บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 77

บทที่ 77 สถานการณ์วุ่นวายในตระกูลฉู่

ใบหน้าโกรธเคืองของโสวฝู่ฉู่ค่อยสงบลง ก่อนจะนั่งลงที่นั่งราชครู แต่อย่างไรเสียท่าทางของเขาก็ยังคงนิ่งขรึม

“นี่จะเป็นโอกาสสุดท้ายของเจ้า หากเจ้าไม่ยอมปริปาก ตำแหน่งพระชายาฉีเจ้าก็ไม่ต้องเป็นแล้วก็เท่านั้นตระกูลฉู่ยังมีสตรีที่เชื่อฟังอีกเยอะ”

“เสด็จปู่ ท่านโปรดฟังที่หลานพูดด้วยเจ้าค่ะ หลานไม่ได้จงใจจะให้……” นางเริ่มร้องไห้ขึ้นมา หยาดน้ำตาไหลลงมาตามใบหน้า ช่างน่าเห็นใจเป็นอย่างมาก ผู้ใดที่ได้เห็นท่าทางเช่นนี้ต่อให้ใจแข็งมากเพียงใดก็ใจอ่อนลงในทันที

แต่น่าเสียดายที่ไม่ใช่กับโสวฝู่ฉู่ เขาไม่เคยหลงเชื่อในน้ำตา

“เก็บน้ำตาของเจ้าเอาไว้ แล้วไสหัวออกไปเสีย!” เขากล่าวขึ้นอย่างเยือกเย็น

สุดท้ายฉู่หมิงชุ่ยก็แสดงสีหน้านึกเสียใจออกมา พลางรีบพูดทันที “เสด็จปู่ ข้าผิดไปแล้ว ล้วนเป็นความผิดของข้า ข้าไม่ควรที่จะใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ของท่านและแม่นมสี่ จริงแท้ที่หลานบอกให้นางวางยาพิษลงไปในยาของไท่ซ่างหวง หลานเพียงแค่กลัวว่าหากอาการของไท่ซ่างหวงดีขึ้นแล้ว อ๋องฉู่จะกลับมามีอำนาจอีกครั้งเท่านั้น หลานเพียงคิดจากสถานการณ์โดยรวมเท่านั้น”

“เจ้าทราบเรื่องความสัมพันธ์ของข้าและแม่นมสี่ได้อย่างไร?” เสียงของโสวฝู่ฉู่นั้นดูมืดมนและเยือกเย็นอย่างมาก ราศีรอบข้างมีจิตสังหารอันโหดร้าย

ฉู่หมิงชุ่ยไม่เคยเห็นสีหน้าท่าทางที่น่ากลัวเช่นนี้ของเสด็จปู่ มาก่อน จึงทำให้นางตกใจจนปากสั่น จนต้องพูดความจริงทุกอย่างออกมา

“ท่านย่าเป็นผู้ที่บอกให้กับข้า ซึ่งเรื่องนี้ท่านย่าก็เป็นผู้ที่ให้คำเสนอแนะ ท่านบอกว่าแม่นมสี่มีความสัมพันธ์กับท่าน เพียงแค่บอกว่าเป็นความต้องการของท่าน ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตแม่นมสี่จะยอมทำทุกอย่างเพื่อท่าน เดิมทีหลานก็ไม่ได้ปักใจ แต่เพียงข้าพูดเช่นนี้ไปนางก็ยอมตกลงแล้วเจ้าค่ะ”

พอพูดจบ นางก็รีบพูดต่ออีกว่า “เสด็จปู่ แม่นมสี่ไม่มีทางที่จะกล่าวเรื่องการลอบทำร้ายไท่ซ่างหวงเป็นแน่เจ้าค่ะ และจะไม่มีทางดึงท่านเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ท่านวางใจเถิด ”

โสวฝู่ฉู่หลับตาลง ใบหน้าไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ ราวกับท่อนไม้เสียอย่างนั้น

ใจของฉู่หมิงชุ่ยว้าวุ่นไม่สบายใจ พร้อมจิกมือแน่น ไม่รู้ว่าควรจะทำเช่นไรต่อ

ผ่านไปสักระยะ โสวฝู่ฉู่ถึงได้ลืมตาขึ้น เผยให้เห็นดวงตาอันสงบนิ่ง

“แล้วเรื่องที่อ๋องฉู่จะให้อภิเษกน้องสาวของเจ้าเป็นพระชายารอง เจ้าเห็นว่าอย่างไร?”

ฉู่หมิงชุ่ยรีบตอบกลับทันที “เสด็จปู่ เรื่องนี้ไม่ได้เป็นอันขาด”

“เหตุใดถึงได้?” โสวฝู่ฉู่ถามอย่างเยือกเย็น

ฉู่หมิงชุ่ยลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “น้องหญิงเป็นบุตรสาวของภรรยาหลวง จะเข้าอภิเษกได้อย่างไร?”

“เจ้าพระยาจิ้งกล่าวไว้แล้วว่าสามารถให้ หยวนชิงหลิงขึ้นร้องเรียนต่อท้องพระโรง เมื่อถึงเวลานั้นน้องสาวของเจ้าก็จะได้เป็นพระชายา”

ฉู่หมิงชุ่ยแสดงสีหน้าตกใจ “เจ้าพระยาจิ้งกล่าวเช่นนั้นหรือเจ้าคะ? "

“แต่ทว่า พระชายาฉู่กลับคัดค้าน และฝ่าบาทเองก็ได้กล่าวด้วยว่าให้สิทธิ์กับความต้องการของพระชายาฉู่ ฉะนั้นเรื่องของน้องเจ้าและอ๋องฉู่จึงถูกปล่อยไว้เช่นนั้น”

ฉู่หมิงชุ่ยถึงกับถอนหายใจออกมา “เช่นนั้นการดึงดันไปคงจะไม่ใช่เรื่อง ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ มีแต่ปัญหาไม่เว้นแต่ละวัน”

โสวฝู่ฉู่จึงตอบกลับอย่างเฉยเมย “ถูกต้อง ดังนั้นข้าเลยตัดสินใจ ให้น้องสาวเจ้านั้นปรนนิบัติอ๋องฉีกับเจ้า”

“ว่าอย่างไรนะเจ้าคะ?” ฉู่หมิงชุ่ยล้มลงไปกับพื้นด้วยสีหน้าซีดเซียว

แล้วทันใดนั้นก็ลุกขึ้นมาคุกเข่าอีกครั้ง พลางตอบกลับอย่างหนักแน่น “ไม่ เสด็จปู่ หยวนชิงหลิงจะต้องยอมเห็นด้วย ไม่มีทางที่นางจะไม่ยินยอม หลานขอให้คำมั่นไว้เลยว่า อ๋องฉู่จะต้องอภิเษกน้องหญิงเป็นชายาเป็นแน่”

โสวฝู่ฉู่กล่าวต่อด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “นี่จะเป็นโอกาสครั้งสุดท้ายของเจ้า ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะใช้เล่ห์กลอันใด จะต้องทำทุกอย่างอย่างโปร่งใส และแน่นอนว่า หวังว่าจะทำให้ข้าพึงพอใจ หากเจ้าจัดการได้ไม่ดี หรือว่าก่อเรื่องขึ้นมา ตำแหน่งพระชายาฉีของเจ้า ก็เตรียมอำลาได้เลย”

ในทางกลับกัน เขาหวังว่าหยวนชิงหลิงจะยอมถอยไปเอง แต่หากจะต้องลงมือจริงๆ จะต้องอย่าให้เหลือร่องรอยเด็ดขาด

ฉู่หมิงชุ่ยกล่าวมั่นคง “เสด็จปู่โปรดวางใจ หลานจะทำให้เสร็จสมบูรณ์แน่นอนเจ้าค่ะ”

โสวฝู่ฉู่สะบัดมือ ด้วยสีหน้าที่เหนื่อย้า “ไปเถอะ”

“หลานขอตัวลา!” ฉู่หมิงชุ่ยโน้มตัวลงพร้อมกล่าวลา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน