จอมนักรบท้าโลก นิยาย บท 36

บทที่ 36 มาชนแก้ว!

เวลาสองทุ่ม ณ ห้องวีไอพีหมายเลข 6 ในร้านอาหารหว่านฉิง

ฉางจ้ายชูนจองโต๊ะอาหารไว้หนึ่งโต๊ะ พร้อมนัดเพื่อนร่วมงานเจ็ดแปดคนในแผนกมานั่งล้อมวงกัน และลักษณะพิเศษของทุกคนคือชายอ้วนลงพุง

เขาให้พนักงานจัดเตรียมเหล้าขาวไว้หนึ่งลัง เบียร์ห้าลัง และไวน์อีกหนึ่งขวดใหญ่

อาหารบนโต๊ะก็ล้วนมันเลี่ยนอย่างมาก ทานเข้าไปเพียงทำให้ง่วงงุน ไม่ได้จัดเตรียมอาหารสร่างเมาไว้แม้แต่จานเดียว

ฉางจ้ายชูนกล่าวยิ้มๆ ว่า “วันนี้ยังคงกฎเดิม รอให้อีหนูนั้นมาถึง มอมเหล้าให้หนัก หลังดื่มจนเมาช่วยฉันนำตัวขึ้นรถ ไปส่งที่โรงแรม”

ไอ้แว่นคนหนึ่งกล่าวยิ้มๆ ขึ้นอย่างชั่วร้ายว่า “พี่ชูน ผมเปิดห้องที่โรงแรมไว้ให้พี่แล้วครับ ไปถึงเข้าพักได้เลย อีกทั้งผมยังเตรียมอุปกรณ์พิเศษเล็กน้อยไว้ให้พี่ด้วย รับรองว่าคืนนี้พี่ได้เล่นสนุกหลายรูปแบบแน่”

ฉางจ้ายชูนหัวเราะ “ยังเป็นนายที่เข้าใจฉันที่สุด”

ไอ้แว่นกล่าวขึ้นว่า “แต่พี่ชูนครับ ครั้งนี้ผมขอเสนอบางอย่างได้หรือเปล่า?”

“พูดมา”

“ผู้หญิงในครั้งนี้คือติงเมิ่งเหยน คุณหนูสามแห่งตระกูลติงสาวงามอันดับหนึ่งของเมือง รูปร่างหน้าตานั้นถือได้ว่างามล่มเมืองจริงๆ ดูดีอย่างยิ่ง และพวกเราทุกคนต่างไม่เคยได้สนุกกับผู้หญิงชั้นยอดแบบนี้มาก่อน พี่ชูน คืนนี้หลังพี่ได้เล่นสนุกจบแล้ว ให้พวกเราเหล่าพี่น้องลิ้มลองความสดใหม่ได้หรือไม่ พี่ทานเนื้อ พวกเราก็อยากทานซุปด้วย”

ฉางจ้ายชูนรู้สึกสนุกขึ้นมา “แกคิดได้ไม่เลวทีเดียว ได้ ฉันตกลง คืนนี้พวกเราทุกคน ล้วนจะได้ชื่นชมความงดงามของสาวงามอันดับหนึ่งแห่งเจียงหนาน”

“ว้าว ขอบคุณพี่ชูนมากๆ เลยครับ!”

“พี่ชูนเป็นคนดีจริงๆ!”

ทุกคนพูดประจบฉางจ้ายชูนไม่หยุด ภายในสายตาของทุกคนต่างเปล่งประกายความชั่วร้ายออกมา

โดยเฉพาะฉางจ้ายชูน เพียงเขานึกถึงใบหน้างดงามและรูปร่างเย้ายวนอ่อนเยาว์ของติงเมิ่งเหยน อดกลืนน้ำลายไม่ได้ แทบอยากจะรีบโอบตัวสาวงามไว้ในอ้อมกอด

แต่มีบางคนกล่าวขึ้นอย่างกังวล “แต่พี่ชูน ได้ยินมาว่าติงเมิ่งเหยนคนนี้เป็นสาวงามไร้ความรู้สึก ไม่ควรตอแย และตระกูลติงของพวกเขาไม่ใช่สนิทสนมกับตระกูลฉางของพี่เหรอ และคล้ายยังร่วมมือกันทำธุรกิจหลายอย่าง หากเกิดเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา เกรงว่าเรื่องจะไม่จบลงง่ายๆ”

“ต้องกลัวอะไร” ฉางจ้ายชูนแค่นเสียงฮึอย่างเย็นชา “ธุรกิจของตระกูลติงซบเซามาหลายปี จนแทบจะไม่ได้เป็นตระกูลใหญ่เก่าแก่ระดับสองอีกต่อไปแล้ว จะสามารถเปรียบเทียบกับตระกูลฉางของพวกเราได้ยังไง?”

“อีกอย่าง ผู้หญิงคนนี้ ความจริงน่าสะอิดสะเอียนมาก ปกติเธออาจแกล้งทำตัวสูงส่ง แต่ยามอยู่สองต่อสองไม่รู้ต้องการสักเพียงใด”

“คืนนี้หลังฉันจัดการเธอแล้ว ไม่แน่ว่าเธออาจจะร้องขอให้ทำต่ออีกครั้งก็ได้ พวกแกจำผู้หญิงคนนั้นครั้งก่อนได้อยู่ไหม เป็นเหมือนกัน ตอนแรกเอาแต่พูดว่าไม่เอาๆ หลังฉันเสร็จ ตอนนี้วันๆ เอาแต่เรียกฉันว่าสามีร้องขอให้ฉันทำ น่าขยะแขยงสิ้นดี”

ทุกคนต่างสบตากัน ก่อนเผยยิ้มชั่วร้ายออกมา

พวกเขาคล้ายจินตนาการถึงการอ้อนวอนอย่างไม่รู้จบของติงเมิ่งเหยน กระทั่งตื่นเต้นจนร่างกายร้อนผ่าวขึ้นมา ก่อนดื่มน้ำเพื่อควบคุมความตื่นเต้นในใจไว้ไม่หยุด

ผ่านไปไม่นาน พนักงานผลักประตูเปิดออกพลางกล่าวขึ้น “เชิญด้านในค่ะ”

คนที่อยู่ด้านในมองไปที่ประตูอย่างพร้อมเพรียงกัน ทุกคนท่าทางราวสุนัขป่าราวเสือ พวกเขาต่างรู้ว่าเป้าหมายในคืนนี้มาถึงแล้ว!

จริงดังที่คิด ติงเมิ่งเหยนเดินเข้ามาในห้องวีไอพีแล้ว

เธอเวลานี้แต่งตัวเช่นเดียวกับตอนกลางวัน แต่เพราะมุมแสงของไฟในยามค่ำคืน ขับเน้นความงดงามเซ็กซี่ที่แทบเป็นที่รู้กันอยู่แล้วนั้นออกมาเพิ่มขึ้น คนทั่วโต๊ะจึงต่างมองอย่างน้ำลายไหล

ขณะที่ทุกคนต่างดีอกดีใจ จู่ๆ มีชายผู้หนึ่งเดินตามติงเมิ่งเหยนเข้ามา

เป็นเจียงชื่อ

ไอ้แว่นกระซิบเสียงเบา “พี่ชูน นี่มันเรื่องอะไรกัน?”

ฉางจ้ายชูนกล่าวอย่างเย็นชา “มารดามันเถอะ ยังกล้าพาผู้ชายมาด้วย คิดว่านี้จะสามารถรับมือฉันได้หรือ คิดเยอะเกินไปแล้ว!”

เขากระซิบข้างใบหูไอ้แว่นว่า “ไม่ต้องสนใจ ดำเนินการตามแผนเดิม จัดการมอมเหล้าชายคนนี้ด้วยกันซะ จากนั้นฉันจะเชยชมติงเมิ่งเหยนต่อหน้ามัน คงสนุกมากขึ้นแน่”

ไอ้แว่นยิ้มไม่หุบ เขาไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นขนาดนี้มาก่อน

ทุกคนยืนขึ้นเพื่อต้อนรับติงเมิ่งเหยน

ฉางจ้ายชูนกล่าวพลางผายมือไปที่เก้าอี้ว่างตัวหนึ่ง “เมิ่งเหยน นี้คือเก้าอี้ที่เตรียมไว้ให้คุณ เชิญนั่ง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบท้าโลก