บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 606 พวกเราไม่ใช่คนโง่เสียหน่อย

sprite

ทังหยางกับหยวนชิงหลิงมองสบตากัน เดินลงไปอย่างเปิดเผย? พวกเขาไม่มีวิชาพรางตัวเสียหน่อย ต้องถูกสังเกตเห็นอย่างแน่นอน

ท่านชายสี่ที่เงียบขรึมตอนนี้ก็ได้พูดขึ้นมา “แค่เชื่อข้าก็พอ หรงเยว่จัดการไว้นานแล้ว ตอนที่เราลงเขานั้น พื้นที่ด้านล่างก็โล่งแล้ว”

ทังหยางมองท่านชายสี่ด้วยสายตาที่ไม่ค่อยอยากจะเชื่อนัก นิ่งไปครู่หนึ่งจึงกล่าวขึ้น “ไม่งั้นให้ข้าลงเขาไปดูก่อน”

ท่าชายสี่จ้องเขา แววตาลุกไปด้วยความโกรธ “เรื่องใหญ่แค่ไหนเชียว? ยังต้องทรมานกันไปมา ลงไปโดยตรงเลย หากเกิดเรื่อง ข้ารับผิดชอบเอง”

หยวนชิงหลิงแบกกล่องยาขึ้นมา “ไปเถอะ สิ่งที่เราทำไม่ใช่สิ่งที่ให้คนเห็นไม่ได้เสียหน่อย ทำไมต้องหลบๆซ่อนๆด้วย? ให้จับข้าคนเดียวก็พอ”

ทุกคนได้ยินนางพูดเช่นนี้ ก็รู้สึกว่าถ้าเป็นแบบนี้ตลอดก็ไร้ประโยชน์ จึงได้ตามนางลงไป

ท่านชายสี่กวาดมองหยวนชิงหลิงไปแวบหนึ่ง ใจกล้าไม่กลัวตายจริงๆด้วย

พวกเขากำลังเดินลงไป ก็เห็นร่างที่เตี้ยผอมเดินมาอย่างโซเซ “ท่านหมอหยวน”

หยวนชิงหลิงหันหน้ากลับไป ก็เห็นเสี่ยวหลันโถวยืนอยู่ข้างหลังของนางอย่างกลัวๆ เงยหน้ามองอย่างตาละห้อย แววตาเต็มไปด้วยความกลัว

“เสี่ยวหลันโถว เป็นอะไร?” หยวนชิงหลิงก้มหน้าไปถาม

เสี่ยวหลันโถวไม่พูด เพียงแต่หันหน้ามองไปข้างหลังครู่หนึ่ง หยวนชิงหลิงจึงเห็นผู้ป่วยที่มากมายที่กำลังเดินมาจากข้างหลังอย่างช้าๆ พวกเขายืนอยู่ไม่ไกลนัก แววตาเหมือนของเสี่ยวหลันโถวเลย เต็มไปด้วยความหวาดกลัวรู้สึกไม่ปลอดภัย

“ทุกคนทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ?” หยวนชิงหลิงเงยหน้าถาม

เสี่ยวหลันโถวที่ดึงเสื้อของนางอยู่ ถามด้วยน้ำเสียงที่เบา “ท่านหมอ ต่อไปพวกท่านจะไม่มาแล้วใช่มั้ย?”

หยวนชิงหลิงแปลกใจ “ทำไมจะไม่มา? ต้องมาสิ?”

“จริงๆนะ?” เสี่ยวหลันโถวหดคออย่างกลัวๆ “แต่ทุกคนต่างพูดว่า ต่อไปพวกท่านจะไม่มาแล้ว เพราะมีคนไม่ให้เพราะท่านมา”

หยวนชิงหลิงยิ้มแล้ว “ใครกล้าไม่ให้พวกเรามา? พวกเรานั้นรับราชโองการมารักษาโรคให้พวกเจ้านะ ใครจะใหญ่ไปกว่าฮ่องเต้อีก?”

“จริงนะ? เป็นฮ่องเต้ที่ให้พวกท่านมาจริงๆนะ?” ชายแก่ที่ถูกตัดขาไปเมื่อสองวันก่อนยันไม้เท้าเดินเข้ามา แววตาเต็มไปด้วยความดีใจ

หยวนชิงหลิงอยากจะร้องไห้ แต่พยายามยิ้ม “จริงสิ หากไม่มีราชโองการ พวกเราจะขึ้นเขามาได้อย่างไรล่ะ?”

“ท่านอย่าโกหกพวกเรานะ” มีคนตะโกนขึ้นมา

“ใช่ ท่านอย่าโกหกพวกเรานะ ท่านพูดว่าเราจะมีชีวิตรอดกลับไปได้ ท่านห้ามโกหกพวกเรานะ!”

ได้ยินพวกเขาร้องไห้และโหยหาความหวัง พวกเขาล้วนมีครอบครัว ตอนที่ขึ้นมาที่เขาพวกเขาก็รู้ว่าพวกเขาจะไม่มีวันได้กลับไป พวกเขาระงับความคิดถึงเอาไว้ อย่างไรก็ตาม หมอหญิงได้มารักษาให้พวกเขา บอกว่าพวกเขาจะดีขึ้น เมื่อหายแล้วสามารถกลับไปหาครอบครัว พวกเขาในตอนนี้ทุกวันเต็มไปด้วยความหวัง และด้วยความหวังนี้

หยวนชิงหลิงตาแดงแล้ว ยังคงยิ้มปลอบ “ข้าไม่โกหกคน พวกเจ้ารอข้า พรุ่งนี้ก็จะได้เห็นข้าอีก”

พูดจบ นางหันหลังก็เดินไปเลย

ทุกคนเริ่มลดฝีเท้าในการเดินลงเขา ใจของทุกคนต่างก็รู้สึกหนักอึ้งเล็กน้อย

หลังจากที่สัมผัสกับผู้ป่วยมาระยะหนึ่ง ฟังเรื่องราวของพวกเขา เรื่องราวของแต่ละคนล้วนเหมือนกัน เมื่อป่วย ก็เข้าใจว่าต้องตายอย่างแน่นอน จึงถูกส่งตัวมาที่นี่โดยไม่สามารถที่จะเจอกับคนในครอบครัวได้อีก

แต่แม่ของเขาตายแล้ว พ่อของเขามาเคยแอบดูเขาอยู่ครั้งหนึ่ง ถูกทหารที่เฝ้ายามตอนนั้นพบเห็น จึงถูกตีจนขาหัก แล้วไล่ลงจากเขา เสี่ยวหลันโถวก็มองพ่อถูกตีอยู่ในรั้วกั้น เขาบอกกับข้าว่า เขาไม่มีว่าลืมภาพที่ปากของพ่อเต็มไปด้วยเลือดแต่กลับยังอยากจะเห็นหน้าของเขา เขาบอกว่าอยากจะกลับบ้าน ต่อให้แค่กลับไปดู ไปกินข้าวสักมื้อ นอนสักตื่นแล้วตาย เขาก็เต็มใจ”

ทังหยางที่ฟังอยู่รู้สึกปวดใจ “แม่นางอะซี่ อย่าพูดอีกเลย พูดจนพระชายารัชทายาทเสียใจแล้ว”

เขารู้ว่าที่จริงแล้วโอกาสที่หยวนชิงหลิงจะขึ้นมามีไม่มากแล้ว ให้นางได้ยินเรื่องพวกนี้ เกรงว่ายิ่งทำให้นางไม่สบายใจ

หยวนชิงหลิงเอาแต่ก้มหน้าเดิน ท้องฟ้าที่ไร้ดวงจันทร์ หลบเข้าไปอยู่ในเมฆ ทางเดินมืดมิด อาศัยคบเพลิงที่ส่องแสงในมือของทังหยาง สถานที่ที่ถูกสาปแห่งนี้ คนเหล่านี้ที่ถูกคนทางโลกทอดทิ้ง ชีวิตช่วงสุดท้ายอยู่ในความมืดมิดสิ้นหวัง พวกเขาเห็นแสงสว่างแล้ว และแสงสว่างนี้ มีความเป็นไปได้ที่จะถูกดับ

ในฐานะที่เป็นหมอ นางปวดใจ ในฐานะแม่หรือลูกสาว นางยิ่งปวดใจ ใต้หล้านี้มีอะไรที่จะเจ็บปวดไปกว่าการที่ต้องห่างจากคนในครอบครัวอีก?

อันที่จริงนางก็เหมือนกับพวกเขา รู้ว่าบ้านอยู่ที่ไหน แต่ไม่สามารถมองเห็นอีกต่อไป

ความเข้าอกเข้าใจ ความเห็นอกเห็นใจ ความมีเมตตาของหมอ ทำให้เหมือนกับอวัยวะภายในของนางถูกเผา

เมื่อมาถึงครึ่งทาง ก็เห็นแสงคบเพลิง

มีคนวิ่งเข้ามาด้วยฝีเท้าที่รวดเร็ว ทังหยางตกใจ ท่านชายสี่กลับตะโกนเรียก “หรงเยว่!”

เมื่อรู้ว่าเป็นหรงเยว่ ทุกคนก็วางใจ เดินลงไปอย่างรวดเร็ว เป็นหรงเยว่ที่ถือคบเพลิงขึ้นมาบนเขาจริงๆ

นางสวมชุดสีแดง แสงไฟที่สะท้อนทำให้ผิวของนางขาวราวกับหิมะ ใบหน้าที่งดงามไร้ที่ติ ในความงามอันน่าทึ่งนี้ ซ่อนไว้ด้วยความกล้าหาญ

“ท่านชายสี่ พระชายารัชทายาท คนที่อยู่ด้านล่างได้จัดการเรียบร้อยแล้ว ลงเขาอย่างวางใจเถอะ” หรงเยว่ยิ้มกล่าวอย่างน่าเกรงขาม

ทังหยางตกใจอย่างมาก นางจัดการคนเดียวเหรอ? จัดการยังไง? ไล่ไปเหรอ?

ทุกคนก็ไม่ได้พูดมาก เดินลงเขาด้วยฝีเท้าที่เร็ว

เมื่อมาถึงภูเขาด้านล่าง ผู้คนยังคงยืนอยู่ที่นั่น มีคนประมาณยี่สิบกว่าคน แต่ละคนสวมชุดสีเทาที่แข็งแรง ซึ่งต่างจากชุดเดิมเล็กน้อย

ทังหยางนิ่งไปครู่หนึ่ง ไม่กล้าลงไปทันที

หรงเย่วกล่าว “ไม่ต้องดูแล้ว เป็นคนของเราทั้งนั้น เฝ้าแทนคนของพวกเขาเท่านั้น”

พรงเยว่พูดจบ ก็ผิวปากไปหนึ่งที คนที่อยู่ข้างล่างก็รีบขึ้นมาต้อนรับ คำนับอย่างพร้อมเพรียงกัน คนที่ทำงานบริการมันต่างกันจริงๆ แม้ว่าจะเป็นคนสูงใหญ่หยาบกระด้างแต่มีมารยาทมาก

“คนกลุ่มเดิมหายไปไหนแล้วล่ะ?” ทังหยางถาม อย่าให้ถึงกับต้องเอาชีวิตเลยนะ

หรงเยว่ชี้ไปที่โพรงหญ้า “นอนหลับอยู่ทางโน้นน่ะ”

บัลลังก์หมอยาเซียน นวนิยาย บทที่ 606 พวกเราไม่ใช่คนโง่เสียหน่อย FDP dowload ฟรี

ที่ บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 606 พวกเราไม่ใช่คนโง่เสียหน่อย นักแสดงนำหลักและนางเอกมีอายุสั้น ด้วยกันอย่างมีความสุข จะเห็นได้ว่าทั้งคู่ซาบซึ้งในความสัมพันธ์นี้ ผู้แต่ง ลิ่วเยว่ ที่ทิ้งเนื้อหาไว้ที่ บทที่ 606 พวกเราไม่ใช่คนโง่เสียหน่อย นั้นคุ้มค่าที่จะตั้งตารอ ความรักของพวกเขาจะสมบูรณ์หรือไม่ที่ บัลลังก์หมอยาเซียน ลิ่วเยว่ บทที่ 606 พวกเราไม่ใช่คนโง่เสียหน่อย ติดตามและ บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 606 พวกเราไม่ใช่คนโง่เสียหน่อย PDF ดาวน์โหลดฟรีที่ th.readeraz.com

บัลลังก์หมอยาเซียน ลิ่วเยว่ บทที่ 606 พวกเราไม่ใช่คนโง่เสียหน่อย

นวนิยาย บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 606 พวกเราไม่ใช่คนโง่เสียหน่อย