บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 697

หยวนชิงหลิงนิ่งอึ้ง มองไปทางทังหยวน

เห็นเพียงมือเล็กๆของทังหยวนกำที่ชายเสื้อของนางเอาไว้ เงยหน้าเล็กๆขึ้นมา ในปากยังพ่นน้ำลายออกมาเป็นฟอง ในมากยังเคี้ยวหนุบหนับหลายที ไม่รู้ว่าเคี้ยวอะไรอยู่ จึงได้ส่งเสียงร้องเรียก “แม่”ขึ้นมาในบางครั้งบางคราว

หยวนชิงหลิงรีบวางข้าวเหนียวลง เปลี่ยนไปอุ้มทังหยวนขึ้นมา “เจ้าเรียกอะไร เรียกอีกครั้งสิ”

ทังหยวนอู้อู้อี้อี้อยู่ครู่หนึ่ง เอาศีรษะเข้าไปซุกซบอยู่ที่อกของหยวนชิงหลิง “แม่ แม่”

หยวนชิงหลิงรู้สึกตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างยิ่ง ดวงตามีความร้อนผะผ่าวขึ้นมา หอมไปที่แก้มของทังหยวนสองที “ทังหยวน เรียกแม่อีกที เรียกแม่อีกที”

ในช่วงเวลาที่ผ่านมา นางยุ่งมาก ไม่ค่อยได้ดูแลลูก ก่อนหน้านี้เคยสอนพวกเขาเรียกแม่ เพราะว่าการออกเสียงเรียกแม่ง่ายกว่าการออกเสียงเรียกท่านแม่ แต่ทั้งหมดเคยสอนแค่สองครั้งเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าทังหยวนนั้นเรียกเป็นแล้ว

ทังหยวนเกาะนางเอาไว้แน่น ไหนเลยจะรู้ว่าซาลาเปาเหมือนจะอิจฉาขึ้นมาแล้ว ยืนขึ้นด้วยความโคลงเคลง สะบัดหมัดน้อยๆที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อนุ่มๆทุบไปบนร่างของทังหยวน ในปากก็ร้องเรียกว่า “แม่ แม่ ”

คุณย่าหยวนเองก็ดีใจเป็นอย่างยิ่ง และไม่สนว่าซาลาเปาจะตัวหนักแค่ไหน คว้าตัวขึ้นมาอุ้ม“ซาลาเปาก็ฉลาดมาก แต่ว่าจะตีน้องไม่ได้ รู้หรือไม่ ต้องรักและปกป้องน้อง ”

“แย่แย่……”ซาลาเปาชี้ไปที่ทังหยวน ในปากยังคงพึมพำ “ตีตี ตีตี ”

ทังหยวนก็หมุนตัวกลับมา จะเข้าไปตีซาลาเปา หมัดน้อยๆแลกกันไปมา สงครามเหมือนจะดุเดือดไม่น้อย

หยวนชิงหลิงมองดู ไม่รู้ว่าควรขำหรือโมโหดี ได้แต่แยกออกจากกัน ทั้งชื่นชมและสั่งสอนล้วนต้องทำ ข้าวเหนียวนั่งอยู่ตรงปลายเท้ามองดูพวกเขา ดวงตาที่ดำขลับกำลังแวววาวดุจดวงดาว จากนั้นก็เปิดปากหัวเราะขึ้นมา ไม่รู้ว่าดีใจเรื่องอะไร หมัดน้อยๆกวัดแกว่งไปมาหลายที ร่างน้อยๆก็โยกตามไปมาด้วย

“เอ๋ นี่แบ่งพรรคแบ่งพวกกันแล้วหรือ ”คุณย่าหยวนมีความสุข มองข้าวเหนียวและถามขึ้นว่า “ข้าวเหนียวจะช่วยใคร ช่วยพี่รองหรือพี่ใหญ่”

“ตี ตี ……”ข้าวเหนียวกลับพึมพำพูดออกมา คำว่าตีนี้พูดได้ค่อนข้างชัดเจนมาก เสียงฟังดูชัดเจนกว่าทังหยวนและซาลาเปาพูดเสียอีก

หยวนชิงหลิงหัวเราะครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าดวงตาของตนเองระคายเคืองอยู่บ้าง “คุณย่า ตอนนี้หลานเข้าใจถึงความรู้สึกของเสด็จพ่อแล้ว ตอนนี้พวกเขาแค่ทะเลาะกันชั่วครู่ หลานยังเป็นกังวลว่าพวกเขาไม่ได้ทะเลาะกันแต่ตีกันขึ้นมาจริงๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเสด็จพ่อที่ต้องมองดูลูกชายทั้งหลายที่ต่อสู้กันเอง ต่อสู้ให้ตายกันไปข้างหนึ่ง เสด็จพ่อนั้นไม่ง่ายเลยจริงๆ ”

“ใช่แล้ว”คุณย่าหยวนก็รู้สึกสะท้อนในใจ

หยวนชิงหลิงอุ้มข้าวเหนียวขึ้นมา ลูกชายทั้งสองคนนั่งตักคนละข้าง ข้าวเหนียวดูแล้วตัวใหญ่ไม่เท่าทังหยวน แต่ว่ามีแค่ใบหน้าที่ผอมกว่าเล็กน้อยเท่านั้น ร่างกายยังคงอ้วนเหมือนกัน เห็นได้ชัดว่าไทเฮาเลี้ยงดูอยู่หนึ่งเดือน เป็นการทำตามมาตรฐานในการเลี้ยงหมูชัดๆ

มาถึงจวนเจ้าพระยาจิ้งแล้ว แม่นมต่างก็มาอุ้มเด็กๆไปก่อน หยวนชิงหลิงประคองคุณย่าลงจากรถม้า เพราะก่อนจะมาก็ได้ให้คนมารายงานแล้ว ฉะนั้นประตูจวนจึงเปิดกว้างรออยู่ มีบ่าวไพร่รอต้อนรับที่หน้าประตู

ฮูหยินใหญ่แห่งจวนเจ้าพระยาจิ้งตั้งแต่เข้าสู่หน้าหนาวมา ร่างกายก็ไม่ค่อยเหมือนช่วงก่อนหน้านี้สักเท่าไหร่ เดิมทีนางก็หัวใจไม่ค่อยดี ความดันค่อนข้างสูง แล้วก็ถูกเจ้าพระยาจิ้งกระทบไปครั้งหนึ่ง บวกกับสภาพอากาศที่หนาวเหน็บและปัจจัยอื่นๆ ทำให้โรคของนางอาการรุนแรงขึ้น

การที่หยวนชิงหลิงกลับมาทำให้นางดีใจมาก ให้คนเตรียมข้าวปลาอาหารไว้ตั้งแต่เช้า รอเพียงหลานสาวกลับมาแล้วกินข้าวด้วยกัน

นางเห็นหยวนชิงหลิงพาคนแก่ท่านหนึ่งกลับมาด้วย ผ่านการแนะนำ จึงรู้ว่าเป็นหมอที่มาจากต้าซิง จึงให้ความเคารพเป็นอย่างยิ่ง บวกกับเห็นว่าฮูหยินแก่ดูรักและเอ็นดูหยวนชิงหลิงเป็นอย่างมาก นางก็ยิ่งต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี

คุณย่าหยวนเรียกฮูหยินใหญ่ว่าเสี้ยนจู่ เพราะก่อนมาที่นี่ก็ได้ยินหยวนชิงหลิงเล่าว่าได้รับการดูแลเอาใจใส่ของเสี้ยนจู่คนนี้ ด้วยเหตุนี้นางเองก็ซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง เพียงแต่ไม่สามารถแสดงออกมาได้

เมื่อถึงเวลาตอนเที่ยงวัน หยวนชิงผิงก็กลับมาเหมือนกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน