บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 55 พระสนมเสียนเฟยโมโห

sprite

บทที่ 55 พระสนมเสียนเฟยโมโห

หยวนชิงหลิงอมยิ้ม “ท่านอ๋อง เกรงว่าเสด็จพ่อคงไม่ให้หม่อมฉันเสวยอาหารร่วมอีกแล้วสิเพคะ”

“เรื่องนี้ไม่จำเป็น เรามาตกลงกันก่อน” อ๋องซุนพูด

“เรื่องสำรับอาหาร ท่านอ๋องเองก็น่าจะเสวยแล้วไม่น้อยนะเพคะ” หยวนชิงหลิงพูดเสียงเรียบ

“ไม่เหมือนกัน เจ้าไม่รู้ พ่อครัวของเสด็จพ่อนั้น ทำสำรับอาหารให้แค่พระองค์เพียงผู้เดียว หรือว่าเจ้าไม่รู้สึกว่ารสชาติของสำรับต่างกันหรือ?”

หยวนชิงหลิงส่ายหน้า “หม่อมฉันแยกแยะไม่เก่งเพคะ”

“เสียดาย ช่างน่าเสียดาย!” อ๋องซุนพูดด้วยความเสียใจ “แบบนี้เท่ากับว่าเจ้าทรยศต่อสำรับอาหาร ทรยศอาหารจริงๆ”

เขามองน่องไก่ที่ยังเหลือในมือ พลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ “น่องไก่กับสำรับอาหารของเสด็จพ่อ ต่างกันอย่างกับฟ้าดิน เพียงแต่ก็ไม่สามารถทรยศน่องไก่”

พูดจบเข้าก็กัดลงไปอีกคำ

หยวนชิงหลิงมองตอนที่เขากิน ดูน่าเอร็ดอร่อยมาก เขาดูมีความสุขและพอใจกับการกิน

“ทำไมท่านอ๋องถึงมาหลบกินในพุ่มหญ้าล่ะเพคะ?” หยวนชิงหลิงเห็นว่าเขายังไม่คิดจะไปและตัวเองก็ไม่มีที่จะไปแล้ว เพราะไม่รู้จักพื้นที่ในวัง เกรงว่าจะบังเอิญไปเจอกับคนอื่นเข้า ดังนั้นหวังว่าอ๋องซุนจะรีบไปเร็วๆ

“ข้าไม่อยากให้ใครเห็นว่าข้าแอบกินน่องไก่” เขากินได้ระมัดระวังมาก แต่ว่าปากที่ยังเคี้ยวอยู่ เวลาพูดออกมานั้นของกินยังเต็มปาก จนฟังได้ไม่ชัด

“แอบกิน?” หยวนชิงหลิงไม่เข้าใจ อย่างเขาจำเป็นต้องแอบกินด้วยหรือ?

ได้จัดการกับน่องไก่ทั้งน่องไปเรียบร้อย พลางโยนกระดูกลงไปในน้ำ จนน้ำเกิดเป็นวง และจมลงไป เขาเช็ดมือตัวเองพลางมองหยวนชิงหลิง

ลดน้ำหนักยังแอบกินหรือ?หยวนชิงหลิงรู้สึกว่าบุตรชายของฮ่องเต้หยวนหมิงไม่มีคนไหนที่สติดีเลยสักคน

นางสูดลมหายใจเข้าออกสองสามครั้ง พอถูกอ๋องซุนถามเรื่องเสวยก็ทำให้นางหยุดความคิด และรู้สึกสบายใจขึ้นไม่น้อย

ที่จริงนางโมโหอะไรน่ะหรือ?เพราะเขาเชื่อว่าฉู่หมิงชุ่ยปกติ พวกเขาสองคนเป็นคู่สร้างคู่สม อย่างไม่ต้องเดา หากว่าไม่ใช่หยวนชิงหลิงคนเดิมไม่เข้าไปขัดขวางพวกเขา ป่านนี้ทั้งสองคนก็คงอภิเษกกันแล้ว

ถ้าหากว่านางมีเนื้อคู่ นางจะเลือกเชื่อคนรักของตัวเองหรือว่าเชื่อชายคนที่ทำลายงานอภิเษกของตัวเอง?คำตอบมันก็ชัดอยู่แล้ว

นางหันไปมองหนองน้ำที่นิ่งสนิท เรื่องการเลือกของนางก็ค่อยๆ หายไป

ตอนที่นางออกมาจากตำหนัก ไท่ซ่างหวงพูดประโยคนั้น ยังคงชัดอยู่ในหัวนาง

เขาบอกว่า ให้นางไปรับศึก

เขารู้และเข้าใจมากมายหลายเรื่อง ก่อนหน้านี้ยังไม่แน่ใจ แต่พอนึกถึงเรื่องหลังๆ เขาก็เข้าใจทุกอย่าง

มีคนที่เข้าใจอยู่ด้วย หยวนชิงหลิงจึงสงบจิตใจได้ไม่น้อย

ตำหนักชิ่งหยูของเสียนเฟย

ช่วงสองสามวันมานี้ร่างกายของเสียนเฟยไม่ค่อยดี พอถูกลมของฤดูใบไม้ร่วง นางก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา และไม่ได้ออกจากตำหนักชิ่งหยูหลายวันแล้ว ขนาดคารวะฮองเฮายังไม่ได้ไปเลย

และช่วงนี้ไท่ซ่างหวงก็ป่วย สนมในวังต่างพากันสืบข่าว จึงไม่มีใครยอมมาเยี่ยมนางเลย การมาของฉู่หมิงชุ่ยก็ถือว่าเป็นการต่อชีวิตให้ตำหนักชิ่งหยู

เสียนเฟยชอบฉู่หมิงชุ่ย เพราะนางเป็นหญิงที่มีชื่อเสียงดีมาก อำนาจของตระกูลฉู่ในราชสำนักก็มากมาย ถ้าหากว่าหลานห้าได้นางเป็นชายา ก็จะช่วยเขาได้มากเลย

ไทเฮาก็เคยรับสั่งว่าโสว่ฝู่ฉู่เป็นคนเฉลียวฉลาด ไม่มีทางจะให้อำนาจตกไปอยู่กับบุตรชายของฮองเฮาแน่ ถ้าหากว่าหลานห้าได้เกี่ยวดองกับตระกูลฉู่ ก็เท่ากับว่ามีความหวัง

แต่น่าเสียดาย ทั้งหมดนี้ต้องพังลงเพราะหยวนชิงหลิง

ดังนั้นจนถึงตอนนี้เสียนเฟยจึงไม่ยอมเจอหน้านางเลยสักครั้ง

นางเกลียดหยวนชิงหลิงเข้ากระดูก

ตอนนี้พอเห็นอ๋องฉีกับฉู่หมิงชุ่ยได้ครองคู่กัน ราวกับว่าสวรรค์สร้างมาผิดคู่ นางก็รู้สึกเจ็บปวดมาก แต่ก็ยังต้องฝืนยิ้มออกมา

“คารวะเสด็จแม่เสียน!อ๋องฉีกับฉู่หมิงชุ่ยเดินเข้ามาพร้อมพูดขึ้น”

“ไม่ต้องมากพิธี รีบมานั่ง! “เสียนเฟยยิ้ม

ทั้งสองคนเข้าไปนั่ง ฉู่หมิงชุ่ยหันไปมองเสียนเฟย พลันถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง “ได้ยินว่าเสด็จแม่ปวดหัวไม่สบาย เชิญหมอหลวงมาดูอาการหรือยังเพคะ?รู้สึกดีขึ้นบ้างหรือยัง?”

เสียนเฟยรู้สึกตัดพ้อในใจ ช่างน่าเสียดายจริงๆ เด็กคนนี้เป็นห่วงนางมาโดยตลอด และกตัญญูเป็นที่สุด ขนาดหลานห้ายังไม่มาหานางเลย

“ลมแรงไปหน่อย เลยทำให้ปวดหัว แต่ข้าชินแล้ว ไม่เป็นอะไรมาก “เสียนเฟยตอบ

“เสด็จแม่ต้องดูแลสุขภาพร่างกายหน่อยนะเพคะ “ฉู่หมิงชุ่ยพูดพลางยืนขึ้น แล้วมานั่งข้างๆ นาง “หม่อมฉันนวดให้เพคะ”

มือที่นุ่มนวลและนิ้วที่เรียวเล็กกดลงไปที่จุดของเสียนเฟย แล้วนวดลงไปด้วยความชำนาญ เสียนเฟยถอนหายใจออกมาทันที “ฝีมือการนวดของเจ้า ทำไมแม่นมหลู่ถึงเรียนไม่เป็นสักที”

นางเงยหน้าแล้วมองอ๋องฉี “ลูกเจ็ด เจ้าช่างได้ชายาดีจริงๆ เป็นวาสนาของเจ้าแล้ว”

ที่จริงในใจนางรู้สึกเจ็บมาก แต่นางอยู่ในวังมานานหลายปีแล้ว เรียนรู้อะไรมากมาย จึงสามารถเก็บอารมณ์ได้เป็นอย่างดี ฉะนั้นพอคนที่ไม่ได้คิดอะไรมากอย่างอ๋องฉีฟังแล้ว ก็รู้สึกเพียงเป็นคำชม

อ๋องฉีก็ยิ่งหันไปมองฉู่หมิงชุ่ยอย่างพอใจ “เสด็จแม่พูดถูกพ่ะย่ะค่ะ”

ฉู่หมิงชุ่ยหน้าแดงด้วยความเขินอาย พลางหันไปพูดกับเขา “พอแล้วเพคะ ท่านอ๋องออกไปก่อน ข้ามีเรื่องอยากคุยกับเสด็จแม่”

อ๋องฉีเองก็ไม่ได้สนใจเรื่องของผู้หญิง จึงลุกขึ้นแล้วทูลลา

ฉู่หมิงชุ่ยก็เริ่มขอบตาแดงขึ้น “เสด็จแม่ ท่านต้องรักษาเนื้อรักษาตัวนะเพคะ ข้าไม่สามารถดูแลท่านได้

เสียนเฟยจับมือนาง แล้วลูบเบาๆ “หลานห้าไม่มีวาสนา ไม่สามารถอภิเษกกับเจ้าได้ ตอนนี้พูดอะไรก็สายไปแล้ว”

“ตอนนี้ท่านอ๋องก็อยู่ดีเพคะ พระชายาฉู่เองก็ดูเข้าตาฝ่าบาทด้วย ฝ่าบาทพระราชทานไข่มุกหนันให้นางถึงสองเส้น นางบอกว่านางจะมอบให้ท่านเส้นหนึ่ง ก็ถือว่านางรู้กตัญญูอยู่บ้างเพคะ” ฉู่หมิงชุ่ยพูดขึ้น

เสียนเฟยชะงักไปชั่วขณะ “ฝ่าบาทพระราชทานไข่มุกหนันให้นางงั้นหรือ?เป็นไข่มุกหนันธรรมดาหรือ?”

“ไม่ใช่เพคะ เป็นของบรรณาการจากหลิงฉิว”

“ฝ่าบาทถึงขนาดพระราชทานไข่มุกหนันของหลิวฉิวให้นางเลยหรือ?” เสียนเฟยพูดขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ “ข้าจำได้ว่าฝ่าบาทไม่ได้โปรดปรานนางสักนิด”

อ่าน บัลลังก์หมอยาเซียน ลิ่วเยว่ บทที่ 55 พระสนมเสียนเฟยโมโห ออนไลน์ฟรี

บัลลังก์หมอยาเซียน นวนิยาย บทที่ 55 พระสนมเสียนเฟยโมโห ชุดของผู้แต่ง ลิ่วเยว่ ได้รับการอัปเดตใน th.readeraz.com แล้ว ที่ บทที่ 55 พระสนมเสียนเฟยโมโห บัลลังก์หมอยาเซียน เราเห็นว่านักแสดงนำหญิงล้วนเป็นเด็กผู้หญิงที่น่าสังเวชที่ด้านล่างของสังคม ถูกรังแกและกดขี่ แต่ ลิ่วเยว่ จะปล่อยให้หัวหน้าฝ่ายชายช่วยเธอให้รอดพ้นจากคนอื่นๆ แผนของผู้คน? ติดตาม บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 55 พระสนมเสียนเฟยโมโห ที่นี่

บัลลังก์หมอยาเซียน ลิ่วเยว่ บทที่ 55 พระสนมเสียนเฟยโมโห

บัลลังก์หมอยาเซียน นวนิยาย บทที่ 55 พระสนมเสียนเฟยโมโห