม่อย่างข้าก็จะมีชีวิตที่สุขสบาย คิดไม่ถึงว่าปีนี้ เจ้าที่ตั้งท้องอยู่ก็ถูกเลิกร้างแล้วไล่กลับมาที่บ้าน ท่านพ่อเจ้าก็มาโทษข้าเพราะเรื่องนี้

หยวนชิงหลิงไม่สนใจนาง รู้ว่าเจ้าห้าไม่เกิดเรื่อง อารมณ์นางก็ดีขึ้นมาก ก็เลยปล่อยนางร้องไห้คนเดียวอยู่ตรงนั้น ตัวเองนั้นก็กินบะหมี่ไป

อ่าน บัลลังก์หมอยาเซียน ลิ่วเยว่ บทที่ 356 ยังมีเวลาอีกครึ่งชั่วยาม นวนิยายออนไลน์ฟรี

The บัลลังก์หมอยาเซียน ลิ่วเยว่ บทที่ 356 ยังมีเวลาอีกครึ่งชั่วยาม ซีรีส์ได้รับการอัปเดตพร้อมรายละเอียดใหม่มากมาย ขนานกับลักษณะบุคลิกภาพนั้น คือ อารมณ์ของคนที่รักชีวิต รักชีวิต อยากหนีจากสถานการณ์ชีวิตที่มืดมนและน่าสลดใจ ในบทที่ บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 356 ยังมีเวลาอีกครึ่งชั่วยาม ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน กล่าวได้ว่า บัลลังก์หมอยาเซียน นวนิยาย บทที่ 356 ยังมีเวลาอีกครึ่งชั่วยาม เป็นบทที่อ่านง่ายที่สุดในซีรีส์ บัลลังก์หมอยาเซียน ชุดนี้

บัลลังก์หมอยาเซียน ลิ่วเยว่ บทที่ 356 ยังมีเวลาอีกครึ่งชั่วยาม

บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 356 ยังมีเวลาอีกครึ่งชั่วยาม