บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 598

หยวนชิงหลิงมองผู้ชายที่หน้าตาน่าทึ่งที่อยู่ตรงหน้า รู้สึกจับต้นชนปลายไม่ถูก

เรียนวรยุทธ์? ทำไมนางต้องเรียนวรยุทธ์ด้วยล่ะ? ไม่ไปจากไอ้แก่ห้าก็ต้องเรียนวรยุทธ์ นี่มันตรรกะอะไรเนี่ย?

นางถามอย่างตรงไปตรงมา “ท่านชายสี่ ท่านอยากจะลงทุนมั้ย? ในรูปแบบความร่วมมือ ไม่เอาเปรียบท่าน”

สี่ตาประสานกัน รู้สึกเหมือนไก่คุยกับเป็ด คุยกันไม่รู้เรื่อง ท่านชายสี่ลุกออกจากโต๊ะอย่างโกรธจัด คิดจะสะบัดแขนเสื้อแล้วเดินจากไป

หยวนชิงหลิงรีบเรียกเขาเอาไว้ “ท่านชายสี่ ไม่ทำการค้าก็ได้ ท่านคิดอยากจะสร้างชื่อเสียงจากการบริจาคเงินมั้ย? สถานฝูโย่ว ในนี้มีเด็กกำพร้าและคนชรามากมาย กำลังเผชิญกับการขาดแคลนอาหาร ขอเพียงท่านบริจาคเงิน ข้าสามารถให้ฮ่องเต้ออกราชโองการประกาศเกียรติคุณให้ท่าน”

ท่านชายเหลิ่งกล่าวอย่างเย็นชา “ข้าไม่สนใจชื่อเสียง”

พูดจบ ก็ก้าวเท้ายาวเดินจากไป

หยวนชิงหลิงร้อนใจ ตะโกนเรียก “หากท่านบริจาคเงิน ข้าจะเรียนวรยุทธ์กับท่าน อาจารย์ เดี๋ยวก่อนอาจารย์!”

แผ่นหลังที่ดูโดดเดี่ยวแข็งทื่อไปครู่หนึ่ง แล้วค่อยๆหันกลับมามองนาง ดวงตาของเขาดูเหลือเชื่อเล็กน้อย “เรียนจริงหรือ? เจ้าทนความลำบากได้มั้ย?”

หยวนชิงหลิงเห็นความหวัง รีบวิ่งเข้าไป พยักหน้าซ้ำๆ “ทนได้ ข้าทนความลำบากได้เก่งมาก”

ท่านชายสี่มองสำรวจนางไปครู่หนึ่ง รู้สึกเสียใจกับคำพูดเมื่อกี้ “ร่างกายของเจ้าผอมมาก ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนที่จะเรียนวรยุทธ์ เจ้าไม่คิดที่จะไปจากรัชทายาทจริงหรือ? เจ้าไปคิดดูก่อนมั้ย เจ้าต้องการอะไรพูดได้เต็มที่เลย ขอเพียงไม่เกินไปก็ตกลงกันได้เลย”

หยวนชิงหลิงปฏิเสธอย่างเด็ดขาด “ไม่คิด”

ไม่ใช่ข้อเสนอไม่ดึงดูด แต่หากนางรับปากว่าจะจากไป แล้วเขาทุ่มอย่างสุดใจ ไม่เท่ากับทำร้ายเขา? ยังไงก็เป็นเศรษฐี ถ้าเพราะไอ้แก่ห้าแล้วเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น มันก็จะน่าเกลียดมาก

ท่านชายสี่เหลิ่งรู้สึกว่าเรื่องมันอยู่เหนือการควบคุมแล้ว ในใจสับสนมาก จะสอนวรยุทธ์ให้นางจริงหรือ? แต่ดูจากลักษณะของนาง เมื่อไหร่ถึงจะสามารถมาอยู่ในลำดับหนึ่งร้อย?

แต่ว่า สำนักเหลิ่งหลังจะไม่สามารถทำลายกฎได้ ตอนแรกที่ตั้งกฎนั้นก็ได้เพิ่มเข้ามาหนึ่งข้อ หากทำลายกฎ ต้องยุบสำนักเหลิ่งหลัง

เพื่อหยวนชิงหลิงแล้ว ถึงกับต้องยุบสำนักเหลิ่งหลัง มันช่างเป็นการค้าที่ขาดทุนนัก

อย่างไรก็ตาม เขาเปลี่ยนความคิดทันที มันก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธี รอให้นางเรียนไปสักเดือนสองเดือน มีพื้นฐานบ้างแล้ว ค่อยใช้เงินจำนวนมากไปซื้อนักสู้ลำดับที่หนึ่งร้อย ให้เขาแพ้ให้กับหยวนชิงหลิง แล้วนางก็จะได้อยู่ในลำดับที่หนึ่งร้อยแล้วไม่ใช่รึ?

อืม ก็ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ให้หยวนชิงหลิงไปรินชามาหนึ่งแก้ว อาจารย์ผู้ถ่ายทอดวิชา ต้องดื่มชาหนึ่งแก้วถึงจะถูกต้องตามทำนองคลองธรรม

หยวนชิงหลิงก็ไม่ลังเล รีบเข้าไปรินชาทันที ยื่นให้เขาดื่มอย่างเคารพนับถือ

หลังจากกลับไปที่ห้องแล้ว เขาพูดกับหรงเยว่อย่างภาคภูมิใจ “มีวิธีแก้ปัญหาแล้ว ข้าจะสอนวรยุทธ์ให้นางด้วยตัวเอง เจ้าไปสืบดู ตอนนี้นักสู้ลำดับหนึ่งร้อยคือใคร ราคาของเขาคือเท่าไหร่ ให้เงินแล้วซื้อลำดับนี้เอาไว้ เมื่อถึงเวลาให้เขาแพ้ให้กับหยวนชิงหลิง เรื่องนี้ก็จัดการได้แล้ว”

หรงเยว่ตกใจ “นายท่าน ท่านคิดจะวางแผนเช่นนี้หรือ?”

ท่านชายสี่เหลิ่งพยักหน้า “ใช่ น้ำชาก็ดื่มไปแล้ว เริ่มสอนพรุ่งนี้เลย”

เขาพ่นลมให้ใจอย่างสบายอารมณ์ ยกชายผ้าแล้วนั่งลง ราวกับว่าได้จัดการปัญหาที่หนักอึ้งในใจได้แล้ว “หนึ่งเดือนแม้ว่าจะสั้นก็ไม่สั้น พูดว่านานก็ไม่นาน ไม่นานก็ผ่านไป หลังจากปลิดชีวิตนางแล้ว เราก็กลับกันเถอะ”

หลังจากที่หรงเยว่ฟังแล้วก็รู้สึกเหลือเชื่อ ถามอย่างอดไม่ได้ “อย่างไรก็ตาม นายท่าน ท่านจะสอนวรยุทธ์พระชายารัชทายาท ท่านซึ่งเป็นคนสอนวรยุทธ์ งั้นท่านก็เป็นอาจารย์ของนางแล้ว ผู้ที่เป็นอาจารย์จะฆ่าลูกศิษย์ของตัวเองได้อย่างไร? นอกเสียจากว่าลูกศิษย์จะทำเรื่องที่หักหลังอาจารย์ทำให้สำนักอับอาย มิเช่นนั้นคนที่เป็นอาจารย์ต้องปกป้องลูกศิษย์ของตัวเองไปตลอดชีวิต อย่าว่าแต่ท่านจะฆ่านางด้วยตัวเองเลย แม้แต่คนอื่นคิดจะฆ่านาง ท่านก็ต้องปกป้องนาง”

ท่านชายสี่เหลิ่งไม่ใช่คนที่ใจร้อนและไม่มีเหตุผลแบบนี้ แต่หลังจากที่มาอยู่ที่จวน คนทั้งคนได้ถูกล้อมจนมึนไปแล้ว ซึ่งห่างจากสิ่งที่เขาคาดไว้อย่างมาก

ดังนั้น ถึงได้ตกอยู่ในความอึดอัดของความสับสนครั้งแล้วครั้งเล่า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน