บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 812

ฉู่หมิงหยางได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวดหัวใจแตกสลาย แทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน ร่างกายสั่นเท่าเอ่ยอย่างเศร้าเสียใจว่า “ท่านไร้หัวใจจริงๆ ทำไมท่านจึงไม่ยอมรับ ตอนที่รู้ว่าข้าตั้งครรภ์ ท่านยังบอกว่ารอให้ถึงเวลาที่เหมาะสมแล้วจะจัดงานแต่งงานให้ข้า ให้ข้าแต่งเข้าบ้านอย่างมีเกียรติ นี่ท่านหลอกลวงข้าหรือ”

หยู่เหวินเห้าอดไม่ได้ที่อยากจะบีบคอนางให้ตาย เอ่ยอย่างโมโหว่า “เจ้าพูดเหลวไหลอะไร ตอนนี้เจ้ายังเป็นสนมของพี่ใหญ่ ยังไม่มีหนังสือหย่า สถานะของพวกเจ้าก็ยังไม่ได้รับการถอดออก ”

“เรื่องหนังสือหย่านั้นง่ายมาก ”ฉู่หมิงหยางพูดด้วยเสียงร้องไห้ “ข้าจะไปหาเขา หนังสือหย่าถึงมือแล้วท่านจะแต่งงานกับข้าทันทีหรือไม่”

“ไม่ใช่ปัญหานี้ ข้านั้นไม่มีทางมีความเกี่ยวข้องใดๆกับเจ้าแน่ เจ้าหุบปาก ”หยู่เหวินเห้าตะคอกเสียงดัง ตอนที่ตระกูลฉู่สั่งให้คนมาเชิญเขาได้บอกให้รู้แค่ว่าโสวฝู่ได้ทำการสอบสวนอย่างเข้มงวดต่อฉู่หมิงหยาง ยังคิดว่าถามจนได้ความอะไรออกมาแล้ว ฉะนั้นเขาจึงเดินทางมาอย่างรีบร้อน คิดไม่ถึงว่านอกจากจะไม่มีข่าวคราวแม้แต่น้อย กลับถูกสาดโคลนจนทำแปดเปื้อนไปหมด

ฉู่หมิงหยางทั้งเสียใจและโมโหในขณะเดียวกัน ยื่นมือชี้ไปทางเขา “ท่านคิดว่าแสร้งทำตัวบริสุทธิ์ก็จะไม่มีคนรู้หรืออย่างไร พวกเรานัดเจอกันที่หอหมิงเยว่ คนในหอหมิงเยว่ต่างก็รู้ ถ้าหากท่านไม่ยอมรับ ตามพวกเขามาถามก็จะชัดเจนทุกเรื่อง”

“ตาม ไปตามเดี๋ยวนี้”หยู่เหวินเห้าไม่อยากเห็นหน้านางแม้แต่น้อยจริงๆ แต่ถ้าหากไม่ลบล้างความเข้าใจผิดนี้ โสวฝู่คงไม่พอใจแน่

เพราะสายตาที่โสวฝู่มองเขา เต็มไปด้วยความสงสัย

โสวฝู่เชิญหยู่เหวินเห้าเข้าไปในโถงใหญ่ ปิดประตูลง แม้แต่ฉู่หมิงหยางก็ถูกกีดกันไว้ด้านนอก

หยู่เหวินเห้านั่งลงด้วยความโมโห “ท่านโสวฝู่ ข้าขอพูดอีกครั้ง ข้าไม่เคยแตะต้องนางแม้แต่ปลายนิ้ว”

โสวฝู่นั่งอยู่ข้างโต๊ะ เพิ่มถ่านเข้าไปในเตาเผาที่ใช้ต้มน้ำชาหนึ่งก้อน จากนั้นทั้งสองมือก็ซุกเข้าไปในแขนเสื้อ หรี่ตาลงเผยให้เห็นแค่ดวงตาที่เป็นเส้นตรงเล็กๆ พูดเสียงเรียบว่า “ก่อนใช้การลงโทษ ข้าได้ให้นางกินยาบังคับให้สารภาพขององครักษ์ลับผี ยาชนิดนี้ไม่มีผลต่อสำหรับคนที่มีพลังภายในสูงส่ง แต่สำหรับหญิงอ่อนแออย่างนาง เห็นผลได้อย่างชัดเจน รัชทายาทน่าจะรู้ประสิทธิภาพของยาบังคับให้สารภาพชนิดนี้ดี”

หยู่เหวินเห้าสูดลมหายใจเข้าหนึ่งเฮือก “ฉะนั้น โสวฝู่เชื่อนางหรือ”

สายตาของโสวฝู่จ้องมองเขาเขม็ง “พระองค์เคยไปที่หอหมิงเยว่หรือไม่ ”

“ตั้งแต่แต่งงานแล้วก็ไม่เคยไปอีกเลย แพง”หยู่เหวินเห้าพูดด้วยสีหน้าเย็นชา

หอหมิงเยว่เป็นสถานที่ที่หรูหราและราคาแพงที่สุดในเมืองหลวง เท่ากับเป็นศูนย์กลางแห่งการพักผ่อนหย่อนใจ เป็นแหล่งรวมที่กินดื่มและหาความสุขในสถานที่เดียว การหาความสำราญหนึ่งวัน รวมทั้งการกินอยู่ในหอนั้นต้องใช้เงินจำนวนสิบห้าตำลึง

“เช่นนั้นพระองค์คิดว่า ต้องการให้ไปเชิญคนมาถามหรือ”โสวฝู่ฉู่จ้องเขาพลางถามขึ้น

“ถามซิ ทำไมจะไม่ถาม ไม่ถามแล้วจะคืนความบริสุทธิ์ให้ข้าได้อย่างไร ”หยู่เหวินเห้าพูดอย่างโกรธเคือง

โสวฝู่ลุกขึ้น เดินออกไปสั่งการด้วยตนเอง ต้องพาคนมาสอบถามอย่างไม่เป็นที่สะดุดตา

คนของหอหมิงเยว่มากันสองคน การดูแลต้อนรับแขกของหอหมิงเยว่ ล้วนเป็นการบริการสามต่อหนึ่ง มีสองคนคอยปรนนิบัติในการจัดเตรียมสิ่งต่างๆโดยเฉพาะ ยังมีหญิงรับใช้อีกคนที่คอยปรนนิบัติอยู่ด้านใน

ตามที่ฉู่หมิงหยางพูดมา ทุกครั้งที่ไปจะไปยังห้องรับรองอะไร มีคนอะไรคอยปรนนิบัติ ล้วนชัดเจนยิ่งนัก หยู่เหวินเห้าก็เคยให้เงินทองเพื่อปิดปาก ไม่ให้แพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปข้างนอก

ทั้งสองคนนั้นถูกปิดตาเอาไว้เมื่อพาเข้ามา หลังจากเข้าไปยังห้องโถงใหญ่แล้ว ฉู่หมิงหยางก็ถูกพาเข้ามาด้วย

โสวฝู่ชี้ไปที่ฉู่หมิงหยางถามทั้งสองคนนั้นว่า “รู้จักนางหรือไม่ ”

ทั้งสองคนนั้นต่างก็พยักหน้า “เรียนนายท่าน รู้จัก”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน