บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 59

บทที่ 59 แม่นมสี่ยอมรับผิด

ฮองเฮาหันไปมองแม่นมเป่าอย่างตกใจ “เจ้าฟังอะไรผิด?ข้าแค่ให้เจ้านำไข่มุกหนันมาคืน เจ้าไปทูลอะไรกับฝ่าบาท?”

“ฮองเฮา......” แม่นมเป่าเริ่มปากซีด และสั่นเทา “ข้าน้อยคิดเอาเอง จึงทูลฝ่าบาทว่าพระชายาส่งไข่มุกหนันมาให้เพื่ออ๋องฉู่ ดังนั้นจึงทูลไปว่าพระชายาขอให้ฮองเฮาช่วยอ๋องฉู่เพคะ”

ฮองเฮากริ้วทันที “เจ้าบังอาจเดาไปเองหรือ?ช่างใจกล้ายิ่งนัก!”

ทันใดนั้นฮองเฮาก็ฉุกคิดขึ้นได้ ยู่เป่าอยู่กับนางมานาน และเป็นคนเงียบมาตลอด ไม่มีทางที่จะพูดแบบนี้ต่อหน้าฝ่าบาทแน่นอน

ทันใดนั้นนางก็พลันนึกถึงฉู่หมิงชุ่ย

ก่อนหน้านี้ฉู่หมิงชุ่ยเคยบอกว่าจะไปหาเสียนเฟย แต่ว่านางคิดว่าตอนนี้ยังไม่จำเป็นต้องใช้นาง เพราะเสียนเฟยเป็นหลานของไทเฮา ถ้าไปทำอะไรเสียนเฟย ยิ่งจะทำให้ยากกว่าเดิม

สีหน้าของฮ่องเต้หมิงหยวนเริ่มไม่ดีอย่างมาก ทำไมยู่เป่าถึงใจกล้าขนาดนี้?เกรงว่าจะเป็นคำสั่งจากฮองเฮา เขาจึงหันไปมองฮองเฮาด้วยสายตาเย็นยะเยือก

ฮองเฮาลุกขึ้นมาแสดงเจตนาตัวเองทันที พลันตบลงไปที่หน้าของแม่นมเป่า แล้วต่อว่า “บังอาจ เรื่องที่เจ้าคิดไปเอง เจ้ายังกล้าเอาไปทูลฝ่าบาทงั้นหรือ?เจ้ามีหลายหัวหรืออย่างไร?”

แม่นมเป่าคุกเข่าที่พื้น โดยไม่กล้าจับหน้าตัวเอง นางเพียงแค่ร้องขอฝ่าบาท “ฝ่าบาทโปรดให้อภัย โปรดให้อภัยหม่อมฉันด้วยเพคะ!”

ฮ่องเต้หมิงหยวนจึงพูดขึ้นด้วยสีหน้าไม่มีอารมณ์ “ทหาร เอาตัวนางออกไปลงโทษโบยสามสิบที”

ฮองเฮาปวดใจอย่างมาก แต่ก็ไม่กล้าพูดแทนนาง จึงพูดออกไปด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียว “ถือว่าฝ่าบาทยังเห็นแก่เจ้า ยังไม่รีบขอบพระทัยฝ่าบาทอีกหรือ?”

แม่นมเป่าเอาหัวโขกพื้น ร่างกายก็อ่อนระทวยไปแล้ว สีหน้าก็ดูซีดเซียวพลันพูดขึ้น “ขอบพระทัยฝ่าบาทเพคะ”

แม่นมเป่าถูกนำตัวออกไป ไม่นานก็มีเสียงตีด้วยไม้ดังขึ้นพร้อมกับเสียงโอดโอย

ฮองเฮามีสีหน้านิ่งสงบ แต่ในใจกลับโมโหอย่างมาก พร้อมกับด่าฉู่หมิงชุ่ยตลอดเวลา

ขณะนี้เสียนเฟยเหมือนกับว่ากำลังดูเรื่องสนุกๆ อยู่ เดิมทีคิดว่าลูกสะใภ้ตัวเองต้องการประจบฮองเฮา และทำให้นางรู้สึกอัปยศ แต่ไม่นึกเลยว่าในนั้นจะมีเรื่องมากมายขนาดนี้ นางต้องตั้งใจดูถึงจะถูก

ฮ่องเต้หมิงหยวนหันไปมองหยวนชิงหลิง ด้วยแววตาสับสน

เรื่องนี้ถ้าจะสืบสวนต่อไปคงไม่ได้แล้ว ถึงแม้ว่าหยวนชิงหลิงจะบอกให้แม่นมสี่นำไข่มุกหนันไป แต่ถึงอย่างไรก็ควรจะหยุดไว้แค่นี้

เกรงว่าถ้าถามต่ออาจจะมีอะไรไม่คาดคิดมากกว่านี้

ยังไงแม่นมสี่ก็เป็นคนของไท่ซ่างหวง ไม่ควรจะประมาทมากไปกว่านี้ จะได้ไม่ทำให้ไท่ซ่างหวงเสียพระทัย

ในที่สุดเขาจึงค่อยพูดขึ้น “ในเมื่อเรื่องก็กระจ่างแจ้งแล้ว คนที่ควรลงโทษก็ลงโทษแล้ว พวกเจ้ากลับไปก่อนเถอะ”

ฮองเฮารู้แล้วว่าฝ่าบาทเข้าใจนางผิด คิดว่านางต้องการจะใส่ร้ายอ๋องฉู่ แต่ตอนนี้ถึงจะพูดอะไรไปก็ไร้ประโยชน์ ต้องกลับไปถามฉู่หมิงชุ่ยให้ละเอียดก่อน ดังนั้นจึงรีบขอตัวออกไปทันที

เสียนเฟยหันไปมองหน้าหยวนชิงหลิง แล้วก็ออกไป นางเองก็พอจะรู้แล้ว แต่ว่าดูพระองค์จะไม่ค่อยยอมที่ดำเนินการในเรื่องฉาวโฉ่นี้ เพราะในวังนั้นต้องมีเกียรติ

แม่นมสี่ก็กำลังจะคำนับแล้วออกไป แต่หยวนชิงหลิงกลับพูดขึ้น “แม่นม ข้ามีเรื่องหนึ่งอยากถามท่าน”

ฮ่องเต้หมิงหยวนพูดเตือนทันที “พระชายา เรื่องทั้งหมดหยุดเพียงเท่านี้เถอะ”

หยวนชิงหลิงที่ท่าทางนิ่งสงบเมื่อครู่ เปลี่ยนไปทันที “เสด็จพ่อ เรื่องนี้ค่อนข้างใหญ่ จำเป็นต้องถามให้กระจ่างเพคะ”

แม่นมสี่หันมามองนาง แล้วพูดเสียงเรียบ “พระชายาอยากจะพูดอะไรเพคะ?อยากถามว่าไข่มุกหนันท่านเป็นคนบอกข้าน้อยนำไปให้ฮองเฮาอย่างนั้นใช่ไหมเพคะ?ในเมื่อพระชายาไม่กล้ายอมรับ งั้นก็ถือว่าข้าน้อยเป็นคนคิดเองทำเองเพคะ เชิญลงโทษข้าน้อยเถอะ”

หยวนชิงหลิงมองนาง “ท่านเป็นคนคิดเองทำเองหรือไม่ ในใจข้ารู้ดี แต่ที่ข้าต้องการจะถามก็คือทำไมท่านถึงเปลี่ยนยาของไท่ซ่างหวง แล้วโยนความผิดให้เสี่ยวโหลจื่อ”

พอนางพูดประโยคนี้ออกมา ฮ่องเต้หมิงหยวนตกใจทันที “พระชายาอ๋องฉู่ เจ้าพูดเหลวไหลอะไร?”

หยวนชิงหลิงหันไปมองฮ่องเต้หมิงหยวน “เสด็จพ่อ ถึงหม่อมฉันจะกล้ามากขนาดไหน ก็ไม่กล้าที่จะพูดเหลวไหล ใส่ร้ายคนของไท่ซ่างหวงหรอกเพคะ”

ฮ่องเต้หมิงหยวนชะงักไปชั่วขณะ เพราะยังไงนางก็ไม่น่าจะเลอะเลือนขนาดนั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน