ฟางเหยียนยืนขึ้นจากเก้าอี้ด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ หยางซงที่นั่งอยู่ข้างๆ มีสีหน้ากระวนกระวาย รีบดึงมือของฟางเหยียนเอาไว้ทันที พร้อมเอ่ยเสียงเบา “น้องฟาง เมื่อกี้พี่บอกน้องว่ายังไง ลืมแล้วเหรอ? อย่าเก็บอารมณ์ไม่อยู่เร็วขนาดนี้สิ ที่นี่คือตระกูลโจวเชียวนะ”
ฟางเหยียนไม่สนใจคำพูดของหยางซงแม้แต่น้อย เขายืนขึ้นมาพร้อมเอ่ยเสียงดัง “สิ่งที่ตระกูลโจวของพวกคุณทำ ก็มีสิทธิ์บอกว่าตนเองเป็นตระกูลยิ่งใหญ่อันดับหนึ่งในดินแดนตะวันตกเหรอ? บังคับให้คนอื่นแต่งงาน ถือว่าเป็นอะไรกัน?”
ขณะที่พูดอยู่นั้น ดวงตาของฟางเหยียนก็ประสานตากับโจวปินคาง ณ ที่นี้ มีเพียงโจวปินคางเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ในการฝืนทนยอมรับการประสานตากับเขา โจวเจิ้ง เป็นเพียงคนไร้น้ำยา ไม่มีทางอยู่ในสายตาตนได้เลย ขณะที่จ้องตาโจวปินคาง สายตาคู่นั้นของเขาเฉียบคมมีชีวิตชีวา ไม่มีความเกรงกลัวต่อพลังคุกคามของฝ่ายตรงข้ามเลยแม้แต่น้อย เดิมทีทุกคนยังไม่มั่นใจว่าคำพูดนี้เขาเป็นผู้เอ่ยขึ้นมา เมื่อเขาเอ่ยครั้งที่สอง ทุกคนต่างก็ทราบว่าคำพูดนั้นเขาเป็นผู้พูด ทุกคนจึงอดไม่ได้ที่จะเริ่มถกเถียงกันขึ้นมา
“นี่มัน นี่ เจ้าหมอนี่มากับหยางกงงั้นเหรอ?”
“ใช่น่ะสิ นั่งข้างหลังหยางกง ถ้าไม่มากับหยางกงแล้วจะมากับใครได้”
“ดูจากท่าทางของเขา ฟังสำเนียงของเขา น่าจะไม่ใช่คนพื้นที่ของดินแดนตะวันตกเรา ต้องเป็นคนที่มาจากต่างแดนแน่นอน หรือว่าจะมายุ่งเรื่องของตระกูลโจวงั้นเหรอ? เขาไม่กลัวตายหรือมารนหาที่ตายกันแน่!”
“ฉันว่าเขาน่าจะใช้ชีวิตจนเบื่อแล้วมั้ง!”
“พวกคุณจะไปรู้อะไร ฉันได้ยินมาว่าหลายวันก่อน นายน้อยตระกูลโจวมีเหตุทะเลาะวิวาทที่โรงแรมของตระกูลหยาง ว่ากันว่าคู่หมั้นของเขาถูกคนจับไปเปิดห้องที่โรงแรม เขาต้องการที่จะไปฆ่าคนผู้นั้น ต่อมาคุณชายเจ็ดตระกูลหยางเป็นคนเข้าไปห้ามไว้ ไม่อย่างนั้นคืนนั้นอาจจะเกิดคดีฆาตกรรมฆ่าคนขึ้นที่ดินแดนตะวันตกก็เป็นได้ ถ้าฉันเดาไม่ผิดนะ เจ้าหมอนี่ก็คือคนที่พาคู่หมั้นของนายน้อยตระกูลโจวไปเปิดห้องนั่นแหละ”
“แสดงว่า เจ้าหมอนี่บุกเข้ามาในตระกูลโจวเพื่อเรื่องรักใคร่งั้นเหรอ?”
“ก็ใช่น่ะสิ วัยรุ่นสมัยนี้จะไปเข้าใจอะไร ก็แค่ความใจร้อนในใจของตัวเองแค่นั้น พวกเขาไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำด้วยซ้ำไป คราวนี้ ตระกูลโจวมีเรื่องสนุกๆ ให้ดูแล้วสิ”
หลายคนมีท่าทีที่อยากยุ่งเรื่องชาวบ้านโดยไม่คิดที่จะช่วยเหลือ นี่ถือเป็นความคิดส่วนใหญ่ของผู้คน
ขณะที่โจวเจิ้งมองเห็นใบหน้าของฟางเหยียน แก้มจึงกระตุกอย่างแรง เขาเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจว่า “นายเองเหรอ?”
เขาไม่แม้แต่จะคิดจะฝันว่าฟางเหยียนจะกล้าบุกรุกเข้ามาในตระกูลโจวของพวกเขา การที่เขามาเยือนดินแดนตะวันตกก็ถือว่าเป็นการต่อยหน้าตระกูลโจวอย่างแรงแล้ว บัดนี้มาเยือนถึงตระกูลโจว นี่ถือว่าเป็นการแทงมีดใส่ตระกูลโจวอย่างแรง แถมยังต้องการที่จะเดินเหยียบย่ำตระกูลโจวอีก
อวดดี เขาอวดดีเกินไปแล้ว อวดดีเกินกว่าที่ตนจะจินตนาการ
โจวเจิ้งกัดฟันกรอด ยกมือขึ้นมาชี้หน้าฟางเหยียน เอ่ยว่า “พ่อ มันนั่นเอง ไอ้หมอนี่แหละ มันนี่แหละนายน้อยของชิงชิง”
หวังชิงชิงได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็เต้นระรัว เขาเองหรือ นายน้อยเองหรือ? นายน้อยมาแล้วจริงๆ หรือ? หวังชิงชิงไม่เคยคิดถึงฉากที่นายน้อยมาเยือนเลยแม้แต่น้อย เมื่อสักครู่นี้เองเธอเพิ่งจะจินตนาการถึงภาพว่านายน้อยมาที่นี่และพาตัวเธอไป
ทว่าไม่คาดคิดว่าภาพจินตนาการของตนเองจะกลายเป็นจริงขึ้นมาได้ นายน้อยมาที่ตระกูลโจวเพื่อเธอ แถมยังเอ่ยเช่นนี้ขึ้นมาที่นี่อีกด้วย เธอกลืนน้ำลายลงอึกใหญ่ กำลังที่จะเปิดผ้าคลุมหน้าตะโกนเรียกนายน้อย ทว่าเมื่อคิดที่จะเอ่ยขึ้นมาเธอก็ต้องกลืนกลับลงไป หากตอนนี้เธอตะโกนว่านายน้อยขึ้นมา เปิดผ้าคลุมศีรษะออก แล้วนายน้อยเห็นรอยแผลที่อยู่บนใบหน้าเธอเข้า จะต้องก่อเรื่องที่ตระกูลโจวโดยไม่ลังเลเป็นแน่
แม้ว่านายน้อยจะแข็งแกร่งมากก็จริง ทว่าที่นี่อย่างไรก็เป็นบ้านตระกูลโจว หากนายน้อยก่อเรื่องวุ่นวายที่บ้านตระกูลโจวขึ้นมา จำต้องหนีรอดออกไปไม่ได้เป็นแน่ ไม่ เธอจะทำร้ายนายน้อยไม่ได้ เธอจำต้องอดทนไว้ อดทน จะต้องอดทน
เมื่อเทียบกับตะโกนบอกให้นายน้อยทำร้ายเขา ไม่สู้รอดูก่อนว่าสถานการณ์เป็นเช่นไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ