บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 26

ความรู้สึกของหยู่เหวินเห้าสั่นสะเทือนตกตะลึง นางกล่าวว่ายอมตายก็ไม่อยากเป็นพระชายาฉู่งั้นหรอ?

น่าขันยิ่งนัก ตำแหน่งพระชายาฉู่ไม่ใช่สิ่งที่นางใช่เลห์มารยาคิกทำทุกวิถีททาง เพื่อเข้ามายืนในจุดนี้?

“เจ้าตื่นมาคุยกับข้าให้รู้เรื่อง!”หยู่เหวินเห้าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เขาจับเข้าไปที่หน้านางและใช้มือตบแก้มนาง

แม่นมสี่เห็นดังนั้นจึงโมโหขึ้นมาทันที นางไปยืนขวางที่ตรงหน้าของหยวนชิงหลิง“ทำไมพระองค์ถึงทำได้ลงคอ?ท่านอ๋อง ทำไมพระองค์ถึงเปลี่ยนไปเป็นคนโหดร้ายได้ถึงเพียงนี้?

หากไม่พูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยา แม้ต่อให้เป็นเพียงคนแปลกหน้า ก็มิควรทำเช่นนี้?ข้าหมดความอดทนกับพระองค์แล้วจริงๆ?”

หยู่เหวินเห้ามองไปที่ใบหน้าซีดขาวไร้เรี่ยวแรงของหยวนชิงหลิง ดวงตาที่เต็มไปด้วยความเศร้า น้ำตาที่ยังไหลออกมาไม่หยุด ดูดื้อรั้นและเย็นชา

เขาไม่สามารถทนดูทิฐิและความดื้อรั้นของนางได้ต่อไป จึงหันกลับมาและออกไป

หยู่เหวินเห้าเดินออกไปนอกตำหนักยืนอยู่ใต้ต้นฉัตรจีน ชมใบไม้สีเหลืองหมุนพลิ้วตามสายลม หัวใจดวงนี้เป็นเหมือนดั่งสายลมพัดที่พัดผ่านไป ความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้

“ท่านอ๋อง!”เสียงที่ดังจากด้านหลัง เป็นเสียงเรียกของพระชายาฉีฉู่หมิงชุ่ย

หยู่เหวินเห้ารีบเก็บอาการและอารมณ์ของตัวเอง หันกลับไปมองนาง

นางยืนอยู่ที่ระเบียง กระโปรงลากไปข้างหลัง น้ำเสียงสง่า เหมือนดั่งเทพธิดา

ความงดงามของนาง ยากที่จะหาสิ่งใดมาเปรียบได้

คู่รักที่มีใจให้กันตั้งแต่เด็กๆ แต่ตอนนี้นางได้ไปเป็นภรรยาของคนอื่นไปแล้ว หัวใจของเขา รู้สึกเจ็บปวดมาก

ฉู่หมิงชุ่ยสังเกตเห็นแววตาและท่าทางที่ดูเลื่อนลอย ทำให้นางรู้สึกอารมณ์ดีอยู่ไม่น้อย

ถึงอย่างไรเขายังลืมนางไม่ได้

นางเลิกคิ้วขึ้น ด้วยความสบาย มองเขาด้วยความโล่งอก “ตอนนี่อาการป่วยของไท่ซ่างหวงดีขึ้นแล้ว เสด็จพ่อก็มีท่าทีความคิดที่เปลี่ยนไปดีกับเจ้ามากขึ้น ข้าก็ยินดีกับเจ้าด้วย ”

เขาไม่ได้พูดอะไร

ผ่านไปไม่นาน นางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เจ้าสบายดีใช่ไหม?”

หยู่เหวินเห้ากวาดสายตามองไปที่นาง “ก็สบายดีอยู่นี่ไง ยังมีชีวิตอยู่”

ดวงตาของฉู่หมิงชุ่ยมองไปที่เขาด้วยสายตาห่วงใย ขนตายกขึ้น กล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เกรงว่าวันหนึ่ง พวกเจ้าจะแย่งชิงตำแหน่งกัน สงครามที่เกิดขึ้นไม่เจ้าก็เขาที่ต้องตาย”

หยู่เหวินเห้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ค่อยๆส่ายหัว “ไม่หรอก ข้าไม่มีทางคิดอะไรแบบนั้น เจ้าอย่ากังวลไปเลย เมื่อก่อนเคยสัญญากับเจ้าไว้ ข้าจะรักษาคำสัญญา”

ฉู่หมิงชุ่ยถอนหายใจอย่างแผ่วเบา มองไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา“ เจ้าก็รู้ ในใจข้านั้นคือเจ้า”เมื่อพูดเสร็จ ขนตาของนางกะพริบและน้ำตาก็ไหลออกมาเมื่อนางมั่นใจว่าอ๋องฉู่เห็นแล้ว จึงได้เดินจากไป เขายืนอย่างเฉยชา และไตร่ตรอง ไม่ใช่สายตาที่อ่อนโยนของฉู่หมิงชุ่ยเมื่อครู่ แต่เป็นสีหน้าอันเจ็บปวดหนักแน่นของหยวนชิงหลิง

แม่นมสี่ยกน้ำออกมาด้านนอน ยืนอยู่ข้างหลังของเขา กล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ท่านอ๋อง เข้าไปด้านในเถอะ มีเรื่องอะไรก็พูดคุยกันดีๆ”

หยู่เหวินเห้าตอบรับด้วยรอยยิ้ม หันกลับและเดินเข้าไปด้านใน ที่จริงแล้วเขามีหลายเรื่องที่อยากถามหยวนชิงหลิง

หยวนชิงหลิงยังคงนอนคว่ำอยู่บนเตียง เสื้อผ้าถูกห่อหุ้มบางๆบนหลังของนางแล้วปกคลุมด้วยผ้าห่ม หน้านางหันไปด้านข้าง หน้าซีดเพราะเสียเลือดมาก

พอเห็นว่าหยู่เหวินเห้าเข้ามา นางหลับตาลง ดวงตาที่อ่อนล้ามีรอยช้ำจางๆ ลดตาลงต่ำ ขนตางอนยาว ร่างกายรู้สึกทรุดลงมากและมีอาการอ่อนเพลียอยู่ตลอดเวลา

หยู่เหวินเห้าเองก็สงบสติอารมณ์ลงมาก ลากเก้าอี้ไม้หนึ่งตัวนั่งลงตรงหน้านาง “เรามาคุยกันดีๆเถอะนะ”

หยวนชิงหลิงค่อยๆลืมตาขึ้นมาเงยหน้ามองเขา “อย่าสงสัยอะไร กับสิ่งที่ข้าพูด สิ่งนั้นคือความจริง ในเมื่อท่านอ๋องอยากให้ข้าอธิบาย ข้าก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมืออธิบาย ข้าไม่ใช่คนที่อดทนต่อความเจ็บปวดทางจิตใจและร่างกายจะรู้สึกมีความสุข ต้องถูกทบตีลงโทษก่อนถึงจะยอมให้ความร่วมมือ”

เท้าเรียวยาวของหยู่เหวินเห้าวางลงข้างเตียง เขาโน้มตัวลงเล็กน้อย ใบหน้าของเขายังคงเย็นชาไม่เปลี่ยนไปจากเดิม เขาเองอยากขจัดหยวนชิงหลิงให้ไปพ้นๆจากกายและใจเช่นกัน

แต่คำพูดของหยวนของหลิง กลับทำให้ความรู้สึกรังเกียจนางของเขาลดลงบ้างโดยไม่ต้องสงสัย

“เจ้าให้ยาอะไรกับเสด็จปู่?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน