บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 652 หรงเยว่เป็นเดือดเป็นร้อน

อะหลูทำสิ่งใด มักไม่ไร้จุดหมาย
บิดาของพระชายาอาน เพราะปีนั้นจวนเจ้าพระยาซูกั๋วแยกครอบครัว เมื่อมาถึงบิดาของพระชายาอานจึงกลายเป็นผู้สืบทอดของทั้งสองตระกูล และสืบทอดสายเลือดของเจ้าพระยาซูกั๋วเพาระเจ้าพระยาซูกั๋วไม่มีผู้สืบทอด
เมื่อคำนวณแล้ว พระชายาเฟิงอันคือย่าน้อยของตระกูลพระชายาอาน เพียงต่อมาแตกแขนงกันออกไป รวมทั้งชายาเฟิงอันก็ออกจากเมืองหลวงไป เมื่อมาถึงรุ่นพระชายาอานจึงไปมาหาสู่กันน้อย
ในอดีตชายาเฟิงอันไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง ทางตระกูลซูนั่นขอเพียงเกิดเรื่องใดขึ้นไม่สามารถติดต่อได้ แต่ตอนนี้อะหลูรู้มาว่าชายาเฟิงอันกลับมาที่เมืองหลวงแล้ว เพื่อให้นางทราบถึงเรื่องนี้จึงพยายามป่าวประกาศ
ครั้งนี้อะหลู ถือว่ามีความคิดยั่วยุอยู่หลายส่วน เพราะงานแต่งกำหนดลงมาแล้ว ชายาเฟิงอันแก้ไขสิ่งใดไม่ได้ แต่พระชายาอานปกติอาศัยบารมีของย่าน้อยผู้นี้ หากให้พระชายาอานรู้ว่าครั้งนี้ย่าน้อยช่วยนางไม่ได้ วันหน้านางต้องก้มศีรษะสูงส่งเหล่านั้นลง
ดังนั้น นางจึงให้คนส่งเทียบเชิญไปมอบแก่หยวนชิงหลิง ความจริงเพื่อให้ชายาเฟิงอันทราบเรื่องนี้
ทางหมู่ตึกเหมยนั้นหลังได้รับเทียบเชิญ สั่งให้คนนำไปส่งหยวนชิงหลิงที่เขาโรคเรื้อน
หยวนชิงหลิงกำลังเตรียมกลับวังหลวงสักรอบเพื่อขนเสื้อผ้า บนเขานี้หนาวเย็นยะเยือกจริง ๆ ตอนนางขึ้นเขาอุณหภูมิยังไม่ต่ำขนาดนี้ ตอนนี้ลดลงถึงศูนย์องศา ทนไม่ไหวเสียจริง
ดังนั้น จึงใช้ข้ออ้างนี้ ปิดบังคนในหมู่ตึกเหมย ก่อนพาอะซี่ หมันเอ๋อและคนอื่นๆ ไปหมู่ตึกเหมยรอบหนึ่ง ก่อนเดินทางกลับจากหมู่ตึกเหมยอีกครั้ง
เมื่อกลับมาถึงจวน หยู่เหวินเห้ายังขอบคุณอะหลูอย่างหนัก หลายวันแล้วที่ไม่ได้เจอหยวนชิงหลิง ในใจกังวลแต่กลับไม่อาจขึ้นไปบนเขา เมื่อใช้เรื่องนี้กลับมาอยู่กันพร้อมหน้าสามีภรรยา ในใจเขาพลันลืมเลือนความหนักใจเรื่องคดี
ๆ เพียง “เสพสุข”
และเมื่อหยู่เหวินเห้ากอดเอวบางของนาง จึงพบว่าระยะนี้นางผอมลงมากมาย ก่อนนี้ทุกคนต่างยุ่งวุ่นวาย จึงมีความสัมพันธ์บนเตียงน้อยลง เวลานี้เป็นคืนที่ปล่อยวางปัญหาเรื่องหนักใจลง จึงพบว่าเอวของหยวนชิงหลิงผอมบางจนแทบหักได้
นั่นมิกลายเป็นหนังหุ้มกระดูกหรอกหรือ?” หยู่เหวินเห้าลูบไล้บนล่างล้วนคือกระดูก จึงปวดใจแทบขาด “รอให้ยุ่งเรื่องเขาโรคเรื้อนเสร็จ
หยวนชิงหลิงกล่าวยิ้ม ๆ “เจ้าจะไปรู้อันใด ผู้คนมากมายใฝ่ฝันต้องการมีรูปร่างเช่นนี้แบบข้า ข้าไม่บำรุงหรอก”
หยู่เหวินเห้าย่อมไม่เชื่อ “รูปร่างผอมโซยังมีคนอิจฉา เจ้ามันคนโกหก อยากผอมง่ายดายยิ่งนัก ไม่ทานข้าวก็พอแล้ว”
“เจ้าไปถามท่านพี่รอง ท่านพี่รองต้องอิจฉาแน่นอน”
“ท่านพี่รองแปลกประหลาด ไม่นับ” หยู่เหวินเห้ายังคิดว่าสตรีอวบอั๋นงดงาม เมื่อกอดจะรู้สึกถึงเนื้อหนัง นุ่มนิ่มอย่างยิ่ง
และรูปร่างของคนแปลกประหลาดยิ่ง รูปร่างผอม บางแห่งก็เล็กตามไปด้วย เดิมทีไม่ทำให้คนรู้สึกพอใจ ตอนนี้อรชรแน่งน้อย นี่ไม่ใช่การลดทอนความสุขของเขาหรือ?
ดังนั้นหยู่เหวินเห้าจึงตัดสินใจจำเป็นต้องขุนหยวนชิงหลิงให้อ้วน
“จริงสิ คดีจัดการเป็นเช่นไร?” หยวนชิงหลิงนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ขึ้นเขาไปสิบกว่าวันแล้ว ไม่รู้มีความคืบหน้าหรือไม่
“นอกจากคดีพ่อหม้าย เรื่องอื่นไม่มีเบาะแสใด ๆ ทั้งสิ้น ตอนการประชุมเช้าถูกวิจารณ์ไปสองยก กรมอาญาเร่งรัดมาว่าถึงเวลาที่กำหนดไว้แล้ว”
เมื่อเอ่ยถึงคดี หยู่เหวินเห้าพลันรู้สึกหมดอารมณ์ ผละจากนางอย่างเกียจคร้าน
“คดีพ่อหม้ายนั้น ฆาตกรไม่ใช่สามีของหญิงที่เสียชีวิตหรือ?” หยวนชิงหลิงเคยได้ยินคดีนี้ มีคนตายสองคน เปลือยกายตายอยู่ในห้องชายที่เสียชีวิต ตายอย่างอนาถยิ่งนัก ได้ยินว่านิ้วมือนิ้วเท้าของหญิงที่เสียชีวิตถูกสับออก และชายผู้เสียชีวิตยิ่งน่าอนาถ อวัยวะเพศถูกตัดขาด
หยู่เหวินเห้าเอ่ยว่า “ดูจากหลักฐาน ทั้งหมดเป็นฝีมือเขาจริง พบอาวุธสังหารและเสื้อผ้าเปื้อนเลือดในห้องเขา ตอนเกิดเรื่อง เขาบอกว่านอนหลับอยู่ในบ้าน แต่ไม่มีผู้ใดเป็นพยาน”
“นั่นทให้น่าสงสัยจริง ๆ” หยวนชิงหลิงกล่าว
หยู่เหวินเห้าเผยสีหน้าสับสนออกมา หลังขบคิดเอ่ยว่า “เดิมคิดพรุ่งนี้ปิดคดี แต่พรุ่งนี้ขอลาหนึ่งวัน จึงเลื่อนไปเป็นวันมะรืน ความจริงคดีนี้ยังมีจุดน่าสงสัยที่คิดยังไม่กระจ่าง แต่หลักฐานครบครัน”
หยวนชิงหลิงรู้ว่าเขาได้รับความกดดัน จึงเอ่ยตักเตือนว่า “เช่นไรชีวิตคนสำคัญดุจฟ้า ตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้งดีหรือไม่ กรมอาญาเร่งให้เร่งไป ยังไงเจ้าเป็นอันธพาล ทำอันใดเจ้าไม่ได้อยู่แล้ว กลับกันพวกเราอย่าเรียงความสำคัญผิดเป็นพอ การตรวจสอบสิ่งสำคัญที่สุดคือความจริง ไม่ใช่รับปากกับผู้ใดไว้ อีกอย่าง หากเสด็จพ่ออยากปลดตำแหน่งเจ้า คงปลดไปแล้ว จะรอให้ถึงตอนนี้หรือ?”
หยู่เหวินเห้าได้ยินคำนี้ของนาง ความมืดมนภายในสมองพลันสลายไป ระยะนี้เขามัวแต่จนตรอกกับการคลี่คลายคดี ภายในสมองคิดแต่เรื่องคลี่คลายคดีไม่ใช่ความจริง ถึงกับตัดสินใจรีบปิดคดี เพื่อรายงานผลให้ทางกรมอาญา
“ยังคงเป็นความคิดของเจ้าที่ร้ายกาจ เยี่ยม คลี่คลายคดีที่ใดมีระยะเวลาจำกัด มีเพียงความจริง หาไม่พบความจริง
วันถัดมา สองสามีภรรยาไปจวนอ๋องอานพร้อมกัน
อ๋องอานวันนี้ถือเป็นเจ้าบ่าว สวมชุดสีแดงหล่อเหลาเป็นพิเศษ แต่สีหน้ากลับหม่นหมองไม่มีความยินดี ไม่มีความดีใจในการจัดงานมงคลสักนิดเดียว
ก่อนเอ่ยว่า “พี่ใหญ่ พี่รอง และน้องหกน้องเจ็ดมากันแล้ว อยู่ด้านใน
เห็นอ๋องอานไม่ดีใจ หยู่เหวินเห้าจึงดีใจ ยิ้มเผยฟันขาวเรียงสวยออกมา “พี่สี่ยุ่งเถิด ข้าจะเข้าไปคุยกับพี่รอง”
หยวนชิงหลิงกลับเรียกให้คนพาไปพบพระชายาอาน วันนี้จวนอ๋องอานจัดงานมงคล คนที่ควรได้รับการปลอบโยนที่สุดคือพระชายาอาน ดังนั้นจึงเดาว่าพวกหรงเยว่และพระชายาซุนล้วนอยู่ในเรือนของพระชายาอาน
ได้ยินเสียงเป็นเดือดเป็นร้อนของหรงเยว่ดังขึ้น “เจ้าจะกังวลอันใด หากเจ้าไม่ชอบนาง ขับไล่ไป ไม่งั้นจะเกิดเรื่องยุ่งยากมากเช่นนี้หรือ
เห็นพระชายาหลายคนล้วนนั่งอยู่ด้านใน ภายในห้องจุดเตาถ่าน จึงอบอุ่นอย่างมาก พระชายาอานร่างกายอ่อนแอ
พระชายาหลายคนในห้องเห็นหยวนชิงหลิงมา ต่างพากันดีใจ พระชายาซุนกล่าวอย่างยิ้มแย้ม “คนยุ่งของพวกเรามาถึงเสียที”
อ่านนวนิยายออนไลน์ บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 652 หรงเยว่เป็นเดือดเป็นร้อน
นวนิยายชุด บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 652 หรงเยว่เป็นเดือดเป็นร้อน เป็นหนึ่งในผลงานที่ดีที่สุดของผู้เขียน ลิ่วเยว่ ที่ บทที่ 652 หรงเยว่เป็นเดือดเป็นร้อน บัลลังก์หมอยาเซียน ตัวเอกชายและหญิงได้แก้ปัญหาให้กันและกัน ความรักของนางเอกช่างสูงส่งเสียเหลือเกิน ที่ บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 652 หรงเยว่เป็นเดือดเป็นร้อน ในที่สุด นางเอกก็ตระหนักถึงความรู้สึกของเขา ความรักของพวกเขาจะชนะทุกสิ่งหรือไม่? ติดตาม บัลลังก์หมอยาเซียน ลิ่วเยว่ บทที่ 652 หรงเยว่เป็นเดือดเป็นร้อน ที่ th.readeraz.com ได้แล้ววันนี้
บัลลังก์หมอยาเซียน ลิ่วเยว่ บทที่ 652 หรงเยว่เป็นเดือดเป็นร้อน
นวนิยาย บัลลังก์หมอยาเซียน บทที่ 652 หรงเยว่เป็นเดือดเป็นร้อน