บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 409 เจ้าช่างใจกว้างจริง ๆ

sprite

แต่ก็ช่างเถอะ อย่างไรก็ใช้ชีวิตอยู่ในวังหลังมาจนอายุปูนนี้แล้ว ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยเห็นคนมาใหม่เสียหน่อย

นางเพียงแต่นึกเสียดาย ฮู่ก่วงถิงคนนี้ แค่ดูก็รู้ว่าเป็นผักกาดขาวต้นงามคุณภาพดีเยี่ยม ถ้าเจ้าห้าได้แต่งไป จะมีส่วนช่วยเกื้อกูลเขาในอนาคตได้มากมายขนาดไหนกันนะ?

แต่นี่ถึงกับขอให้ฝ่าบาทรับไว้แทน? ฝ่าบาทได้ไปแล้วจะมีประโยชน์อะไรล่ะ? นางโกรธแทบตายแล้วจริง ๆ

ยังมีเจ้าห้าอีกคนที่ไม่ยอมต่อสู้แย่งชิงเสียบ้าง เอาแต่เฝ้าประคบประหงมหยวนชิงหลิงอยู่ได้

ถ้าท้องนี้ของหยวนชิงหลิงเป็นลูกชายก็ยังนับว่าดีไป แต่ถ้าคลอดมาเป็นจวิ้นจู่ ก็คอยดูซิว่าเขาจะทำอย่างไร?

ที่สงบที่สุดในวัง ก็คงไม่เกินไปกว่ากุ้ยเฟยแล้ว

วันนี้อ๋องอานก็เข้าวังตั้งแต่เช้าเพื่อมาน้อมทักทายกุ้ยเฟย สองคนแม่ลูกอยู่คุยกันในวังครู่ใหญ่

กุ้ยเฟยมองดูลูกชายด้วยรอยยิ้มละไม พลางพูดว่า: "ตอนนี้เจ้าไม่กังวลแล้วล่ะสิ ? ตอนแรกกลัวแทบแย่ว่าเจ้าห้าจะแต่งกับฮู่ก่วงถิง คาดไม่ถึงว่า นางกลับกระเหี้ยนกระหือรืออยากเข้ามาอยู่ในวังหลัง อยากจะเป็นท่านหญิง กลายเป็นว่าความปรารถนาของเสียนเฟยเลยสลายหายไปเป็นอากาศ ไม่รู้ว่าตอนนี้เสียนเฟยจะโมโหโกรธาขนาดไหนกันนะ? ฮู่ก่วงถิงคนนั้นเพิ่งจะกลับมาได้ไม่นาน เสียนเฟยก็เรียกนางเข้าวังมาคุยด้วยทันที นางมีเจตนาอะไร มีหรือจะไม่รู้?”

อ๋องอานรู้สึกวางใจแล้วจริง ๆ พูดขึ้นว่า “ แต่ไหนแต่ไรมา เจ้าพระยาเจิ้งเป่ยก็ชื่นชมเจ้าห้ามาโดยตลอด ถ้าให้เจ้าห้าแต่งงานกับฮู่ก่วงถิงจริง ๆ มันจะส่งผลเสียต่อพวกเรามาก แต่ตอนนี้เราก็ยังไม่อาจชะล่าใจ ทางเจ้าพระยาเจิ้งเป่ยนั่น คงต้องดูไปทีละก้าวค่อยเดินไปทีละก้าวแล้วล่ะ ไม่ว่าเขาจะสนับสนุนลูกชายหรือไม่ ก็มีค่าเท่ากันแล้ว ขอแค่อย่าเข้ามาตีสนิททางเจ้าห้าก็พอ”

กุ้ยเฟยเอนหลังครึ่งนั่งครึ่งนอนอยู่บนเก้าอี้กุ้ยเฟย "เจ้าพระยาเจิ้งเป่ยเป็นเพียงนักรบคนหนึ่ง ความคิดจึงเรียบง่ายมาก เขาไม่ได้เกิดมามีฐานะสูงส่ง ตอนนี้กลับมาจากการสร้างความดีความชอบ แน่นอนว่าต้องหวังปีนกิ่งสูงเกาะเกี่ยวเป็นครอบครัวเดียวกันกับพวกขุนนาง อย่างไรก็ให้ท่านตาของเจ้าติดต่อกับเขาไว้ พยายามให้มากหน่อย ยังไม่แน่ว่าเขาอาจไม่ใช่คนของเรา”

อ๋องอานเลิกตาขึ้นสูง “ท่านแม่ ท่านสามารถอ่านความคิดของลูกชายท่านได้ทะลุปรุโปร่งเสมอเลย”

“มีรึที่ความคิดของเจ้าจะปิดบังซ่อนเร้นจากสายตาข้าไปได้น่ะ? ก่อนหน้านี้ข้าล้มป่วย ยังไม่เห็นเจ้ามาปรากฏตัว วันนี้เสด็จพ่อของเจ้าแต่งตั้งเด็กผู้หญิงคนหนึ่งขึ้นเป็นสนม

อ๋องอานเลิกคิ้วพลางหัวเราะ “ท่านแม่ ที่ท่านป่วย ท่านก็ป่วยให้เสด็จพ่อดูไม่ใช่รึ? จะให้ลูกทำตาใสมาหาท่านไปทำไมกันพ่ะย่ะค่ะ?”

“พูดจาเหลวไหล เสด็จพ่อของเจ้าน่ะ อยากมาก็มา

ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก เป็นเพราะก่อนหน้าจนมาถึงวันนี้ล้วนไม่มีคนใหม่เข้ามา อีกทั้งบรรดาพระสนมทั้งหลายต่างก็มีลูกชายลูกสาวกันหมดแล้ว จึงเป็นธรรมดาที่จะทุ่มเทความรักไปที่ลูก

ไม่ใช่ฮ่องเต้ที่อ่อนโยนหรือเห็นแก่ความรักใคร่อะไรนัก เวลาที่พระองค์ยุ่งในเรื่องงานราชการขึ้นมา

ก็มักจะผลัดเปลี่ยนเสด็จไปประทับจนครบทุกตำหนักเสมอ ดังนั้น หากมีชื่อมีตำแหน่งแล้ว ก็แทบจะไม่ต้องต่อสู้แย่งชิงความโปรดปรานใด ๆ

เพียงแต่ผู้หญิงนั้น บางครั้งก็ต้องการความรักใคร่ห่วงใยจากผู้ชายเช่นกัน ต่อให้เป็นคำพูดที่อ่อนโยนแค่เพียงไม่กี่ประโยคก็ตาม

วิธีการของกุ้ยเฟยก็คือการแกล้งป่วย เมื่อกุ้ยเฟยเรียกหมอหลวงมาตรวจอาการ จะอย่างไรฝ่าบาทก็ต้องเสด็จมาเยี่ยมเยียนถามไถ่อาการสักหลายคำอย่างแน่นอน

อ๋องอานย่อมรู้วิธีการของท่านแม่เป็นธรรมดา ด้วยเหตุนี้จึงยิ้มอย่างรู้ทันออกมา

กุ้ยเฟยก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันผิดอะไร เหล่าสตรีในวังหลัง จะอย่างไรก็ต้องมีเล่ห์เพทุบายในใจกันบ้างไม่มากก็น้อย

กุ้ยเฟยยิ้มเต็มใบหน้า ค่อยเอ่ยถามขึ้นว่า “บาดแผลหายดีแล้วรึ?”

โชคดีที่ท่านแม่บอกเรื่องที่เสด็จพ่อจะทรงลงทัณฑ์ให้รู้ล่วงหน้า ถึงได้แอบมอบเงินให้ทหารรักษาพระองค์ที่รับผิดชอบการลงทัณฑ์ก่อน

กุ้ยเฟยพูดว่า “คราวนี้ไม่หัวเราะเยาะที่แม่ของเจ้าแกล้งป่วยแล้วหรือ? อยากมีโอกาสได้พูดคุยความในใจกับเสด็จพ่อเจ้าแค่ไม่กี่ประโยค ยังถึงกับต้องใช้วิธีแบบนี้ แต่ดู ๆไปแล้วเจ้าห้าก็น่าสงสารจริง ๆ นะ ถูกลงโทษโบยตีต่อเนื่องกันเรื่อย ๆ ไม่หยุดไม่หย่อนเลย หากไม่บอกว่าเสด็จพ่อของเจ้ามีใจเอนเอียงไปทางเขาแล้ว แม่คงไม่เชื่อจริง

ไม่ว่าในพระทัยเสด็จพ่อจะคิดเห็นเช่นไร ทางเสด็จปู่ก็ยังทรงต้องพระทัยในตัวเจ้าห้ามากอยู่ดี แต่อย่างไรก็ตาม ลูกจะยังไม่แสดงเจตนาของตัวเองในเร็ว ๆ นี้แน่ ปล่อยให้เขาต่อสู้ห้ำหั่นกับพี่ใหญ่ไปก่อน ดีที่สุดคือให้ทั้งคู่บาดเจ็บสูญเสียหนัก ๆ กันทั้งสองฝ่ายก็ยิ่งดี เช่นนั้นข้าก็สามารถใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบนั้น พลิกกลับให้ตัวเองเป็นผู้ชนะได้อย่างสมบูรณ์”

กุ้ยเฟยรู้สึกวางใจในความรู้จักอดทนอดกลั้นของลูกชายมาก แต่ก็ยังอดเตือนออกไปสักสองสามประโยคไม่ได้ " เจ้าจะทำอะไรต้องระวังให้มาก ในช่วงนี้หากอ๋องฉู่กับอ๋องจี้เกิดปะทะกันขึ้นมา เจ้าอย่าได้เข้าไปผสมโรง ใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานี้ ทำเรื่องที่สำคัญมีประโยชน์ให้มากหน่อย ให้เสด็จพ่อได้เห็นความสามารถของเจ้า เพื่อที่วันหน้าเจ้าจะได้มีโอกาสพลิกกลับมาคว้าชัยได้”

“ลูกรู้พ่ะย่ะค่ะ” อ๋องอานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ขมวดคิ้วมุ่นแล้วพูดขึ้นว่า: “ตอนนี้ตระกูลหลอพลิกคดีได้เรียบร้อยแล้ว ได้ยินมาว่าพวกเขาจะกลับไปเป็นองครักษ์ลับผี ไม่รู้ว่าตำแหน่งของท่านตาในฐานะองครักษ์ลับผีจะได้รับผลกระทบหรือไม่?”

กุ้ยเฟยตอบไปว่า "ระยะนี้เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลไป ท่านตาของเจ้าเป็นท่านแม่ทัพใหญ่ให้องครักษ์ลับผีมานาน ขอเพียงแค่ไม่อะไรทำผิดพลาด ไท่ซ่างหวงย่อมจะไม่ปลดหรือเปลี่ยนคนอื่นมาแทนที่เขาง่าย ๆ แน่ ดังนั้นเจ้าจะทำอะไรก็ต้องระวังให้ดี อย่าทำอะไรที่มันจะทำให้ท่านตาของเจ้าเดือดร้อน”

“ข้าเข้าใจแล้ว” อ๋องอานพูดจบ ก็ลุกขึ้นแล้วกล่าวลาขอตัวกลับไป

ทางจวนฉู่ หลังจากที่ทุกคนได้ยินเรื่องของฮู่เฟยแล้ว ต่างก็พากันตกตะลึงอึ้งค้าง

แม้จะบอกว่า หยวนชิงหลิงเองก็เคยเดาเรื่องราวไว้ในลักษณะนี้มาก่อน แต่เมื่อมันกลายเป็นความจริงขึ้นมา ก็ยังรู้สึกว่าเป็นอะไรที่น่าตกใจมากอยู่ดี

หยู่เหวินเห้ายิ้มจนปากแทบจะฉีกอยู่แล้ว หลังจากรู้ข่าว อันดับแรกคือ เขาหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง แต่เพราะการหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังนี่เอง จึงส่งผลให้ผิวหนังบริเวณที่เป็นแผลกระทบกระเทือน ทำให้เจ็บจนถึงขั้นน้ำตาไหลออกมาเลยทีเดียว

แต่ถึงจะเจ็บแค่ไหน เขาก็ยังหัวเราะต่อไปไม่ยอมหยุด

แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะขุดหลุมฝังตัวเอง.... เขาเรียกกันว่าอะไรนะ ถึงอกถึงใจ

หยวนชิงหลิงทำแผลให้เขาไปพลางพูดว่า: "เจ้าหัวเราะมาครึ่งค่อนวันแล้วนะ หยุดหัวเราะได้แล้ว มีอะไรให้ขำนักหนา? เจ้าควรจะเศร้าสิถึงจะถูก"

หยู่เหวินเห้าเอียงหน้ากลับมามองนาง “ทำไมถึงต้องเศร้าล่ะ? เรื่องน่ายินดีขนาดนี้แท้ ๆ ”

"เดิมทีเสด็จพ่อตั้งใจยกนางให้มาเป็นชายารองของเจ้า แต่ตอนนี้กลายเป็นมอบให้เขาแทน แน่นอนว่าในใจเขาต้องรู้สึกไม่เป็นสุข และเมื่อเขาไม่เป็นสุข เขาจะมองหาใครเพื่อใช้ระบายความโกรธล่ะ? ใช้หัวเข่าของเจ้าคิดดูดี

รอยยิ้มของหยู่เหวินเห้า ถึงกับแข็งค้างอยู่บนใบหน้าเลยทีเดียว

“อาการบาดเจ็บดีขึ้นมากแล้ว มันจะค่อย ๆ ตกสะเก็ด ส่วนผิวหนังและเนื้อที่เกิดขึ้นมาใหม่จะอ่อนนุ่มขึ้น หากถูกตีอีกครั้ง ความเจ็บปวดนั้นจะยิ่งรุนแรงลึกล้ำ

ความอวดดีของหยู่เหวินเห้า ถึงกับแตกสลายกลายเป็นผุยผงอยู่ในก้นบึ้งดวงตาของเขาทีเดียว

หลบให้พ้นช่วงนี้ไปก่อน แล้วค่อยเข้าวัง” หยู่เหวินเห้าเค้นสมองคิดหาทางอย่างหนัก พยายามคิดทุกวิถีทางก็ยังหาวิธีดี ๆ ไม่ได้ “เจ้าทำให้ข้าป่วยก็แล้วกัน ถ้าป่วยแล้วพ่อคงต้องรู้สึกเห็นใจ

“ เจ้าถูกสั่งโบยยี่สิบห้าไม้ ระหว่างนี้คงจะยังไม่จัดการอะไรเจ้าอีกหรอก ทั้งยังไม่สามารถจัดการเจ้าแบบเปิดเผยได้ตลอดเวลาด้วย แต่เพราะรู้ว่าเจ้าห่วงใยใส่ใจข้า น่ากลัวว่าตลอดเวลานับจากนี้คงไม่อนุญาตให้ข้ากลับมา

บัลลังก์หมอยาเซียน นวนิยาย บทที่ 409 เจ้าช่างใจกว้างจริง ๆ FDP dowload ฟรี

ที่ บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 409 เจ้าช่างใจกว้างจริง ๆ นักแสดงนำหลักและนางเอกมีอายุสั้น ด้วยกันอย่างมีความสุข จะเห็นได้ว่าทั้งคู่ซาบซึ้งในความสัมพันธ์นี้ ผู้แต่ง ลิ่วเยว่ ที่ทิ้งเนื้อหาไว้ที่ บทที่ 409 เจ้าช่างใจกว้างจริง ๆ นั้นคุ้มค่าที่จะตั้งตารอ ความรักของพวกเขาจะสมบูรณ์หรือไม่ที่ บัลลังก์หมอยาเซียน ลิ่วเยว่ บทที่ 409 เจ้าช่างใจกว้างจริง ๆ ติดตามและ บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 409 เจ้าช่างใจกว้างจริง ๆ PDF ดาวน์โหลดฟรีที่ th.readeraz.com

บัลลังก์หมอยาเซียน ลิ่วเยว่ บทที่ 409 เจ้าช่างใจกว้างจริง ๆ

นวนิยาย บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 409 เจ้าช่างใจกว้างจริง ๆ