บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 364

หยวนชิงหลิงถาม “ห้องของแม่นมคนนั้น ปิดหน้าต่างสนิทหรือไม่”

แม่นมพูดว่า “แน่นอนว่าต้องทำอยู่แล้ว”

“เจ้าแน่ใจหรือ”

แม่นมพูดว่า “แน่นอนอยู่แล้ว ไม่เพียงแค่นาง ห้องก่อนหน้านี้ของข้าเองก็ปิดหน้าต่างสนิท เดิมทีหน้าต่างนี้ก็ไม่มีประโยชน์ พอหน้าหนาวลมพัดเข้ามา ช่างหนาวยิ่งนัก”

“ไม่มีประโยชน์ เช่นนั้นถ้าฝนตกจะทำเช่นไร”หยวนชิงหลิงอึ้ง นางไม่เคยไปดูห้องหับของเหล่าแม่นมในวังมาก่อน ไม่รู้ว่ามีลักษณะอย่างไร

แม่นมเอ่ยยิ้มๆว่า “ไม่เป็นไร หน้าต่างนั้นพูดให้ชัดก็แค่รูใหญ่ขนาดสองฝ่ามือเท่านั้น บวกกับข้างนอกยังมีทางเดิน หน้าต่างอยู่สูง ฝนตกไม่มีทางสาดเข้ามาได้”

หยวนชิงหลิงเอ่ยอย่างรู้สึกสงสัย “นี่น่าประหลาดใจนัก ถ้าหากหน้าต่างของคนอื่นๆต่างก็ปิดสนิท แล้วต้องก่อเตาถ่านในช่วงฤดูหนาว โอกาสที่จะเป็นพิษก็สูงมาก”

แม่นมสี่โบกมือ“พระชายา บ่าวที่ไหนจะได้รับการแบ่งปันถ่านไฟ แม้จะเป็นเจ้านายที่มอบให้ เดือนหนึ่งก็ได้แค่ชั่งสองชั่ง คืนหนึ่งก็เผาแค่ไม่กี่ก้อนเพราะเสียดาย แต่ว่า ก่อเตาไฟจะเป็นพิษได้หรือ ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”

หยวนชิงหลิงเอ่ยอย่างประหลาดใจ “ไม่มีถ่าน เช่นนั้นทำไมข้าได้ยินท่านอ๋องบอกว่าตอนที่แม่นมคนนั้นตาย ในห้องมีการจุดเตาถ่าน”

“น่าจะได้รับพระราชทานจากฮองเฮา”แม่นมสี่ครุ่นคิดอยู่สักครู่ พูดว่า “ใช่แล้ว ข้าจำได้ว่าตอนที่นางตายช่วงนั้นหนาวเป็นพิเศษ นางเองก็อายุมากแล้ว กลางคืนกลัวความหนาว จึงได้เผาถ่านมากหน่อยก็เป็นไปได้”

หยวนชิงหลิงยังถามเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับคดี แม่นมสี่จำได้ทั้งหมด หลังจากหยวนชิงหลิงฟังแล้ว ก็ยิ่งรู้สึกว่า หลอกุ้ยผินนั้นถูกกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรม

หลังจากแม่นมสี่พูดจนหมดแล้ว ก็ถามหยวนชิงหลิงว่า “ทำไมจึงได้ถามเรื่องที่มันเกิดขึ้นมาตั้งหลายปีแล้ว”

หยวนชิงหลิงมองแม่นม พูดเสียงเบาว่า “บางทีหลอกุ้ยผินอาจถูกใส่ร้าย นางไม่ได้ปองร้ายฮองเฮา”

แม่นมตกตะลึง“ถูกใส่ร้าย”

“ใช่ เรื่องนี้เป็นไปได้สูงมาก”

แม่นมนิ่งอึ้ง“แต่ว่าหลอกุ้ยผินถูกฮ่องเต้บัญชาลงโทษตายด้วยตนเอง ถ้าหากหลอกุ้ยผินถูกใส่ร้าย นั่นก็เท่ากับว่าฮ่องเต้ตัดสินผิด ”

หยวนชิงหลิงหลุบตาลง นางก็เพิ่งนึกถึงปัญหานี้ขึ้นมา

ฮ่องเต้ จะยินดียอมรับว่าตอนนั้นตนเองตัดสินผิดไปหรือไม่

แม่นมถอนหายใจและเอ่ยขึ้นว่า “ถ้าสามารถรื้อคดีขึ้นมาใหม่ได้ เช่นนั้นจะดีมาก องค์ชายเก้ากับองค์หญิงสิบเจ็ด ก็ไม่ต้องทนถูกรังแกอีก ตอนนี้สถานะของทั้งสองในวังนั้นน่าเป็นกังวลจริงๆ”

หยวนชิงหลิงไม่เคยพบกับองค์หญิงสิบเจ็ดมาก่อน ไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับนางเลย ถึงถามขึ้นว่า“ตอนนี้องค์หญิงสิบเจ็ดอายุเท่าไหร่แล้ว ”

“สิบสองแล้ว”แม่นมสี่พูด

ชะงักไปชั่วครู่ นางก็ถอนหายใจเบาๆพูดว่า “แต่ดูแล้ว ก็เหมือนเด็กน้อยอายุแปดเก้าขวบ หน้าซีดตัวผอม คิดว่าคงเป็นเพราะฮองเฮาที่สั่งให้พวกพี่เลี้ยงดูแลพวกเขาอย่างโหดร้าย พวกเขาสองคนพี่น้องคิดอยากจะมีชีวิตอยู่ในวังต่อไป ต้องได้รับอนุญาตจากฮองเฮา ถ้าหากฮองเฮาอารมณ์ไม่ดี ก่อนอื่นต้องหาพวกเขาสองพี่น้องมาเพื่อระบายอารมณ์”

หยวนชิงหลิงถามขึ้น“ฮ่องเต้ไม่สนใจหรือ ”

แม่นมสี่ยิ้มขม“ใครจะบังอาจกราบทูลไปถึงฮ่องเต้ หรือแม้ว่าฮ่องเต้จะรู้ มากสุดก็แค่ให้ฮองเฮาระวังหน่อย หรือจะให้โกรธฮองเฮาก็คงเป็นไปไม่ได้”

หยวนชิงหลิงคิดแล้วก็คิดว่าใช่ ฮ่องเต้เองก็คงจะสงสารที่ฮองเฮาเกือบจะถูกวางยาพิษจนตาย ขอเพียงไม่ทำเกินไป ฮ่องเต้ก็ต้องหลับตาข้างหนึ่งลืมตาข้างหนึ่ง

แล้วองค์ชายเก้ากับองค์หญิงสิบเจ็ด มีชีวิตอยู่ได้อย่างไรกัน

หลังจากหยู่เหวินเห้าออกจากจวนเจ้าพระยาจิ้ง ก็ตรงไปยังวัดฮู่กว๋อ

ก่อนฟ้าจะมืดเล็กน้อย ก็ได้ไปถึงวัดฮู่กว๋อแล้ว

เขาไม่พูดพร่ำทำเพลง ดึงตัวเจ้าอาวาสเข้าไปในกุฏิทันที

เจ้าอาวาสรู้สึกมึนงงไปหมด “ท่านอ๋อง เรื่องอะไรไยจ้องรีบร้อนขนาดนี้”

หยู่เหวินเห้าผูกม้าไว้ข้างนอกแล้วก็วิ่งตรงเข้ามา มีอาการหอบเล็กน้อย แต่ก็ไม่สนใจที่จะทำให้ลมหายใจราบรื่นขึ้น ก็รีบถามขึ้นมาทันควัน“ใต้ซือ ครั้งก่อนข้าพาพระชายามา พวกท่านเคยพูดคุยเป็นการส่วนตัว ท่านเคยบอกกับนางหรือไม่ว่า ถ้าคนคนหนึ่งก่อเตาถ่านในห้องที่เล็กแคบและปิดสนิทอาจจะเป็นพิษจนตายได้ ”

เจ้าอาวาสค่อยๆนั่งลง ขาสองข้างนั่งขัดสมาธิ พูดอย่างไม่ร้อนใจว่า “ก็เคยพูดเรื่องนี้จริง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน