บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 585

หยวนชิงหลิงหยิบยาทาโดนลวกแผลพุพองมาทามือของตัวเอง มือของเด็กสาวอายุสิบแปดปี ขาวละเอียดนุ่มนวลมาก ยาก็ร้อนผ่าวเป็นที่สุด เมื่อครู่ไม่ทันได้ล้างมือด้วยน้ำเย็น ดังนั้นตอนนี้ก็แดงเป็นวงใหญ่แล้ว ปวดเป็นอย่างมาก

ความจริงระบายอารมณ์ได้ทีหนึ่ง ก็สบายอยู่ครู่หนึ่ง ตอนนี้สงบนิ่งลงมาแล้วก็ไม่ได้รู้สึกมีความสุขสักนิด เพราะว่าแม่สามีที่แปลกประหลาดเป็นที่สุดของนางผู้นี้ เป็นแม่ของเจ้าห้า

อันที่จริงแล้วนี่เป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก

ทำให้นางเสียใจยิ่งกว่ายังเป็นเสด็จพ่อ นางเอาให้เจ็ดแสนตำลึงแล้ว ตระกูลซูทางนั้นก็คืนไปหลายแสนตำลึง คิดว่าจำนวนที่เขาให้เสียนเฟยก็ไม่น้อย ต้องไม่ใช่ที่เขาบอกว่ารวบรวมได้เท่าไหร่ก็ถือว่าเท่านั้นเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นเสียนเฟยก็ไม่ถึงกับต้องเรียกนางก่อนแล้วค่อยเรียกเจ้าห้า

เสด็จพ่อดูเหมือนว่ากำลังทำโทษ แต่เขาเหมือนขอรับบริจาคมากกว่า

ขอรับบริจาคเพื่อประเทศ

นี่ทำให้จิตใจของหยวนชิงหลิงอุดไว้ด้วยหินก้อนหนึ่ง รู้สึกเป็นทุกข์อย่างหนักหน่วง

เป็นทุกข์ยิ่งกว่าคือนางไม่มีความสามารถจะทำอะไรต่อสิ่งเหล่านี้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะบอกว่าเงินล้านเงินแสนตำลึงก็จะสามารถแก้ไขได้ แต่สถานการณ์ของเขาคือเร่งด่วนจนแม้ว่าจะเป็นเงินไม่กี่หมื่นแสนล้านตำลึงก็จำเป็นต้องเอาไว้ก่อนแล้ว

ในยุคสมัยที่นางอยู่สอดคล้องกับรัชสมัยในประวัติศาสตร์ ก็มีสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน ประเทศยากจน จึงรับบริจาคจากประชาชน ดูแลจัดการบ้านเมืองโดยลักษณะใช้เงินเพื่อชดเชยความผิด แต่สถานการณ์เช่นนี้ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงการเปิดประเทศ ตอนนี้เป่ยถังรุ่งเรืองมานานแล้ว

เช่นนั้น ความเป็นไปได้มากที่สุด ก็คือเป่ยถังเริ่มเดินลงเหวแล้ว และฮ่องเต้รุ่นต่อไป ถ้าหากว่าไม่ได้เกิดเรื่องเหนือความคาดหมาย เป็นเจ้าห้า เขาต้องรับเรื่องวุ่นวายเหล่านี้ กลายเป็นฮ่องเต้ที่วุ่นวายและลำบากใจยิ่งกว่าฮ่องเต้ในตอนนี้

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ใจของหยวนชิงหลิงจึงยิ่งดีใจขึ้นมาไม่ได้

หลังจากกลับจวนแล้ว ก็ไม่รู้ว่าเสียนเฟยสั่งให้คนไปถึงกรมการพระนครบอกให้หยู่เหวินเห้าเข้าวัง

แต่ว่า ตอนกลางคืนสวีอีกลับมาก่อน สวีอีที่ปากโป้งมาแต่ไหนแต่ไรก็ยั้งปากไว้ไม่ได้ บอกกับอะซี่ว่าวันนี้ขณะที่รัชทายาทออกมาจากวัง เกิดการโมโหขึ้นเป็นยกใหญ่ ยังเตะล้อรถม้าจนพังแล้วด้วย ขณะที่เตะขาได้รับบาดเจ็บ ตัวเองเดินขากะเผลกๆ เลือดไหลบนพื้นเป็นทาง น่ากลัวมากเชียว

อะซี่กล่าวถาม “เช่นนั้นทำไมเจ้าไม่ไล่ตามไปช่วยเขาพันแผลล่ะ?”

สวีอีหดคอ “ใครจะกล้า? ตอนนั้นรัชทายาทดูเหมือนว่าต้องการจะฆ่าคนเช่นนั้น ก็ไม่เคยเห็นเขาโมโหขนาดนี้มาก่อน”

อะซี่ถามด้วยความเป็นห่วง “เช่นนั้นหลังจากนั้นรัชทายาทไปที่ใดแล้ว? พวกเจ้าไม่ได้ติดตามไปหรือ?”

“ไปหาเจ้าสำนักเสี้ยว เจ้าสำนักเสี้ยวช่วยเขาพันแผลแล้ว เขาบอกว่าคืนนี้จะอยู่ที่นั่นดึกหน่อยค่อยกลับมา ไล่ข้ากลับมาบอกพระชายารัชทายาทสักคำ เดี๋ยวเจ้าเข้าไปบอกพระชายารัชทายาทก็ได้แล้ว บางทีคืนนี้รัชทายาทอาจจะไม่กลับมาแล้ว”

อะซี่อ๋อคำหนึ่ง แต่ก็กล่าวอีกทันที “เขาค้างคืนอยู่ที่เจ้าสำนักเสี้ยวทางนั้นไม่ดีหรอกมั้ง? พระชายารัชทายาทจะคิดมากได้ ยังไงเจ้าก็ไปสักรอบ บอกรัชทายาทว่าไม่ว่าจะดึกเพียงใดก็ต้องกลับมา”

“พวกเขามีเรื่องต้องหารือ” สวีอีกล่าว

อะซี่พยักหน้า “เช่นนั้นก็ได้ ข้าเข้าไปบอกกับพระชายารัชทายาทสักคำละกัน”

อะซี่เข้าไป เอาคำพูดที่สวีอีบอกต่อหยวนชิงหลิงตามความเป็นจริง หยวนชิงหลิงฟังจบ ถอนหายใจแล้วกล่าว “ให้เขาได้อยู่ผ่อนคลายทางนั้นเถอะ ในใจของเขาจะต้องไม่สบอารมณ์อย่างสุดๆเป็นแน่”

อะซี่กล่าว “ท่านพี่หยวน แต่ว่าเจ้าสำนักเสี้ยวเป็นผู้หญิงนะเจ้าคะ ท่านไม่หึงหรอกหรือ?”

หยวนชิงหลิงหัวเราะขึ้นมาแล้ว “เขากับเจ้าสำนักเสี้ยวรู้จักกันมานานมากแล้ว ถ้าหากว่าทั้งสองมีอะไรกันเล็กน้อย ก็มีตั้งนานแล้ว ข้าไว้ใจเขาได้”

อะซี่หัวเราะแล้ว “ไว้ใจได้? ผู้ชายไว้ใจไม่ได้นะเจ้าคะ ยิ่งกว่านั้น เรื่องหึงหวงนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรก ผู้หญิงที่มีความคิดไม่ซื่อกับเขาเหล่านั้นท่านก็ล้วนห้ามเป็นอย่างมาก”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน