จอมนักรบทรงเกียรติยศ นิยาย บท 555

การแต่งงานจำต้องคำนับฟ้าดิน การคำนับฟ้าดินนั้นจำต้องกราบไหว้บรรพบุรุษ นี่เป็นธรรมเนียมของประเทศหวาที่ปฏิบัติสืบทอดกันมา ในฐานะที่เป็นตระกูลใหญ่ดั้งเดิม แน่นอนว่างานแต่งงานคงไม่สามารถใช้วิธีการจัดงานแบบตะวันตกได้ หรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ตระกูลใหญ่โตของประเทศหวาโดยแท้จริงไม่ได้เห็นงานแต่งงานแบบตะวันตกอยู่ในสายตา ดังนั้นงานแต่งงานรูปแบบตะวันตกในปัจจุบัน จะมีเพียงผู้ที่โง่เขลาและน่าเบื่อหน่ายเท่านั้นที่จะจัดขึ้น

ขณะที่ทั้งสองคนยืนอยู่บนห้องโถงใหญ่ ข้างกายมีชายวัยกลางคนที่สวมชุดสีแดงอ่อนยืนอยู่ ชายวัยกลางคนเอ่ยกับทั้งสองคนว่า “ลำดับต่อไปจะเป็นลำดับพิธีของเจ้าบ่าวเจ้าสาว คำนับฟ้าดินก่อน จากนั้นก็คำนับผู้นำตระกูล และคำนับพ่อแม่ คำนับผู้ที่มาเป็นสักขีพยานทุกท่าน หลังจากที่คำนับเสร็จแล้ว ก็จะเป็นสามีภรรยาคำนับต่อกัน จากนั้นจึงจะส่งเข้าห้องหอได้”

“กระผมขอเสนอ! ตอนที่คำนับสักขีพยาน พวกเราส่งตัวแทนสักขีพยานมาหนึ่งท่านก็พอแล้ว ถ้าให้คู่บ่าวสาวคำนับหลายคนแบบนั้น คงจะคำนับจนเข่าอ่อนกันเป็นแน่ ขอตัวแทนสักขีพยานมาหนึ่งท่าน พวกเราพอใจแล้ว”

“อืม ถูกต้อง ผมก็เห็นด้วยกับข้อเสนอนี้! พวกเราเลือกผู้ที่มีคุณธรรมบารมีสูงส่งออกมาหนึ่งท่าน ที่จะสามารถเป็นตัวแทนของพวกเราในการเป็นสักขีพยานก็พอแล้ว ข้อกำหนดโบราณนั้นจะขาดไม่ได้ การมีบุคคลตัวแทนออกมาได้ ก็ถือว่าเป็นตัวแทนของพวกเราทั้งหมดทุกคนแล้ว”

“ตามความเห็นของผม ทำไมไม่ให้คู่บ่าวสาวคำนับจอมพลโผ้จวินเสียเลยล่ะ จอมพลเป็นถึงสมบัติแห่งเมืองของประเทศหวา เป็นเทพแห่งสงครามของยุค เป็นผู้นำในการปกป้องประเทศหวา แถมยังเป็นแบบอย่างของผมและคนรุ่นหลัง หากได้จอมพลโผ้จวินมาเป็นสักขีพยานในงานแต่ง ต้องเป็นความรุ่งโรจน์ของคู่บ่าวสาวเป็นแน่ ผมคิดว่าปีหน้าจะต้องมีทายาทสืบสกุล ตระกูลโจวต้องมีอำนาจเกรียงไกรยิ่งขึ้นแน่นอน”

ประสบสอพลอ นี่เป็นการประจบสอพลออย่างเดียว ทว่าหากสามารถประจบสอพลอบุคคลเช่นนี้ได้ ผู้ใดไม่ยินยอมที่จะประจบเล่า? บุคคลเช่นนี้ แค่คนธรรมดาจะมีโอกาสได้ประจบเช่นนั้นหรือ? นั่นจำต้องดูว่ามีความสามารถนี้หรือไม่

มีคนอีกกี่คนที่เข้าแถวต้องการที่จะประจบบุคคลที่มีอำนาจเช่นนี้ ทว่าเนื่องจากไม่มีความสามารถนั้นส่งผลให้ประจบไม่ได้ ดังนั้น หากจะสามารถประจบเขาได้จำต้องมีความสามารถเท่านั้น

สักขีพยานของงานแต่งที่ว่านั้น อันที่จริงก็คือพิธีการดั้งเดิมของตระกูลใหญ่ เนื่องจากผู้ที่สามารถมาเข้าร่วมงานแต่งงานของตระกูลใหญ่เช่นนี้ได้ล้วนแล้วแต่มีสถานะที่ไม่ธรรมดา ดังนั้นคู่บ่าวสาวก็จำต้องไปคำนับเป็นรายบุคคล การคำนับเช่นนี้ไม่ใช่การดื่มเหล้าเคารพแต่อย่างใด ครั้นเป็นการให้คนผู้นั้นเป็นสักขีพยาน กล่าวคำอวยพรให้ หรือพูดอีกอย่างคือการขอความเป็นสิริมงคล คำอวยพร

ตระกูลใหญ่อย่างตระกูลโจวนั้นไม่จำเป็นต้องไปประจบสอพลอผู้ใด ในทางกลับกันตระกูลใหญ่อย่างตระกูลโจวจะมีผู้คนมากมายที่มางานมาประจบเสียมากกว่า พวกเขาแต่งงาน ก็แน่นอนว่าจำต้องมีคนเสนอข้อแนะนำเช่นนี้ขึ้นมา นั่นคือการส่งตัวแทนที่มีคุณธรรมบารมีสูงส่ง ซึ่งจะเป็นตัวแทนที่มีคุณธรรมและความสามารถก็พอแล้ว ก่อนหน้าที่จอมพลโผ้จวินยังไม่มา ผู้ที่มีคุณสมบัติมากที่สุดก็คือหยางจิ่งเซียน หนึ่งเนื่องจากตระกูลของเขา สองเนื่องจากเขาเป็นคนที่เชิดหน้าชูตาของดินแดนตะวันตก แน่นอนว่าหลังจากที่จอมพลโผ้จวินแห่งตระกูลหวาผู้นี้มาแล้วนั้น ก็จำต้องเป็นนายพลโผ้จวินท่านนี้มาเป็นสักขีพยานเท่านั้นแล้ว

เมื่อได้ยินถึงตรงนี้ ก็ตรงกับความคิดของโจวปินคางเป็นอย่างยิ่ง เขาเคลื่อนสายตามายังชายหนุ่มผู้นั้น เอ่ยถามว่า “ผมเข้าใจความหมายของทุกท่านดี ก็แค่ไม่ทราบว่าท่านจอมพลโผ้จวินคิดเห็นอย่างไร?”

ชายหนุ่มผู้นั้นมองโจวปินคางด้วยสายตาที่สงบนิ่งแวบหนึ่ง จากนั้นก็กวาดสายตามองไปยังทุกท่านที่อยู่ ณ สถานที่จัดงานหนึ่งรอบ สุดท้ายเขาจึงเอ่ยกับโจวปินคางว่า “ในเมื่อทุกท่านคิดเห็นเช่นนี้ เช่นนั้นผมก็จะไม่ปฏิเสธ”

ไม่มีความเกรงใจ และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเกรงใจ ตามสถานะและตำแหน่งของเขา ไม่มีทางที่จะเกรงใจผู้ใด

โจวชื่อเจี๋ยยิ้มพร้อมเอ่ยว่า “เช่นนั้นก็ต้องขอบคุณจอมพลโผ้จวินด้วย นี่นับเป็นความโชคดีของลูกชายและลูกสะใภ้ของกระผม ยังไม่รีบขอบคุณโผ้จวินอีก!”

โจวเจิ้งรีบโค้งคำนับให้กับชายหนุ่มทันที เอ่ยว่า “ขอบคุณจอมพลโผ้จวิน!”

ชายหนุ่มยิ้มเพียงเท่านั้น ไม่ได้เอ่ยอันใด สรุปการกระทำทุกประการของเขาล้วนแต่มีท่าทางของจอมพล

หลังจากที่ทุกคนตกลงกันแล้ว พิธีการของงานแต่งก็เริ่มต้นขึ้น ผู้ดำเนินพิธีเอ่ยเสียงดังกับคู่บ่าวสาว “คำนับฟ้าดิน!”

แววตาของโจวเจิ้งมีความตื่นเต้นผุดขึ้นมา เขาไม่ได้พบว่าฟางเหยียนก็อยู่ในงานด้วย หลังจากที่เดินเข้ามา สายตาของเขาก็จับจ้องอยู่บนชายหนุ่มผู้นั้นโดยตลอด ดังนั้นจึงไม่ได้พบว่าแถวที่สองนั้นมีฟางเหยียนนั่งอยู่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ