บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 366 ไปสำนักนางชีหมิงเยว่

sprite

โสวฝู่ฉู่เห็นเขาเป็นเช่นนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะสะท้านในใจ

ในใจมีอารมณ์หลายอย่าง หันกลับไปตำหนิหัวหน้าคุก “เจ้าสุนัขรับใช้ ใครอนุญาตให้เจ้าปฏิบัติต่อเขาเช่นนี้ ยังไม่รีบไปหาที่สงบๆให้แม่ทัพหลอกับข้านั่งลงอีกหรือ”

หัวหน้าคุกไหนเลยจะรู้ว่าที่โสวฝู่ฉู่มาที่คุกหลวงนี้ ก็เพื่อจะมาดูเจ้าขอทานนี่

หัวหน้าคุกมีสีหน้าอยากร้องไห้รีบออกไปเก็บกวาดห้องเล็กที่อยู่ตรงประตูทันที เช็ดถูจนโต๊ะเก้าอี้แทบจะไม่เหลือฝุ่นเกาะอยู่ จึงเข้าไปเชิญทั้งสองอย่างนอบน้อม

โสวฝู่ฉู่พูดกับแม่ทัพหลอว่า “ดื่มสักจอกเพื่อไว้หน้าข้าได้หรือไม่”

แววตาของแม่ทัพหลอมืดมิด ลังเลอยู่ชั่วครู่ เดินไปนำอยู่ข้างหน้าอย่างเงียบๆ

หลังจากเข้าไปในห้องเล็กแล้ว เขาก็ไม่ได้นั่งลง แต่ยังคงพูดเหมือนเดิมว่า “ข้าไม่มีหน้าจะพบท่าน ท่านไม่ต้องมาก็ได้”

โสวฝู่ฉู่สั่งให้คนออกไป ปิดประตู เขามองไปยังแม่ทัพหลอ พูดว่า “อ๋องฉู่ให้ข้ามา”

แม่ทัพหลอเงยหน้าขึ้น มีแววประหลาดใจอยู่บ้าง “อ๋องฉู่ ”

เขาทำท่ากดมือลง “ท่านนั่งลงก่อน ข้าค่อยๆพูดให้ท่านฟัง เป็นเรื่องสำคัญมาก”

แม่ทัพหลอมองจนแน่ใจแล้วว่าเขาไม่ได้มาเพื่อเหยียดหยามเขา จึงได้นั่งลง เอ่ยขึ้นก่อนว่า “เกี่ยวกับความผิดของหลอกุ้ยผิน ข้าสมควรขอโทษท่านอย่างจริงจัง นางมีเจตนาร้ายแอบแฝง ถึงกับบังอาจปองร้าย……”

โสวฝู่ฉู่ตัดบทคำพูดของเขา “บางทีกุ้ยผินอาจถูกใส่ร้าย”

แม่ทัพหลอราวกับถูกสายฟ้าฟาด นิ่งอึ้งไป

ดันถ้วยหนึ่งไปตรงหน้าของแม่ทัพหลอ “อ๋องฉู่ตรวจสอบพบว่า การตายของแม่นมที่รับใช้ข้างกายฮองเฮาในตอนนั้น น่าจะเป็นอุบัติเหตุ

“อุบัติเหตุ ”แม่ทัพหลอมึนงง “จะเป็นอุบัติเหตุได้อย่างไร ไม่ใช่ว่าถูกพิษหรอกหรือ”

”โสวฝู่ฉู่หยิบเอาจดหมายออกมาจากแขนเสื้อ ยื่นให้กับแม่ทัพหลอ “ท่านดู นี่เป็นจดหมายที่เจ้าอาวาสวัดฮู่กว๋อเขียนให้กับฮ่องเต้

แม่ทัพหลอคว้าจดหมายมา อาศัยแสงในห้องเอาไปดูอย่างกระหายใคร่รู้

เขาก็สั่นไปทั้งตัว “จริงหรือ เป็นอย่างนี้ได้จริงหรือ ถ้าหากเป็นอย่างนี้จริง เช่นนั้นตระกูลหลอของข้า

“เป็นจริงหรือเท็จ ตอนนี้ไม่มีใครรู้ ไม่ว่ากุ้ยผินจะมีใจคิดร้ายต่อฮองเฮาหรือไม่ แต่ตระกูลหลอไม่ควรต้องประสบกับชะตากรรมเช่นนี้ การค้นพบของฉู่อ๋องนี้ ก็หวังว่าจะสามารถช่วยให้ตระกูลหลอหลุดพ้นจากความทุกข์ยากไปได้

แม่ทัพใหญ่น้ำตารื้น ริมฝีปากสั่นเท่าอยู่ชั่วครู่ “โสวฝู่ ขอท่านทำงานอย่างสุดกำลังด้วย”

เขาสามารถไม่ยี่หระต่อความเป็นความตายของตนเองได้ แต่ตระกูลหลอมีสมาชิกในครอบครัวอยู่แนวชายแดนนับร้อย และยังมีสมาชิกหญิงในครอบครัวที่เข้าสู่ชนชั้นทาส

โสวฝู่ฉู่พูดเสียงเบาว่า “ในเมื่อข้ามาหาเจ้า ก็ต้องวิ่งเต้นเพื่อเรื่องนี้ เจ้าฟังข้าให้ดี ……”

ทั้งสองอยู่ในห้องเล็ก พูดคุยกันเกือบครึ่งชั่วยาม โสวฝู่ฉู่จึงเดินออกมา

วันรุ่งขึ้น หยวนชิงหลิงออกเดินทางตั้งแต่เช้า

เมื่อคืน อะซี่ไปที่จวนอ๋องฉีเพื่อพบหยวนหย่งอี้ ขอให้หยวนหย่งอี้ไปที่สำนักนางชีหมิงเยว่พร้อมกันในวันนี้ด้วย

หยวนหย่งอี้ได้ยินว่าจะไปไหว้พระขอพร แล้วยังเป็นการไปเป็นเพื่อนหยวนชิงหลิง จึงตอบตกลงทันที

หยวนหย่งอี้กับอะซี่และหยวนชิงหลิงนั่งรถม้าคันเดียวกัน ทังหยางขับรถม้า แม่นมสี่กับหมันเอ๋อนั่งรถม้าอีกคัน มีสวีอีบังคับรถม้า

ตลอดทางที่นั่งรถม้ามา หยวนหย่งอี้ในใจหนักอึ้ง มองไปทางหยวนชิงหลิงหลายครั้ง อ้าปากแล้วแต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา

หยวนชิงหลิงเห็นความผิดปกติของนางนานแล้ว เห็นนางพูดไม่ออกตั้งหลายครั้ง จึงถามขึ้นว่า “มีเรื่องอะไรหรือ”

หยวนหย่งอี้ได้ยินนางถามขึ้น ที่สุดก็อดไว้ไม่อยู่ พูดว่า “ท่านพี่พระชายา……”

หยวนชิงหลิงตัดบทคำพูดของนาง “ไม่สู้ เจ้าเรียกข้าว่าพี่หยวนเถอะ เรียกท่านพี่พระชายามันไม่น่าฟัง”

ที่จริงนางไม่ชอบเลยที่จะเอ่ยชื่อตำแหน่งอยู่ร่ำไป โดยเฉพาะ ข้างหลังยังมีคำว่าพี่สาวต่อท้ายอยู่ด้วย

“ได้ พี่หยวน พวกเราเกือบจะใช้นามสกุลเดียวกันแล้ว”หยวนหย่งอี้เอ่ยอย่างละอายใจ

หยวนชิงหลิงยิ้ม “เจ้ามีเรื่องจะพูดมิใช่หรือ”

พูดว่า “คือเรื่องมันเป็นเช่นนี้ วันนั้นที่อ๋องฉีเวียนหัวจนล้มไปกับพื้น เกิดอาการชักกระตุก ดูท่าทางเขาจะทรมานมาก แต่ผ่านไม่นานนัก ก็กลับสู่ภาวะปกติ ข้าถามเขา เขาบอกว่าเขาเป็นโรคประหลาดอย่างหนึ่ง มีชีวิตอยู่ต่อได้อีกแค่หนึ่งปี พระชายา…… พี่หยวน ท่านเคยได้ยินโรคชนิดนี้หรือไม่

หยวนชิงหลิงตกใจ“มีชีวิตอยู่ได้อีกหนึ่งปี ข้าไม่เคยได้ยินเจ้าห้าพูดมาก่อนเลย”

“ท่านอ๋องน่าจะไม่รู้ เขาบอกว่ามีเพียงฮ่องเต้กับฮองเฮาที่รู้ เพราะว่าเขาคือบุตรของชายาเอก หากคนภายนอกรู้ว่าเขามีชีวิตอยู่ต่อได้อีกแค่หนึ่งปี จะก่อให้เกิดผลกระทบใหญ่หลวง เขาบอกเช่นนี้

เขากับเจ้าแปดเป็นบุตรของชายาเอกของฮ่องเต้ ถ้าหากเขาอายุขัยสั้น ขุนนางในราชสำนัก เกรงว่าส่วนใหญ่จะไปสนับสนุนองค์ชายคนโตของราชวงศ์แทน แน่นอนว่าฮ่องเต้ก็คงไม่อยากเห็นบทสรุปเช่นนี้ ฉะนั้นจึงได้ปกปิดอาการป่วยของอ๋องฉีเอาไว้ เพียงแต่ การปกปิดเช่นนี้ก็ไม่ยุติธรรมต่ออ๋องฉีเลย เขามีโรคแต่ไม่ได้รับการรักษา ใต้หล้านี้มีหมอฝีมือดีมากมาย

“ข้าก็คิดเช่นนี้ แต่ว่ามีวิธีอะไรเล่า ฮ่องเต้ตัดสินใจเช่นนี้ ข้าเองก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ นี่ข้าก็ไร้ซึ่งหนทางจริงๆ

อะซี่ที่นั่งฟังอยู่ข้างๆ พูดขึ้นว่า “พี่หยวนก็ไม่เคยวินิจฉัยโรคของเขามาก่อน จะรู้ได้อย่างไรว่ารักษาได้หรือไม่ เอาอย่างนี้หาเวลาไปดูดีหรือไม่”

เขาได้ยินพี่สาวตัวเองสามารถเรียกพี่หยวนได้ นางเองก็เปลี่ยนคำเรียกขานทันที

“เคยถามเขาแล้ว เขาไม่ยินยอม บอกว่าฮ่องเต้ไม่อนุญาต”หยวนหย่งอี้พูด

หยวนชิงหลิงถาม “เจ้าเคยเห็นตอนเขาโรคกำเริบ เจ้าเล่าให้ข้าฟังสิ ตอนที่โรคเขากำเริบเป็นอย่างไร ”

หยวนหย่งอี้ย้อนคิดถึงตอนนั้นชั่วครู่ พูดว่า “เขาล้มลงไปกะทันหัน จากนั้นก็ชักกระตุกไม่หยุด ปากมีอาการเบี้ยว ในปากยังมีเลือดออกมาด้วย”

“โรคลมบ้าหมู เขาล้มไปบนพื้นนานแค่ไหน”หยวนชิงหลิงถามขึ้น

อ่าน บัลลังก์หมอยาเซียน ลิ่วเยว่ บทที่ 366 ไปสำนักนางชีหมิงเยว่ นวนิยายออนไลน์ฟรี

The บัลลังก์หมอยาเซียน ลิ่วเยว่ บทที่ 366 ไปสำนักนางชีหมิงเยว่ ซีรีส์ได้รับการอัปเดตพร้อมรายละเอียดใหม่มากมาย ขนานกับลักษณะบุคลิกภาพนั้น คือ อารมณ์ของคนที่รักชีวิต รักชีวิต อยากหนีจากสถานการณ์ชีวิตที่มืดมนและน่าสลดใจ ในบทที่ บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 366 ไปสำนักนางชีหมิงเยว่ ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน กล่าวได้ว่า บัลลังก์หมอยาเซียน นวนิยาย บทที่ 366 ไปสำนักนางชีหมิงเยว่ เป็นบทที่อ่านง่ายที่สุดในซีรีส์ บัลลังก์หมอยาเซียน ชุดนี้

บัลลังก์หมอยาเซียน ลิ่วเยว่ บทที่ 366 ไปสำนักนางชีหมิงเยว่

บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 366 ไปสำนักนางชีหมิงเยว่