บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 646 ปรึกษาวิธีการ

sprite

ทันใดนั้นอะซี่ก็ชี้ไปยังจุดลึกสุดของต้นเหมยและพูดว่า “เอ๋ ทางนั้นมีบ๊วยเขียวหรือ ออกดอกแล้ว”

หยวนชิงหลิงมองไปตามทิศทางที่มือของนางชี้ไป เห็นเพียงในดงต้นไม้ที่ไกลออกมีรวงดอกสีเขียวเป็นจุดๆ แต่เพราะว่าระยะห่างมากเกินไป แยกไม่ออกว่าเป็นดอกหรือเป็นอะไร แต่หยวนชิงหลิงดูแล้วไม่เหมือนดอกเหมย

บ๊วยเขียวนั้นไม่เขียวขนาดนี้

“ไม่ใช่ดอกเหมย นั่นคือดวงตา ”หญิงสาวคนนั้นพูดอมยิ้ม “พวกมันเป็นหมาป่าเฝ้ายามที่คอยเฝ้าป่าดอกเหมย ไม่ต้องกลัว ขอเพียงไม่ไปทางนั้น พวกมันไม่มีทางทำร้ายคน”

“หมาป่าเฝ้ายาม”อะซี่ตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง เอ่ยอย่างอิจฉาว่า “สวรรค์ นี่มันน่าเกรงขามมาก สามารถรวบรวมฝูงหมาป่ามาเพื่อฝึกฝนให้เฝ้ายาม นี่ล้วนเป็นฝีมือของชายาเฟิงอันหรือ”

“ใช่แล้ว พระชายาชื่นชอบหมาป่า”หญิงสาวพาพวกเขาเดินต่อไปข้างหน้า

สวีอีก็ตกตะลึงไม่น้อย พลางเดินพลางมองดู ไม่ระวังชนเข้ากับร่างของอะซี่ อะซี่เดิมทีก็มองไปทางนั้น ไม่ทันระวังเช่นกัน ถูกชนเข้าอย่างกะทันหัน ทำให้ร่างโถมไปข้างหน้า เผลอตะคอกออกมาว่า “สวีอีเจ้าคนตาบอด”

“ข้าไม่ได้ตั้งใจเสียหน่อย”สวีอีแบะปากอย่างลำบากใจ ยื่นมือออกไปดึงนาง

ทันใดนั้น ก็รู้สึกว่าพื้นดินเกิดการสั่นสะเทือนขึ้น พอมองดูดีๆ ก็เห็นหมาป่าสิบกว่าตัวพุ่งออกมาจากป่าดอกเหมย วิ่งเขามาทางพวกเขาอย่างดุดันโหดเหี้ยม

หมาป่าที่เป็นหัวหน้า บนหูของมันมีเชือกสีเหลืองผูกเอาไว้ ตอนที่มันพุ่งเข้ามา หูของมันตั้งขึ้น เชือกสีเหลืองเส้นนั้นก็ปลิวสะบัดขึ้นด้วย ถ้าหากไม่ใช่เพราะเขี้ยวอันแหลมคมที่เผยออกมา อาจทำให้คนรู้สึกน่ารักมาก

มุดเข้าไปในรูจมูก บวกกับเห็นเขี้ยวอันแหลมคมขาวสะอาดนั้นราวกับจะโถมเข้ามากัดอะซี่ทันที อะซี่ไหนเลยจะเคยเห็นสถานการณ์เช่นนี้ ตกใจจนขวัญผวาไปหมด

เข้าไปขวางไว้ตรงหน้าอะซี่ มือกำดาบที่เสียบไว้กับเอว ดูท่าแล้วก็กลัวเป็นอย่างยิ่ง น้ำเสียงก็มีแววสั่นเล็กน้อย “พี่น้องหมาป่า พวก

ถ้าเปลี่ยนเป็นเมื่อก่อน อะซี่ได้ยินคำพูดนี้ คงต้องสั่งสอนเข้าสักหน่อยว่าไม่ควรดูถูกผู้หญิง แต่ว่าครั้งนี้ อะซี่กลับรู้สึกว่าสวีอีที่ใช้สองขาอันสั่นเทายืนบังอยู่ข้างหน้านางนั้นกล้าหาญเป็นอย่างยิ่ง

“ถอยไป”

ในขณะที่ทุกคนตกใจจนรู้สึกมึนงงไปหมดนั้น น้ำเสียงเคร่งขรึมสายหนึ่งก็ดังขึ้น หมาป่ารับฟังคำสั่ง ทั้งหมดหมอบลงกับพื้น ราวกับหมาบ้านที่เชื่อฟัง

ทุกคนมองตามเสียงนั้นไป เห็นเพียงคนสองคนค่อยๆเดินมา ด้านซ้ายนั้นเป็นหมอหลิน หยวนชิงหลิงรู้จัก

ใบหน้าราวกับคนอายุห้าสิบกว่า แววตาคมกริบ ใบหน้าเคร่งขรึม แม้จะอายุมากแล้ว

หยวนชิงหลิงคิด คนคนนี้น่าจะเป็นชายาเฟิงอันโล่หมัน

นางรีบเดินเข้าไปเพื่อคำนับ คำนับหมอหลินก่อน จากนั้นก็คำนับพระชายาเฒ่า

พระชายาเฒ่าได้ยินนางแนะนำตัวเอง จึงมองอย่างวิเคราะห์จริงจังอยู่ชั่วครู่ พูดว่า “พระชายารัชทายาทไม่ต้องมากพิธี เข้าไปคุยกันข้างใน”

“ขอบคุณพระชายา”หยวนชิงหลิงภายใต้การจ้องมองของนาง เกือบจะหายใจไม่ทั่วท้อง ในใจเอ่ยว่าพระชายาเฒ่านั้นเป็นคนน่าเกรงขามเช่นนี้เชียวหรือ

พระชายาเฒ่าเข้าไปดึงแขนของคุณย่าหยวนเอาไว้ สีหน้ากลับเปลี่ยนเป็นความอบอุ่น “ฮูหยินเฒ่า ขึ้นเขามาตลอดทาง ลำบากกระมัง”

คุณย่าหยวนไม่เคยพบพระชายาเฒ่ามาก่อน เห็นนางมีท่าทีเป็นกันเองเช่นนี้ ก็รู้สึกประหลาดใจอยู่ลึกๆ แต่ก็ยังคงรอยยิ้มที่เหมาะสมเอาไว้บนใบหน้า พูดว่า

“ไม่ได้ลำบากอะไร เป็นสวีอีที่แบกข้าขึ้นเขามาตลอดทาง”

สวีอีมองฝูงหมาป่าที่ถอยออกไป หัวใจที่ตื่นตระหนกจนแทบจะเต้นออกมานอกอกจึงค่อยๆสงบลงได้ ยื่นมือดึงอะซี่ ทั้งคู่ต่างประคองกันเข้าไป

เข้าสู่เรือนหลักแล้ว ของตกแต่งในบ้านเป็นสิ่งของทั่วไป โต๊ะเก้าอี้ตู้ฉากกั้นเป็นต้น ที่ควรมีก็มีหมดและล้วนเป็นของใหม่ แต่หยวนชิงหลิงสังเกตเห็นว่าของตกแต่งบ้านเหล่านี้ล้วนมีรอยแตกหรือไม่ก็รอยมีดฟัน เก้าอี้ปรมาจารย์ที่อยู่ตรงหน้าพอดีนั้นกระทั่งขาดขาเก้าอี้ไปหนึ่งข้าง

และชายาเฟิงอันก็นั่งไปบนเก้าอี้ขาขาดตัวนั้น เก้าอี้สามขาย่อมต้องโยกไปมาบ้างเป็นธรรมดา แต่ชายาเฟิงอันนั่งลงไปอย่างเต็มใจอย่างยิ่ง

พระชายาเฒ่าก็เอ่ยขึ้นเรียบๆว่า “ท่านอ๋องนิสัยใจร้อน ชอบเอาสิ่งไร้ชีวิตเหล่านี้มาระบายอารมณ์ ด้วยเหตุนี้จึงต้องเปลี่ยนอยู่ตลอด วางใจเถอะ ล้วนสามารถนั่งได้ทั้งนั้น”

หยวนชิงหลิงประคองคุณย่าหยวนเดินเข้าไป นางเลือกเก้าอี้ตัวหนึ่งที่ดูค่อนข้างแข็งแรง เก้าอี้นั้นขาเก้าอี้ไม่ขาด แต่ขาดที่เท้าแขนไปข้างหนึ่ง รอยดาบนั้นเรียบร้อย ราวกับถูกคนฟันขาดในดาบเดียว

หยวนชิงหลิงยื่นมือออกไปลูบทีหนึ่ง ไม่มีเสี้ยนไม้ จึงได้วางใจให้คุณย่านั่งลง

พระชายาเฒ่าให้คนพาอะซี่และพวกสวีอีออกไปเดินเล่นให้ทั่ว ทังหยางก็ตามไปด้วย ให้ผู้หญิงเขาคุยกัน เขาที่เป็นบุรุษคนเดียวอยู่ที่นี่ไม่ค่อยสะดวกนัก

หมอหลินยังคงมีสีหน้าอบอุ่น ถามคุณย่าหยวนว่า “อยู่ที่นี่ชินหรือยัง”

คุณย่าหยวนกุมมือของหยวนชิงหลิงเอาไว้ เอ่ยอย่างปลอบโยนว่า “อยู่ข้างกายหลานสาว จะไม่ชินได้อย่างไร”

เอ่ยอย่างทอดถอนใจว่า “ย่าของเจ้ายืนยันจะมาที่นี่ ด้วยอายุและสภาพร่างกายของนาง เดิมทีข้าก็ไม่เห็นด้วย

หยวนชิงหลิงเอ่ยอย่างซาบซึ้งใจว่า “ข้าจะกตัญญูต่อคุณย่าอย่างดี ขอบคุณหมอหลินที่ช่วยเหลือ”

หมอหลินยิ้มบางๆพยักหน้า “ไม่ต้องขอบคุณ วาสนานำพา”

พระชายาเฒ่ามองหยวนชิงหลิง ในสายตามีแววชื่นชมอยู่หลายส่วน “ได้ยินว่าตอนนี้เจ้าขึ้นเขาโรคเรื้อนรักษาคนป่วย ความห้าวหาญและความมีเมตตาส่วนนี้ของเจ้า น่านับถือมาก”

อ่าน บัลลังก์หมอยาเซียน ลิ่วเยว่ บทที่ 646 ปรึกษาวิธีการ นวนิยายออนไลน์ฟรี

The บัลลังก์หมอยาเซียน ลิ่วเยว่ บทที่ 646 ปรึกษาวิธีการ ซีรีส์ได้รับการอัปเดตพร้อมรายละเอียดใหม่มากมาย ขนานกับลักษณะบุคลิกภาพนั้น คือ อารมณ์ของคนที่รักชีวิต รักชีวิต อยากหนีจากสถานการณ์ชีวิตที่มืดมนและน่าสลดใจ ในบทที่ บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 646 ปรึกษาวิธีการ ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน กล่าวได้ว่า บัลลังก์หมอยาเซียน นวนิยาย บทที่ 646 ปรึกษาวิธีการ เป็นบทที่อ่านง่ายที่สุดในซีรีส์ บัลลังก์หมอยาเซียน ชุดนี้

บัลลังก์หมอยาเซียน ลิ่วเยว่ บทที่ 646 ปรึกษาวิธีการ

บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 646 ปรึกษาวิธีการ