บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 377

กู้จือร้องไห้ดิ้นรน ร่างกายหดไปข้างหลังอย่างที่สุด พร้อมพูดขึ้นว่า “พระชายาอ๋องฉู่ ขอร้องท่านปล่อยข้าไปเถอะ ท่านจับจนมือของข้าเจ็บไปหมดแล้ว เจ็บมาก”

กู้จือร้องไห้อย่างทุลักทุเล หากด้านนอกได้ยิน จะคิดว่าหยวนชิงหลิงตบตีนาง ไม่ใช่เพียงแค่จับข้อมือของนางเท่านั้น

พวกบ่าวใช้ข้ารับใช้หญิงชราร้อนใจมาก อยากเข้าไปช่วยแยกออก อะซี่กับหมันเอ๋อขวางอยู่ด้านหน้า พูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ใครกล้าแตะพระชายาเพียงเส้นผม ข้าจะตัดมือของนางทิ้งทันที”

กู้จือร้องไห้พร้อมพูดขึ้นว่า “พระชายาอ๋องฉู่ ท่านสถานะสูงส่ง จะมายุ่งกับหม่อมฉันทำไม? หม่อมฉันผิดเอง ท่านบอกว่าหม่อมฉันผลักพระชายา งั้นก็เป็นหม่อมฉันทำเถอะ หม่อมฉันไม่แก้ตัว”

พระชายาจี้นั่งลงด้วยท่าทีเรียบเฉย ส่วนพระชายาซุนกลับอยากไปตบตีคน ผู้หญิงคนนี้เสแสร้งมาก

หยวนชิงหลิงจ้องมองดูนาง รอนางร้องไห้จนน้ำมูกจะไหลออกมา ค่อยปล่อยนางช้าๆ พร้อมพูดกับหมันเอ๋อว่า “เอากระจกมา”

หมันเอ๋อไม่รู้ว่านางจะเอามาทำอะไร แต่ก็ยังคงไปเอากระจกบานใหญ่มา หยวนชิงหลิงหลีกทาง จัดแขนเสื้ออย่างเชื่องช้าแปบหนึ่ง พร้อมพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “ให้นางส่องดูสภาพของตนเอง”

หมันเอ๋อจึงดันกระจกบานใหญ่บานนั้นไปตรงหน้ากู้จือ กู้จือหยุดร้องไห้ทันที หดตัวไปข้างหลังอย่างอับอาย แต่กระจกบานใหญ่ขนาดนั้น ต่อให้นางขยับไปข้างหลังก็ยังสามารถมองเห็นผู้หญิงที่มีดวงตาสีแดง น้ำมูกไหลย้อย ผมเพ้ายุ่งเหยิงในกระจกนั้นได้

นางหลบจนไม่มีที่หลบ ดวงตาฉายแววโกรธเคือง จ้องมองหยวนชิงหลิงพร้อมพูดขึ้นว่า “พระชายาอ๋องฉู่อยากให้ข้าเห็นสภาพของตนเองว่าไม่เหมือนคนอย่างนั้นหรือ? เจ้าดูเพียงรูปร่างหน้าตา เจ้าดูผิวเผินไปไหม?”

หยวนชิงหลิงพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชาว่า “สภาพที่เจ้ามองเห็นในกระจก นอกจากรูปร่างของเจ้าแล้ว ยังเป็นภายในจิตใจของเจ้า อัปลักษณ์ไหม? เจ้าเองยังไม่กล้าดูใช่ไหม? กู้จือ สิ่งที่เจ้ากระทำ ว่าเจ้าเป็นเดรัจฉานยังจะเป็นการดูถูกเหยียดหยามเดรัจฉาน”

กู้จือกำหมัดแน่น ดวงตาแดงก่ำเป็นประกายอย่างเด่นชัด พูดขึ้นอย่างจนใจน่าสงสารว่า “ทำไมเจ้าจะต้องทรมานข้า? เจ้าคิดว่าไม่ยุติธรรมต่อพระชายาเว่ย แล้วไม่ควรที่จะไปหาท่านอ๋องหรือ? ข้าเป็นแค่เพียงผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง ข้าจะสามารถทำอะไรได้? สถานการณ์ของข้าก็ไม่ได้ดีไปกว่าพระชายาเว่ย อย่างน้อย นางยังคงเป็นพระชายาตำแหน่งสูงส่ง ส่วนข้าเป็นแค่เมียที่ไม่มีสถานะ อย่างน้อยพระชายาเว่ยก็ยังมีพวกเจ้าช่วยออกหน้า ข้าล่ะ? วันนี้พวกเจ้าถอดเสื้อผ้าเหยียดหยามข้า ใครมาสงสารข้า? เจ้าเป็นถึงพระชายาสูงส่ง รังแกผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่งอย่างข้า เจ้าดูมีเกียรติแล้วหรือ?”

พระชายาซุนอดทนไม่ไหวอีกแล้ว ตบโต๊ะแล้วลุกขึ้น พร้อมพูดขึ้นอย่างโกรธเคืองว่า “แม่ไก่แก่ ปากของเจ้าช่างพูดเก่งจริงๆ เจ้าน่าสงสารตรงไหน? ตอนนั้นเจ้าแทบจะไม่มีชีวิตอยู่แล้ว ใครกันที่ช่วยเหลือเจ้า? หากเจ้ารู้สึกน่าสงสาร แล้วทำไมไม่ไสหัวไป? ข้าเชื่อว่าหากเจ้ายอมไสหัวไป พระชายาเว่ยจะต้องให้เงินเจ้าและช่วยจัดการให้เจ้าได้อยู่ดีมีสุข ทำไมถึงยังอยู่ในจวนอ๋อง และยังร้องไห้คร่ำครวญว่าน่าสงสาร? พระชายาอ๋องฉู่พูดว่าเจ้าอัปลักษณ์ เจ้าช่างอัปลักษณ์จริงๆ กระทำเรื่องแย่ น่าอับอาย แต่ไม่ยอมให้คนอื่นดูถูกประชดประชัน ไม่เคยเห็นผู้หญิงที่หน้าไม่อายอย่างเจ้ามาก่อน”

หยวนชิงหลิงกับพระชายาจี้ขำกับคำว่าแม่ไก่แก่ของพระชายาซุน เดิมหยวนชิงหลิงยังอยากพูดอะไรอีก แต่ก็อดทนไม่ไหวหันหน้าไปหัวเราะ

แต่ที่จริงคำพูดที่นางจะพูดก็มีความหมายเดียวกับอย่างที่พระชายาซุนพูด กู้จือคนนี้ กระทำเรื่องแย่ น่าอับอาย แต่ไม่ยอมให้คนอื่นดูถูกประชดประชัน ทำท่าทีน่าสงสารให้ใครดู?

กู้จือฟังคำต่อว่าของพระชายาซุน จนนิ่งอึ้งไปสักพัก สีหน้าแสดงท่าทีเศร้าหมอง นอนอยู่บนเตียง แล้วร้องไห้ขึ้นมาอย่างเจ็บปวด

หยวนชิงหลิงรอนางร้องไห้ได้พอประมาณแล้ว ค่อยพูดขึ้นอย่างเชื่องช้าว่า “กู้จือ ข้ารู้ว่าเจ้าน่าสงสาร วางใจเถอะ พรุ่งนี้ข้าจะเข้าวังไปพบฮองเฮา จะช่วยทูลให้กับเจ้า เชื่อว่าในฐานะที่ฮองเฮาเป็นผู้หญิง จะต้องยอมที่จะช่วยเจ้าออกหน้าแน่”

หยวนชิงหลิง

พูดจบ นางลุกขึ้นมา สะบัดแขนเสื้อ พร้อมพูดขึ้นว่า “เราไปกันเถอะ”

กู้จือนอนฟุบอยู่บนเตียง ฟังคำพูดพวกนี้แล้ว สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที

พวกหยวนชิงหลิงออกไปแล้ว ไม่ว่าสีหน้ากู้จือจะเปลี่ยนไปเป็นอย่างไร แต่ก็ยังคงร้องไห้ไม่หยุด

ข้ารับใช้หญิงชราพูดปลอบว่า “ฮูหยินอย่าเสียใจ เสียใจแล้วจะส่งผลกระทบต่อร่างกาย เดี๋ยวท่านอ๋องมาเห็นจะเป็นห่วงอีก”

กู้จือเช็ดน้ำตา ขมวดคิ้วอย่างคิดหนัก พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าจะไม่รู้หรือว่าเขาเป็นห่วงข้า? แต่นี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ข้าอยากได้ หากท่านอ๋องเอ็นดูข้าน้อยหน่อย ดีต่อพระชายาหน่อย ข้าก็ยอม”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน