บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 8

บทที่ 8 ละครเล่นใหญ่lสมจริง

เช้าวันถัดมา ตามกำหนดเวลาที่นัดหมาย เมื่อถึงรุ่งเช้ากู้อ้าวเวยนำชิงต้ายและหยินเชี่ยวรอซ่านจินจื๋อที่ประตูรอง คิดไม่ถึงว่านั่งรออยู่ค่อนเช้าก็ยังไม่เห็นเงาซ่านจินจื๋อ เห็นว่าใกล้ตะวันโด่งฟ้าแล้ว ในที่สุดกู้อ้าวเวยก็เก็บอาการไว้ไม่อยู่ เดิมหลายวันก่อนก็ได้รับบาดเจ็บหนักปานนั้น ร่างกายอ่อนแอ ยืนตากทางลมอยู่เป็นเวลานานขนาดนี้ กู้อ้าวเวยรู้สึกได้ว่าร่างกายตนใกล้จะล้มเต็มที ชิงต้ายที่กำลังทำตามคำสั่งกู้อ้าวเวยไปเร่งรัดซ่านจินจื๋อ อีกด้านกู้อ้าวเวยำด้แต่สั่งหยินเชี่ยวไปนำยาเม็ดที่เตรียมไว้เมื่อวานนี้มาให้ตน

ก่อนที่หยินเชียวจะไป ชิงต้ายหอบใบหน้าโกรธแค้นพลางหายใจหอบกลับมา บนใบหน้าทั้งสองข้างยังมีรอยฝ่ามือปูดบวม ทันทีที่เอ่ยปากก็ร้องไห้สะอึกสะอื้น “คุณหนูเจ้าคะ ท่านอ๋องรังแกคนเกินไปแล้ว บ่าวก็แค่เรียกเร่งรัดอยู่ด้านนอกเรือน ท่านอ๋องก็เกิดโทสะเดือดดาลเสียใหญ่โต แล้วยังตบหน้าบ่าวอีกสองฉาด คาดไม่ถึงว่าวันนี้ยังจะพาซูพ่านเอ๋อร์กลับบ้านตระกูลด้วยกันนี่มันเกินความเหมาะสมไปแล้วนะเจ้าคะ มีอย่างที่ไหนอนุภรรยาติดตามพระชายากลับบ้านตามธรรมเนียม!”

กู้อ้าวเวยเมื่อได้ฟัง เพลิงโทสะไม่รู้จากที่ใดแล่นเข้ากลางอก ยกมือขึ้นลูบหน้าผากซวนเซไปหลายก้าว ชิงต้ายรีบรุดเข้าไปประคองกู้อ้าวเวย มองด้วยความกังวลใจ

รังแกคนกันเกินไปแล้ว! กู้อ้าวเวยสาวเท้าจะก้าวเข้าไปในเรือนของซูพ่านเอ๋อร์ นางคิดจะถามซ่านจินจื๋อ ชิงต้ายทำผิดอะไร แค่กวักเรียกเขาก็ลงมือรุนแรง ใคร่จะถามสักหน่อยว่าเมื่อคืนตกลงกันอย่างไร ใช่ยังต้องการสมบัติตระกูลหยุนที่เขาเฝ้าฝันถึงตลอดเวลาหรือไม่?

กู้อ้าวเวยยังไม่ทันเดินมาถึงเรือนซูพ่านเอ๋อร์ ก็เห็นจากที่ไม่ไกลว่าซ่านจินจื๋อกำลังประคองซูพ่านเอ๋อร์เดินมาอย่างเยื้องยาตร เมื่อประจันหน้า ซ่านจินจื๋อเหลือบมองกู้อ้าวเวยด้วยความเย็นชา กล่าววาจาชั่วร้าย “เห็นว่าพ่านเอ๋อร์แก้ตัวให้กับเจ้า วันนี้ข้าจะไม่ถือสาหาความ หากมีครั้งหน้ารบกวนการพักผ่อนของพ่านเอ๋อร์ เจ้ากักสาวใช้ของตนไว้แล้วโบยเสีย!”

กู้อ้าวเวยหยุดเท้ายืนนิ่ง สองมือรวบกำหมดแน่นเพื่อกำราบตนเองไม่ให้สั่นเทาจากความโกรธ ไต่ถามซ่านจินจื๋อด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว “ท่านอ๋องไม่พูดเรื่องนี้ก็แล้วไป แต่ในเมื่อท่านอ๋องเป็นฝ่ายกล่าวอ้างขึ้นมาก่อน ข้าใคร่ถามว่าชิงต้ายฝ่าฝืนกฎข้อใดของจวน จึงทำให้ท่านอ๋องเกิดโทสะลงมือลงโทษด้วยตนเองเช่นนี้?”

ซ่านจินจื๋อคล้ายได้ยินเรื่องขบขัน แววตาที่มองกู้อ้าวเวยเพิ่มความเยาะเย้ยหลายส่วน “กู้อ้าวเวย สมองเจ้ามีปัญหาหรือ? ข้าเพิ่งบอกอย่างชัดเจน นางรบกวนการพักผ่อนของซูพ่านเอ๋อร์ ข้าสนองตอบนางไปสองฉาดนับว่าสถานเบาแล้ว หากเจ้าอยากกลับบ้านก็อย่าพูดไร้สาระ ถ้าไม่อยากกลับก็พูดมาโดยเร็ว พ่านเอ๋อร์ไม่ได้พักผ่อนให้ดี ร่างกายอ่อนแอ ภายใต้แสงตะวันร้อนๆ ออกมาตากแดดแล้วเกิดเป็นอะไรขึ้นมา ถึงเจ้ามีสิบชีวิตก็ไม่พอชดใช้!”

ซูพ่านเอ๋อร์โอนไปเอนมาสมจริงราวกับให้ความร่วมมือ ซ่านจินจื๋อกังวลขึ้นมาในทันที ยามเอ่ยกล่าวกับกู้อ้าวเวยน้ำเสียงแฝงด้วยเพลิงโทสะอันน่ากลัว “ยังไม่รีบหลีกไปอีก! หากไม่ใช่เพราะอาการป่วยของพ่านเอ๋อร์ เจ้าคิดว่าเจ้ามีคุณสมบัติอะไรที่สามารถมายืนสนทนากับข้าได้?”

กล่าวจบ ก็มุ่งนำซูพ่านเอ๋อร์ไปขึ้นรถม้าที่นอกประตู

“พี่จื๋อ….” ซูพ่านเอ๋อร์ยืนอยู่ที่เดิมรั้งซ่านจินจื๋อเอาไว้ พลันคำนับแก่กู้อ้าวเวย “พี่หญิงกู้สบาย ตั้งแต่ที่พี่หญิงกู้เข้ามา พ่านเอ๋อร์อยากไปคารวะอยู่ตลอด จนใจที่พ่านเอ๋อร์สุขภาพไม่สู้ ท่านอ๋องไม่อนุญาตพ่านเอ๋อร์เดินเหินมาก วันนี้ได้พบพี่หญิง พ่านเอ๋อร์จึงต้องการขอบคุณ หากไม่ใช่เพราะพี่หญิงอุทิศตนช่วยเหลือ พ่านเอ๋อร์เกรงว่าคงจะไม่มีวันนี้”

ซ่านจินจื๋อรีบประคองซูพ่านเอ๋อร์ให้เงยขึ้นมา ในประกายตาที่มองไปยังซูพ่านเอ๋อร์ นอกจากความสงสารแล้วยังมีความชื่นชมเพิ่มหลายส่วน ขณะที่หันกลับไปมองกู้อ้าวเวยกลับแปรเป็นใบหน้ารังเกียจ ในใจของเขาสตรีสองนางในยามนี้สูงต่ำอย่างเห็นได้ชัด หนึ่งคือเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็กบุคลิกรู้ว่าอะไรควรไม่ควร อีกหนึ่งเป็นนางแพศยาที่ไม่รู้จักละอายอากัปกิริยาหยาบคาย ความรู้สึกผิดที่ซ่านจินจื๋อมีต่อซูพ่านเอ๋อร์ยิ่งทวีความลึกล้ำ ไม่นึกเลยว่าได้ให้คนเช่นนั้นครอบครองตำแหน่งที่เดิมควรเป็นของซูพ่านเอ๋อร์

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์