บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 538 ล้วนรังแกคน

ทั่วทั้งเมืองหลวง ผู้หญิงที่กล้าทำตามอำเภอใจ ไม่เกรงกลัวใคร กล้าเรียกชื่อจูกั๋วกงว่าเป็นขี้หมู มีเพียงคนเดียวคือท่านย่าตระกูลหยวน
ตระกูลหยวนฮูหยินใหญ่อายุน้อยกว่าจูกั๋วกง แต่ตอนนั้นพ่อสามีของฮูหยินใหญ่ตระกูลหยวนกลับเป็นคนอบรมสั่งสอนจูกั๋วกง เดิมตระกูลจูเป็นตระกูลแม่ทัพ แต่ต่อมาไม่มีใครได้เรื่อง ไม่ประสบความสำเร็จอะไรสักอย่าง หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากหยวนกง จูกั๋วกงก็ไม่สามารถมีความเจริญก้าวในหน้าที่การงาน จนได้รับแต่งตั้งเป็นกั๋วกง
จูกั๋วกงกับฮูหยินใหญ่ตระกูลหยวน ร่วมกันต่อสู้ในสนามรบหลายครั้ง ฮูหยินใหญ่ตระกูลหยวนก็เคยช่วยชีวิตจูกั๋วกงไว้ครั้งหนึ่ง และเพื่อช่วยชีวิตเขา ฮูหยินใหญ่ตระกูลหยวนเกือบเอาชีวิตไม่รอด
นี่ก็ไม่สำคัญ ยังไงก็อยู่ในสนามรบ ไม่ใช่เจ้าช่วยข้า ก็เป็นข้าที่ช่วยเจ้า เดิมก็ไม่มีอะไรควรพูดถึง แต่เพราะตอนนั้นจูฮูหยินของกั๋วกง คลอดลูกอยาก เกือบเสียชีวิตทั้งสองคน เป็นฮูหยินใหญ่ตระกูลหยวนที่เชิญเซียนโล่มาได้ ภายใต้สถานการณ์ที่คับขัน ถึงสามารถช่วยชีวิตจูฮูหยินของกั๋วกงกับนางจูใหญ่ไว้ได้
หลังจากที่ติดหนี้บุญคุณมากขนาดนี้แล้ว จูกั๋วกงกลับกระทำเรื่องเลอะเลือนอย่างหนึ่ง นั่นก็คือตอนนั้นเคยมีการสู้รบพ่ายแพ้ เซียวเหยากงกับฮูหยินใหญ่ตระกูลหยวนร่วมออกรบด้วย หลังจากพ่ายแพ้ มีคนเขียนฎีกาขึ้นทูลว่าเกิดจากพวกเขาโลภบวกกับเหล่าทหารรักตัวกลัวตาย จูกั๋วกงออกความเห็นด้วย ฮ่องเต้สั่งลงโทษลงมา เงินบำนาญของทหารที่ได้รับบาดเจ็บ ถูกลดลงครึ่งหนึ่ง
หยินใหญ่ตระกูลหยวนโกรธจัดมาก ถือขวานภูเขามาหนึ่งเล่ม ฟาดฟันไปทั่วจวนกั๋วกง ด่าว่าเป็นเพราะความคับข้องใจส่วนตัวระหว่างเขากับเซียวเหยากง ทำให้พวกทหารต้องเดือดร้อน จูกั๋วกงรู้ตัวว่าตนผิด ปล่อยให้ฮูหยินใหญ่ตระกูลหยวนระบายความโกรธตามอำเภอใจ ถึงแม้ต่อมาจะดีกันแล้ว แต่ยังไงจูกั๋วกงก็กระทำเรื่องที่ผิดไปแล้ว หลายปีมานี้ทั้งยำเกรงและหวาดกลัวฮูหยินใหญ่ตระกูลหยวน ไม่ว่าจะมีเหตุผลหรือไม่ ล้วนไม่สามารถที่จะแข็งข้อขึ้นมาได้
บ่าวใช้มารายงานเขา เขาหดลงก่อนเป็นอันดับแรก หลังจากปรากฏท่าทีหวาดกลัวสยองขวัญแล้ว ก็ไม่กล้าเสียเวลา
ไม่มีใครกล้าเข้ามาถามว่าเรื่องอะไร เพราะนางจูใหญ่ได้รับบาดเจ็บ พักผ่อนอยู่ด้านใน เพราะฉะนั้นจึงรู้ว่ามีคนตระกูลหยวนมา
เห็นสีหน้าโกรธโมโหของตระกูลหยวนแต่ละคน สีหน้าคนนำฮูหยินใหญ่ยิ่งเคร่มขรึม ตรงกลางก็มองเห็นหญิงสาวที่มากับพระชายารัชทายาทในวันนี้ ถูกคนประคองไว้ ก็รู้แล้วว่าจะต้องเป็นเรื่องของหญิงสาวคนนี้แน่ คิดว่าคงเป็นเรื่องเข้าใจผิดกับนางจูใหญ่ในวันนี้แน่
เดินหน้าไปยกมือ พร้อมพูดขึ้นว่า “ฮูหยินใหญ่ให้เกียรติมาถึงที่ ยินดีต้อนรับ...”
ฮูหยินใหญ่พูดดักเขาอย่างหยาบคาย พร้อมพูดขึ้นอย่างโมโหว่า “ต้อนรับเหี้ยอะไร ข้าไม่มาหลานสาวของข้าคงถูกโบยจนตายไปแล้ว ให้การต้อนรับจริง ชีวิตของนางไม่ตายอยู่ในกำมือของจวนกั๋วกงพวกเจ้าหรือ?”
จูกั๋วกงขมวดคิ้ว รู้สึกว่าฮูหยินใหญ่เอะอะเดือดร้อนขนาดนี้ ดูเหมือนจะเกินไปแล้ว จึงพูดขึ้นว่า “ฮูหยินใหญ่พูดเช่นนี้ก็ไม่ถูก วันนี้พวกเขาแค่กระทบกระทั่งกันทางวาจาเพียงไม่กี่ประโยคเท่านั้นเอง เป็นเรื่องเข้าใจผิด ต่อมาก็ได้อธิบายกันชัดเจนแล้ว ข้าก็ได้ตำหนิสั่งสอนนางจูแล้ว ท่านไม่จำเป็นต้องเอะอะเดือดร้อนถึงขนาดนี้”
ฮูหยินใหญ่ตระกูลหยวนได้ยินเช่นนี้ ก็โกรธจนแทบกระอักเลือด เส้นเลือดบนหน้าผากนูนเขียวขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “กระทบกระทั่งกันทางวาจา? เข้าใจผิด? แค่ความเข้าใจผิดก็สามารถสั่งให้กรมการพระนครไปจับตัวคนมาจากจวนอ๋องฉู่ พาหลานสาวของข้าไปลงโทษทรมาน? ตระกูลจูของเจ้ามีอำนาจค้ำฟ้าหรือ?เมืองหลวงอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นสถานที่ให้เจ้าสามารถแก้แค้นได้ตามใจหรือ? หลายสิบปีแล้ว สันดานเจ้ายังไม่เปลี่ยน อาศัยกฎหมายระบายความแค้นส่วนตัวเล็กน้อย เรียกลูกสาวของเจ้าออกมา ข้าจะดูสิ เป็นอะซี่ของข้าทำร้ายนางจริงหรือเปล่า”
เดิมจูกั๋วกงแอบซ่อนความโกรธไว้ ไม่กล้าระบายออกมา ตอนนี้เมื่อได้ยินเช่นนี้แล้วก็มึนงง พร้อมพูดขึ้นว่า “ฮูหยินใหญ่ ท่านพูดว่าอะไร? ใครแก้แค้นใคร? ลงโทษทรมานอะไร? ท่านพูดมาให้ชัดเจนสิ ที่ท่านพูดไม่ใช่เรื่องที่วันนี้นางจูเข้าใจผิดแล้วทะเลาะมีปากเสียงกันหรือ? จะเดือดร้อนไปถึงที่ทำการปกครองได้อย่างไร?”
เขาหรี่ตาดวงเล็กลง พร้อมพูดขึ้นด้วยแววตาไม่ค่อยแน่ใจว่า “เรื่องเมื่อก่อน ทำไมถึงชอบเอามาพูด? คนเราก็เปลี่ยนแปลงกันได้ ตอนนี้ข้าก็ไม่ได้มีความเพียรขนาดนั้นแล้ว ท่านก็อย่าเอาแต่เรื่องที่ผ่านมามาตอกย้ำเรื่อยๆเลย”
ไว้หน้ากันหน่อยไม่ดีหรือ? มีคนอยู่เยอะขนาดนี้นะ
ฮูหยินใหญ่หัวเราะเยาะ ไม่พูดตอบ หันไปเรียกอะซี่มาด้วยสีหน้าเยือกเย็น
มีรอยแดงเล็กน้อยหลายรอย บนใบหน้าสีขาวผ่อง เหมือนโดนใครทุบตี กั๋วกงเหมือนเห็นไม่ชัด ตอนนี้อะซี่เดินมาใกล้ แทบจะยืนเบียดอยู่ตรงหน้า
“ท่านกั๋วกง วันนี้ที่ข้าทะเลาะกับฮูหยินของแม่ทัพใหญ่ก็เพื่อปกป้องพระชายารัชทายาท แต่ไม่เคยทำร้ายนาง ตอนที่ข้าไปข้าไปพร้อมกับพระชายารัชทายาท ผู้เฝ้าก็เห็น ใครจะไปรู้ว่าฮูหยินของแม่ทัพใหญ่จะไปฟ้องข้าที่ทำการปกครอง ฟ้องว่าข้าทำร้ายนางได้รับบาดเจ็บ คนของที่ทำการปกครองบุกเข้ามาจับข้าที่จวนอ๋อง ลงโทษทรมานข้าอย่างไร้เหตุผล หากไม่ใช่เพราะท่านย่าไปช่วยข้าไว้ ถูกโบยไปห้าสิบที ข้าจะยังมีชีวิตอยู่อีกไหม? ข้าไม่กล้ามีเรื่องกับฮูหยินของแม่ทัพใหญ่อีกแล้ว ขอท่านช่วยข้าด้วย ช่วยพูดขอความเห็นใจให้ข้าด้วย
อะซี่พูดเสร็จ ก็รู้สึกเสียใจอย่างหนัก จึงร้องไห้ขึ้นมาอย่างแรง
เป็นที่พอใจของจูกั๋วกง ตอนนี้เห็นนางร้องไห้อย่างน่าสงสารขนาดนี้ และเห็นบนใบหน้าของนางทุกตบตี ยังถูกโบยอีก ก็อดไม่ได้ที่จะเห็นใจ ความโกรธที่มีต่อนางจูใหญ่เพิ่มพูนขึ้นมาอีกครั้ง เงยหน้าจ้องมองดูจูโห้วเต๋อ พร้อมพูดขึ้นว่า
บัลลังก์หมอยาเซียน นวนิยาย บทที่ 538 ล้วนรังแกคน ออนไลน์ฟรี
ที่ผู้แต่ง ลิ่วเยว่'s บทที่ 538 ล้วนรังแกคน บัลลังก์หมอยาเซียน , รายละเอียดของเรื่องน่าตื่นเต้นอย่างยิ่ง ความรักของนักแสดงนำชายและหญิงอยู่ในจุดบอด ไม่ใช่แค่ความรักที่บริสุทธิ์ แต่ผู้เขียน ลิ่วเยว่ ก็ต้องการถ่ายทอดปัญหาเพิ่มเติมเช่นกัน เป็นไปได้ไหมว่าใน บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 538 ล้วนรังแกคน ความรักของนักแสดงนำชายและหญิงสามารถมารวมกันได้? ครอบครัวพระเอกจะรับไหม? ติดตาม บัลลังก์หมอยาเซียน ลิ่วเยว่ บทที่ 538 ล้วนรังแกคน ที่ th.readeraz.com
บัลลังก์หมอยาเซียน ลิ่วเยว่ บทที่ 538 ล้วนรังแกคน
บัลลังก์หมอยาเซียน นวนิยาย บทที่ 538 ล้วนรังแกคน