บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 541 ไปวัดฮู่กว๋อ

sprite

หยวนชิงหลิงและจิ่นหนิงสนทนากันอย่างอบอุ่นหลายประโยค แต่ส่วนใหญ่นางฝากความหวังไว้ที่โม่ยี่ และโม่ยี่พยักหน้าให้แก่นาง สื่อให้นางวางใจ

หยวนชิงหลิงไม่วางใจ นางจะวางใจได้เช่นไร นางไม่รู้ว่าโม่ยี่จะนำมาถึงหรือไม่ หลังโม่ยี่จากไป นางอาจไม่ได้รับข่าวสารใด ๆ เลย

ในใจนางยังคงคะนึงถึงครอบครัว

หลังส่งสามีภรรยาแคว้นต้าโจวจากไป ทั้งสองกลับจวน หยู่เหวินเห้าผิดหวังเล็กน้อย แต่ไม่ได้แสดงออกมาชัดเจนมากนัก เพราะเรื่องราวต่อจากนี้ยังมีอีกมากมาย เขาต้องรีบจัดการ

พระชายาจี้มารับยา จึงสนทนากับหยวนชิงหลิงหลายประโยค

“ครั้งนี้รัชทายาททำการเชื่อมสัมพันธไมตรีกับแคว้นต้าโจวได้สำเร็จ เวลานี้ทั่วราชสำนักล้วนคาดหวังกับเขาสูงขึ้น เสด็จพ่อยิ่งให้ตำแหน่งที่สำคัญแก่เขา”

หยวนชิงหลิงฝืนยิ้มออกมา “ใช่แล้ว”

พระชายาจี้มองความในใจของนางไม่ออก จึงเอ่ยว่า “สามารถโน้มน้าวจูกั๋วกงได้ ความจริงไม่ใช่ความชอบของเจ้า และไม่ใช่ความชอบของฮูหยินใหญ่ตระกูลหยวน เจ้ารู้ว่าเป็นความชอบของผู้ใดหรือไม่?” (ฮูหยินใหญ่ตระกูลหยวน)

หยวนชิงหลิงเงยหน้า อย่างแปลกใจเล็กน้อย “ไม่ทราบ เจ้าคิดว่าคือความชอบของผู้ใด?”

พระชายาจี้จึงหัวเราะ “พอดี เป็นความชอบของนางจูใหญ่”

หยวนชิงหลิงไม่เข้าใจ “นาง?”

ทำให้จูกั๋วกงเห็นถึงจิตใจที่โฉดชั่วเสมือนหมาป่าของอ๋องอาน เขาคงไม่แสดงท่าทีแน่ จูกั๋วกงแม้ดื้อดึง แต่เขาไม่ได้โง่เขลา ตอนนี้ตระกูลจูเปรียบเสมือนเสาค้ำฟ้าต้นใหญ่ แต่ความจริงเสาค้ำฟ้าต้นนี้เช่นเขา ไม่สามารถแผ่ขยายออกไปได้ หากเขาตาย ตระกูลจูถูกผู้อื่นข่มเหงรังแกอย่างไร้ทางสู้ แต่เพียงเกี่ยวข้องกับการช่วงชิงบัลลังก์ของนางจูใหญ่และตี๋เว่ยหมิง ไม่มีผู้ใดสามารถปกป้องตระกูลจูได้ ดังนั้นเวลานี้ เขาจะยังสามารถสู้รบกับเซียวเหยากงด้วยอคติได้อีกหรือ เขาสามารถสู้รบกับเซียวเหยากงจนตายได้ เกรงว่าแม้สิ้นชีวิตนี้เขาล้วนไม่สนใจ แต่เขาไม่อาจให้ทุกชีวิตในตระกูลจูต้องจบลงเพราะโทษทัณฑ์ในการช่วงชิงบัลลังก์ได้ ประจวบกับฮูหยินใหญ่ตระกูลหยวนมาด่าทอยกหนึ่ง

หยวนชิงหลิงมองนาง พร้อมชื่นชมในใจ “พระชายาจี้ หากพูดว่าท่านคือจูกัดเหลียงหญิง คงไม่ใช่การกล่าวเกินจริง”

เจ้าหาว่าข้าคือกวาวเครือแดงหรือ?” พระชายาจี้ไม่พอใจ (ในภาษาจีน จูกัดและ กวาวเครือแดง

หยวนชิงหลิงจึงหัวเราะขึ้นมา “ถูกต้อง ท่านคือกวาวเครือแดงที่เฉลียวฉลาดเครือหนึ่ง”

“เจ้านะสิเป็นกวาวเครือแดง คำว่าเฉลียวฉลาด ทางที่ดีเจ้าควรใช้รากบัวในการเปรียบเทียบ” พระชายาจี้หัวเราะพลางด่าทอ

หยวนชิงหลิงกลับไม่ใส่ใจว่าทางจูกั๋วกงนั้นจะคิดเช่นไร เพราะเรื่องเชื่อมสัมพันธไมตรีล้วนกำหนดไว้แล้ว

นางกังวลเรื่องแม่นมสี่ และโม่ยี่ว่าจะสามารถส่งข่าวได้หรือไม่มากกว่า

การตรวจสอบทังหยาง ตอนนี้ยังไม่ได้ผลสรุป ช่างทำให้คนร้อนใจจริง ๆ

แม่นมสี่ใช้ยา แต่ดึงดันจะย้ายออกไป อะซี่พูดว่านางเองแอบร้องไห้คนเดียว บอกว่าต่อไปไม่สามารถดูแลพวกเหล่าขนมหวานอีกแล้ว กระทั่งมองล้วนไม่กล้า ตายไปเสียยังจะดีกว่า

คำพูดเหล่านี้ถูกส่งกลับมาให้หยวนชิงหลิงฟัง หยวนชิงหลิงจึงเศร้าใจเป็นที่สุด

“คิดสิ่งใดอยู่หรือ ตอนนี้ไม่มีสิ่งใดให้กังวลแล้วสินะ อ๋องอานถูกเนรเทศทางใต้ หลายปีนี้คงไม่ได้กลับมา เจ้าห้ากลับมากรมการพระนครอีกครั้ง เรื่องดีถาโถมกันเข้ามา เจ้ายังจะทำหน้าอมทุกข์อีกหรือ?” พระชายาเอ่ยถาม

หยวนชิงหลิงส่ายหน้า ก่อนกล่าว “ไม่ได้คิดสิ่งใด เพียงคิดว่าตอนนี้เกิดเรื่องดีมากมาย ข้าจึงไตร่ตรองว่าควรไปวัดฮู่กว๋อจุดธูปขอบคุณพระโพธิสัตว์หรือไม่?”

นางอยากไปหารุ่นน้อง เพื่อรับรู้ถึงสถานการณ์ของครอบครัว

“หากเจ้าอยากไป ข้าจะไปเป็นเพื่อนเจ้าเอง” พระชายาจี้กล่าว

หยวนชิงหลิงมองนาง ก่อนกล่าวยิ้ม ๆ “จริงสิ ลืมไปเลยว่าเจ้าเลื่อมใสในศาสนาพุทธ”

พระชายาจี้กล่าวเสียงเรียบว่า “ข้าไม่ได้เลื่อมใส”

หยวนชิงหลิงตะลึงงัน “เจ้าไม่ได้เลื่อมใส? แต่ในจวนของเจ้าไม่ใช่สร้างอุโบสถหรือ?”

พระชายาจี้กล่าวอย่างไม่ละลายว่า “นั่นเพราะเลื่อมใสในศาสนาพุทธสามารถปกปิดความในใจได้มากมาย และผู้คนจำนวนมากเพราะรู้ว่าเจ้าเลื่อมใสศาสนาพุทธจึงลดการระแวงเจ้าลง ที่สำคัญไทเฮาเลื่อมใสในศาสนาพุทธ”

หยวนชิงหลิงขบขัน “พระชายาจี้ ข้าพบว่ายิ่งรู้จักเจ้ามากขึ้น ยิ่งรู้สึกว่าเจ้านั่นเป็นผู้มีความสามารถ”

พระชายากล่าวอย่างไม่ใส่ใจว่า “ผู้มีความสามารถอันใด คำนี้ด่าทอกันชัด ๆ สตรีล้วนไม่หวังให้ตนมีความสามารถ หวังว่าจะคล้ายกับฉู่หมิงชุ่ยก่อนหน้านี้ หลบอยู่ใต้ปีกบุรุษใช้ชีวิตอย่างสงบ ผู้ใดอยากต้องคิดวางแผนกัน ผู้ใดอยากจะบีบให้ตนเป็นราวหญิงเสียสติตลอดเวลา พวกเจ้าเมื่อก่อนก็เกลียดชังข้าไม่ใช่หรือ ข้าชอบตีสองหน้า ปากหวานก้นเปรี้ยว จิตใจโหดร้าย

“เจ้าไม่เป็นเช่นนั้นหรือ ข้าเข้าใจเจ้าผิดหรือ?” หยวนชิงหลิงกล่าวถามยิ้ม ๆ ย้อนกลับไป

ความจริงเป็นเช่นนั้นจริง ๆ แต่จะทำเช่นไรได้เล่า หากลำพังมีข้าเพียงคนเดียวก็คงดี

นางความคิดว่องไวรอบคอบ ร่าเริงแจ่มใส เรื่องใดล้วนมองอย่างทะลุปรุโปร่ง คนมากแผนการเช่นนางนี้ หากไม่มีคนกลุ่มใหญ่ปกป้อง

แต่เมื่อเอ่ยถึงฉู่หมิงชุ่ย หยวนชิงหลิงอดนึกถึงฉู่หมิงหยางไม่ได้ จึงเอ่ยถามว่า “เช่นนั้นฉู่หมิงหยางยังไม่กลับมาอีกหรือ?”

“กลับมาแล้ว!” พระชายาจี้กล่าวเสียงเรียบ

“กลับมาแล้ว? นางยอมกลับมาหรือ อ๋องจี้ยังไม่ถูกปล่อยตัวออกมา?” หยวนชิงหลิงแปลกใจเล็กน้อย

เมื่อมองระยะไกลจะเห็นเป็นดอกกุหลาบ แต่เพราะปัญหาเรื่องจุดสี เมื่อมองใกล้ ๆ กลับคล้ายกะโหลกศีรษะ แขวนอยู่บนลวดลายราง ๆ ก่อนกล่าวเสียงเรียบว่า “น่าจะได้ข่าวจากทางโสวฝู่ฉู่

หยวนชิงหลิงคาดเดาว่าอ๋องจี้ต้องถูกปล่อยตัวออกมา เรื่องใหญ่โตในตอนนี้ล้วนถูกกำหนดไว้แล้ว ฮ่องเต้ทรงทราบว่าเรื่องลอบสังหารไม่เกี่ยวข้องกับเขา ช้าเร็วต้องปล่อยตัวเขา

เพียงไม่คิดว่าจะรวดเร็วเช่นนี้

ยังคงยโสโอหัง” แววตาพระชายาจี้ปรากฏความดูถูก “กลับมาจนถึงตอนนี้ ไม่มาทักทายข้า กลับโวยวายเสียงดัง

อ่าน บัลลังก์หมอยาเซียน นวนิยาย บทที่ 541 ไปวัดฮู่กว๋อ

ชุดนวนิยาย บัลลังก์หมอยาเซียน ของ ลิ่วเยว่ ได้อัปเดตบทล่าสุดแล้ว บทที่ 541 ไปวัดฮู่กว๋อ. ที่ บทที่ 541 ไปวัดฮู่กว๋อ ตัวละครชายและหญิงยังคงอยู่ที่จุดสูงสุดของปัญหา ซีรีส์ บัลลังก์หมอยาเซียน ลิ่วเยว่ บทที่ 541 ไปวัดฮู่กว๋อ เป็นนวนิยายที่ดีมาก ดึงดูดผู้อ่านได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บทที่ 541 ไปวัดฮู่กว๋อ ได้นำรายละเอียดที่น่าตื่นเต้นมาให้ผู้อ่าน เนื้อหาใดที่ผู้เขียน ลิ่วเยว่ จะนำเรามาที่ บทที่ 541 ไปวัดฮู่กว๋อ ติดตาม บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 541 ไปวัดฮู่กว๋อ ได้ที่เว็บไซต์ th.readeraz.com.

บัลลังก์หมอยาเซียน ลิ่วเยว่ บทที่ 541 ไปวัดฮู่กว๋อ

บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 541 ไปวัดฮู่กว๋อ