บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 554 ต้องตรวจสอบอย่างเข้มงวด

sprite

ครั้งนี้เป็นหมอหลวงเฉาที่รินเหล้าด้วยตนเอง เติมเหล้าให้กับพระมาตุลาตี๋ก่อนให้เต็มแล้ว จากนั้นก็เติมแก้วเหล้าของตนเอง“คืนนี้พระมาตุลาคารวะเหล้าข้า ถึงตาข้าคารวะเหล้าท่านบ้างแล้ว ”

พระมาตุลาตี๋กำลังรอให้เขาพูด แต่กลับคารวะเหล้าขึ้นมาซะอย่างนั้น จึงไม่สามารถผลักไสได้ รีบยกขึ้นดื่มหมดแก้วทันที วางแก้วเหล้าลงแล้วก็ถามขึ้นอีกว่า “แล้วพระชายารัชทายาทว่าอย่างไรบ้าง ”

หมอหลวงเฉาพูดว่า “พระชายารัชทายาทอ่านนิยาย แล้วเจอเรื่องโรคเรื้อน จึงมาขอคำชี้แนะจากข้า”

พระมาตุลาตี๋นิ่งอึ้ง “หนังสือนิยายมีเขียนเรื่องโรคเรื้อนด้วยหรือ จะเป็นไปได้อย่างไร ”

หมอหลวงเฉายักไหล่ พูดยิ้มๆว่า “ใครจะไปสืบหาว่าจริงหรือไม่ มา ดื่มเหล้าต่อกันเถอะ”

พระมาตุลาตี๋พูดยิ้มๆว่า “ถ้าหากเป็นโรคเรื้อนจริง เกรงว่าคงจะไม่ให้ท่านรู้”

หมอหลวงเฉาพูดว่า “ก็จริง มีพระชายารัชทายาทอยู่ แต่ว่า ขอพูดกับท่านตรงๆไม่ปิดบัง สาวรับใช้ในจวนอ๋องฉู่ที่ชื่อหมันเอ๋อเคยไปร้านยาเพื่อหาซื้อยาที่รักษาโรคเรื้อนจริง เพียงแต่เรื่องนี้ได้กระทำอย่างลับๆ ไม่มีใครรู้เลย”

“จริงหรือ”ดวงตาของพระมาตุลาตี๋สว่างวาบขึ้น “ท่านแน่ใจนะ”

“ไม่พูดแล้ว ไม่พูดแล้ว เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพวกเรา ดื่มเหล้า ดื่มเหล้า ”หมอหลวงเฉาเริ่มปิดปากไม่ยอมพูดแล้ว

พระมาตุลาตี๋เห็นว่าถามไปก็ไม่ได้อะไรอีก จึงดื่มเรื่อยเปื่อยไปอีกไม่กี่แก้ว จากนั้นก็อ้างว่ามีเรื่องต้องจัดการและจากไปก่อน

หมอหลวงเฉากลับไปรายงานหยู่เหวินเห้า บอกว่าพระมาตุลาตี๋ถามเรื่องแม่นมสี่ขึ้นมาจริงๆ

หยู่เหวินเห้านั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะหนังสือ ยิ้มจนดอกท้อบานเต็มใบหน้า “ดี ถามก็ดีมาก”

หมอหลวงเฉาลังเลอยู่ชั่วครู่ “ท่านอ๋อง แม่นมสี่เป็นโรคเรื้อนจริงหรือ”

หยู่เหวินเห้าโบกมือ “จะเป็นไปได้อย่างไร ก่อนหน้านี้แม่นมสี่อยู่แต่ในวังมาตลอด ออกจากวังก็อยู่แต่ในจวนอ๋องฉู่ ไม่เคยไปยังสถานที่ที่มีคนเป็นโรคเรื้อนรวมตัวกัน จะเป็นโรคเรื้อนอย่างไร้สาเหตุได้อย่างไร”

หมอหลวงเฉากลับมีความกังวลอยู่บ้าง “แต่แม่นมสี่ไม่ออกจากเรือนมาเป็นเวลาหนึ่งเดือนกว่าแล้ว เพราะอะไรกันแน่”

หยู่เหวินเห้ามองไปด้านนอก กดเสียงต่ำพูดว่า “ข้าจะบอกเจ้าก็ได้ แต่เจ้าห้ามเอาไปพูดต่อข้างนอกเด็ดขาด”

หมอหลวงเฉารีบเขยิบเข้าไปใกล้ทันที “เชิญท่านพูด ข้าน้อยจะไม่บอกใครเด็ดขาด”

หยู่เหวินเห้ายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “แม่นมสี่โกรธโสวฝู่ฉู่ เจ้าดูสิครั้งนี้ที่โสวฝู่มา แม่นมสีมีสีหน้าดีๆให้เขาดูซะที่ไหน มีตั้งหลายครั้งที่ไม่ยอมให้เขาเข้าไป”

หมอหลวงเฉาเข้าใจทันที “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง โสวฝู่ฉู่ไปล่วงเกินอะไรแม่นมสี่เข้า คนดีๆอย่างแม่นมสี่ ทำไมโสวฝู่ฉู่จึงต้องรังแกแม่นมด้วยเล่า”

“ผู้ชายน่ะ”หยู่เหวินเห้าพูดเสียงลากยาวหนึ่งเสียง “นิสัยธรรมชาติ”

ส่วนจะเป็นนิสัยอะไรนั้น ให้หมอหลวงไปคิดเอาเอง คิดออกว่าเป็นอะไรก็อันนั้น

หมอหลวงเฉาอุทานเสียงหนึ่ง “อายุป่านนี้แล้ว ยังไม่รู้จักเก็บอาการอีก”

“ใช่แล้ว”หยู่เหวินเห้าพูดเออออตาม

หลังจากหมอหลวงเฉาจากไปแล้ว หยู่เหวินเห้าให้สวีอีไปที่โรงหมอ ซื้อยารักษาโรคเรื้อนกลับมาหลายชุด

ผ่านไปสองวัน มีไส้ศึกเข้ามาในจวนอ๋องฉู่ ถูกสวีอีที่ส่งยาไปยังเรือนแม่นมสี่จับได้ พาคนรีบไล่ตามไป ทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บ แต่ว่าไม่สามารถจับตัวได้

แล้วก็ผ่านไปอีกสองวัน พระมาตุลาตี๋ได้ถวายรายงานในการประชุมเช้า บอกว่าแม่นมสี่เป็นโรคเรื้อน รัชทายาทกลับไม่สนใจอันตรายจากการระบาดของโรค จงใจปิดบัง ซ่อนตัวผู้ป่วยโรคเรื้อนเอาไว้ในจวนอย่างลับๆ

พอได้ยินว่าในจวนอ๋องฉู่มีคนป่วยโรคเรื้อน ทั้งราชสำนักก็แตกตื่นทันที

ความตื่นตระหนกต่อการระบาดของโรคเรื้อนอย่างรุนแรงเมื่อห้าปีก่อน ขุนนางที่อยู่ในราชสำนักต่างก็จำได้ดี มีคนไข้ยืนยันผลตรวจว่าเป็นโรคเรื้อนแทบทุกวัน ทุกคนต่างหวาดกลัว ประชาชนต่างอพยพหนี

ตอนนั้นฮ่องเต้หมิงหยวนเพิ่งจะขึ้นครองราชย์ได้ไม่นาน ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดในยามวิกฤติ ให้รีบตรวจหาคนไข้ เอาคนไข้ส่งไปกักกันยังเขาโรคเรื้อน จากนั้นก็ใช้ผงปูนขาวทำลายเชื้อบริเวณที่คนป่วยเคยอาศัยอยู่ เสื้อผ้าและของใช้ประจำวันที่คนป่วยเคยใช้ก็ถูกเผาทำลายจนหมด เพื่อป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อไปยังคนอื่นได้

คนที่เป็นโรคก็มีอาการของโรคทางร่างกาย คนที่ไม่เป็นโรคก็มีอาการทางใจ เพราะราชสำนักได้ประกาศว่าโรคนี้มีเวลาฟักตัวในร่างกายหลายปี ฉะนั้นทุกคนจึงกลัวว่าตนเองจะเป็นพาหะนำโรค

ตอนนี้ พระมาตุลาตี๋ได้พูดคำว่าโรคเรื้อนในราชสำนัก ราชสำนักทั้งบนล่าง จะไม่ตื่นตระหนกได้อย่างไรเล่า

ที่น่าตระหนกตกใจไปกว่านั้นก็คือคนที่เป็นโรคในครั้งนี้คือแม่นมสี่ ก่อนหน้านี้แม่นมสี่คอยรับใช้อยู่แต่ในวังมาตลอด ถ้าหากบอกว่านางเป็นโรค เป็นไปได้หรือไม่ว่า?

ชั่วขณะ ดวงตาของเหล่าขุนนางทั้งบุ๋นบู๊ต่างก็จดจ้องไปยังฮ่องเต้หมิงหยวนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์สูงสุด

ฮ่องเต้หมิงหยวนตัวสั่นสะท้านไปคราหนึ่ง

เขาย่อมไม่ลืมความน่ากลัวที่เคยเกิดขึ้นครั้งนั้น เพราะเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นหลังจากที่เขาขึ้นครองราชย์ได้ไม่นาน

ประเทศที่ยิ่งใหญ่ ถ้าหากมีกองทัพทหารใหญ่เข้ามารุกราน ยังสามารถส่งกองทัพออกไปโจมตีกลับได้

และสามารถแพร่กระจายได้ ถ้าหากเกิดการระบาดขึ้นมาจริงๆ โดยที่คนนั้นไม่สามารถควบคุมได้ ฉะนั้น สายตาของทุกคนต่างก็มองไปพระมาตุลาตี๋

หยู่เหวินเห้าที่ได้ให้กำเนิดทายาทมังกรโดยวิธีธรรมชาติหลังอยู่ในครรภ์มาสิบเดือนผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งเจ้ากรมการพระนครและเป็นองค์รัชทายาทปัจจุบันดูสีหน้าค่อนข้างมึนงงเป็นอย่างยิ่ง เบิกดวงตาที่ดูบริสุทธิ์ใสสะอาด

“แม่นมสี่เป็นโรคเรื้อน ใครเป็นคนพูด”

“องค์รัชทายาท เรื่องนี้มีผลกระทบใหญ่หลวงนัก หวังว่ารัชทายาทจะไม่ปิดบังเอาไว้ ถ้าหากมีโรคระบาด ต้องรายงานให้ฮ่องเต้ทรงทราบ พวกเราต้องร่วมวางแผนในการรับมือ ไม่เช่นนั้น ผ่านไปอีกไม่กี่ปีจะบ่มเพาะกลายเป็นภัยพิบัติใหญ่ และเป็นภัยพิบัติอันใหญ่หลวงของเป่ยถังเราได้”

สายตาของเหล่าขุนนางทั้งหลานในราชสำนักต่างก็มองจ้องไปยังใบหน้าของหยู่เหวินเห้าอย่างพร้อมเพรียงกัน

อ่านนวนิยายออนไลน์ บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 554 ต้องตรวจสอบอย่างเข้มงวด ได้ฟรี

บัลลังก์หมอยาเซียน อัปเดตบทล่าสุด บทที่ 554 ต้องตรวจสอบอย่างเข้มงวด ใน th.readeraz.com . ที่ บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 554 ต้องตรวจสอบอย่างเข้มงวด นักแสดงนำชายและหญิงยังคงอยู่ที่จุดสูงสุด ซีรีส์ บัลลังก์หมอยาเซียน ลิ่วเยว่ บทที่ 554 ต้องตรวจสอบอย่างเข้มงวด เป็นซีรีส์นวนิยายที่ดีมาก ดึงดูดผู้อ่านได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บทที่ 554 ต้องตรวจสอบอย่างเข้มงวด ให้รายละเอียดที่น่าตื่นเต้นแก่ผู้อ่าน เนื้อหาใดที่ผู้เขียน ลิ่วเยว่ จะนำเรามาที่ บทที่ 554 ต้องตรวจสอบอย่างเข้มงวด ติดตาม บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 554 ต้องตรวจสอบอย่างเข้มงวด ได้ที่เว็บไซต์ th.readeraz.com.

บัลลังก์หมอยาเซียน ลิ่วเยว่ บทที่ 554 ต้องตรวจสอบอย่างเข้มงวด

นวนิยาย บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 554 ต้องตรวจสอบอย่างเข้มงวด