บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 574

กลับถึงเมืองหลวง อะซี่ที่กลับมาก่อนได้แจ้งหยวนชิงหลิง บอกว่าหลังจากที่หยวนหย่งอี้กลับมาก็ย้ายไปแล้ว และอ๋องฉีก็เขียนจดหมายปล่อยภรรยาหนึ่งฉบับตามปรารถนามาก ทั้งสองคนนับว่าเลิกกันแล้ว

อ๋องฉีจะปล่อยมือ นี่ทำให้หยู่เหวินเห้ารู้สึกคาดไม่ถึงเล็กน้อย เขารู้ว่าน้องเจ็ดหวั่นไหวต่อแม่สาวหน้ากลมแล้ว เพียงแค่ตลอดมาตัวเขาเองจัดการไม่กระจ่าง

แม่สาวหน้ากลมจากไปแล้ว น้องเจ็ดจะต้องเสียใจเป็นแน่ จะต้องหาคนดื่มเหล้าระบายความใจในเป็นแน่ และปลอบใจน้องชาย เป็นภาระที่พี่ชายผลักให้คนอื่นไม่ได้

หยู่เหวินเห้าไตร่ตรองครั้งแล้วครั้งเล่า บอกสวีอีว่าถ้าหากอ๋องฉีมาแล้วก็บอกว่าเขาไม่อยู่ในจวน ดื่มเหล้าเป็นความสนุกสนาน แต่ฟังน้องเจ็ดบ่นตลอดไม่หยุด นั่นก็เป็นการทรมาน

แต่ ครั้งนี้อ๋องฉีกลับไม่มา เหม่อลอยทั้งวันไม่ได้ปรากฏตัว นี่ไม่สมกับนิสัยของอ๋องฉีที่ถูกยุงกัดทีเดียวก็รู้สึกว่าฟ้าถล่มดินทลายแล้ว ดังนั้น หยู่เหวินเห้ายังเรียกให้กู้ซือไปดูอีก

กู้ซือก็ไม่ค่อยเต็มใจ ช่วงเวลายามเย็นที่ดีขนาดนี้ กลับบ้านไปกินข้าวพลอดรักอะไรกับฮูหยินที่แต่งงานใหม่ไม่ดีหรือ? ต้องไปยั่วยุผู้ชายที่เป็นหม้ายอีกทั้งอกหักเป็นครั้งที่สองให้ได้

เนื่องจากความสัมพันธ์ในอดีต กู้ซือก็ยังคงไปแล้ว แต่ ไปถึงลานบ้านของจวนของอ๋องฉีรอบหนึ่งแล้วกลับมาบอกหยู่เหวินเห้า “คนยังมีชีวิตอยู่ หัวเราะได้ และพูดจาได้ เหมือนกับไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเช่นนั้นพ่ะย่ะค่ะ”

หยู่เหวินเห้าไม่เชื่อ “เขาสนอกสนใจแม่สาวหน้ากลม จะไม่เสียใจได้อย่างไรล่ะ?”

“อย่างไรเสียก็เหมือนกับคนที่ไม่ได้มีปัญหาพ่ะย่ะค่ะ” กู้ซือคิดแล้วคิดอีก “แต่ขณะที่ข้าจากไป เหมือนกับว่าเห็นเขาเช็ดตา ไม่รู้ว่าร้องไห้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

“ต้องใช่แน่!” หยู่เหวินเห้ากล่าวอย่างมั่นใจ มีเพียงเช่นนี้ ถึงจะสอดคล้องกับนิสัยของเขา

ทั้งสองค่อยๆวางใจ

เรื่องเขาโรคเรื้อน รอช้าไม่ได้สักนาทีเดียวแล้ว

ดังนั้น หยู่เหวินเห้าจึงไปหาโสวฝู่ถึงจวนฉู่เพื่อหารือ

เมื่อโสวฝู่ได้ยินก็คัดค้านทันที กล่าวตำหนิ “พระชายารัชทายาทเป็นมารดาของประเทศในอนาคต เป็นพระมารดาผู้ให้กำเนิดพระราชนัดดา จะขึ้นไปเสี่ยงอันตรายที่เขาโรคเรื้อนได้อย่างไรกันพ่ะย่ะค่ะ?”

ตอนนี้หยู่เหวินเห้ารู้ว่าโสวฝู่เป็นคนที่มีเหตุผล ดังนั้น จึงได้บอกเรื่องที่พวกเขาพบเห็นบนเขาโรคเรื้อนกับเขา หลังจากฟังจบ มองดูโสวฝู่ด้วยความเศร้าโศก “ผู้มีอำนาจ จะปฏิบัติต่อราษฎรด้วยจิตใจที่แตกต่างได้อย่างไร? พวกเขาเป็นเพียงผู้ป่วย ประสบความโชคร้าย ก็ควรจะละทิ้งชีวิตของพวกเขาใช่หรือไม่? สามารถรักษาแม่นมสี่ได้ พวกเขาก็สามารถรักษาได้ แม้ว่าอาการป่วยของพวกเขาจะรุนแรง แต่ยายหยวนบอกว่า เพียงแค่ได้รับการรักษา อย่างน้อยก็ไม่นำพาการแพร่เชื้อโรคอะไรนั่น จึงสามารถใช้ชีวิตอย่างคนปกติได้ และไม่ใช่อยู่บนเขาเฮงซวยนั่น ใช้ชีวิตเหมือนคนก็ไม่ใช่ผีก็ไม่เชิง”

โสวฝู่ฟังจบ ค่อนข้างโกรธ “ทุกๆปีราชสำนักจัดสรรเงินค่าใช้จ่ายจำนวนหนึ่งสำหรับค่ายาอาหารการกินของพวกเขา ทำไมถึงได้ใช้ชีวิตอย่างน่าสังเวชเช่นนั้นพ่ะย่ะค่ะ?”

“ไม่ผู้ใดจะเข้าไปข้องเกี่ยวกับคนเหล่านั้น ดังนั้น แม้ว่าจะไม่ให้กระทั่งขนมรังนกที่เน่าบูดแล้วจะอย่างไร? ใครจะรู้ได้? ตอนนี้ยังมีให้กินสักคำ ก็ไม่ได้นับว่าดีแล้วหรือ? ล้วนตายอยู่ด้านบนหมดจึงนับว่าดี อย่างน้อย คนส่วนมากก็คิดเช่นนี้” หยู่เหวินเห้ากล่าวอย่างเย็นชา

โสวฝู่ไม่พูดจาแล้ว ความจริงคือ โรคเรื้อนแพร่เชื้อได้ การดำรงอยู่ของเขาโรคเรื้อนก็ทำให้คนรู้สึกไม่สบายใจอยู่แล้ว คนด้านบนตายหมดแล้ว ถึงนับว่าเป็นการตัดปัญหาในอนาคต

เขาก็เคยคิดเช่นนี้มาก่อน

แต่ว่า หลังจากตั้งแต่ที่แม่นมสี่เป็นโรคนี้แล้ว เขาจึงค่อยๆเกิดความเห็นอกเห็นใจ ตอนนี้ได้ฟังคำพูดของหยู่เหวินเห้า เขามีความหวั่นไหวเล็กน้อย กล่าว “องค์ชายพ่ะย่ะค่ะ เรื่องการรักษา ผ่อนไปก่อนสองสามวันค่อยพูด กลับเป็นเรื่องอาหารบนเขา จะต้องเปลี่ยนให้ดีขึ้น เรื่องนี้ก็มอบหมายให้กรมการพระนครทำ จับเอาสุนัขผู้หิวโหยเหล่านั้นที่แคะอาหารจากปากผู้ป่วยมากินออกมาจัดการอย่างรุนแรงเถอะพ่ะย่ะค่ะ”

หยู่เหวินเห้ากล่าว “เรื่องนี้จำเป็นต้องจัดการทันที แต่ว่า เรื่องการรักษาก็ไม่สามารถชักช้าได้สักนาที โสวฝู่ ว่าการราชสำนักตอนเช้าครั้งหน้า ข้าจะเสนอความคิดเห็นในท้องพระโรง”

โสวฝู่กดมือไว้ “รัชทายาทอย่าได้รีบร้อน ข้าน้อยจะเสนอต่อฮ่องเต้เล็กน้อยขณะที่รายงานข้อราชการ ทั้งดูความประสงค์ของฮ่องเต้แล้วค่อยพูดพ่ะย่ะค่ะ”

หยู่เหวินเห้ากล่าว “เช่นนั้นก็ได้ โสวฝู่พูดก่อน เพียงแค่ ความคิดเห็นของข้ากับยายหยวนครั้งนี้คือเช่นนี้ ไม่ว่าเสด็จพ่อจะเห็นด้วยหรือไม่ คนป่วยเหล่านี้ต้องรักษาเป็นแน่”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน