จอมนักรบทรงเกียรติยศ นิยาย บท 637

เธอคือน้าสาวของฟางเหมี่ยว และเป็นน้าสาวของฟางเหยียนด้วยเช่นกัน เธอเห็นสองพี่น้องคู่นี้เป็นเหมือนลูกแท้ๆ ของตนเองไปแล้ว ทว่าฟางเหยียนกลับไม่ใช่ เขาเป็นความภาคภูมิใจของประเทศหวา แถมยังเป็นเทพองครักษ์ของประเทศหวาอีกด้วย เขากลายเป็นเทพแห่งสงครามที่ผู้คนนับหมื่นให้ความเคารพศรัทธา ไม่รู้ว่าเขาต้องแลกด้วยเลือดไปเท่าไร

“คุณน้า ฟางเหมี่ยวจะต้องไม่เป็นอะไร ไม่เป็นอะไร ใช่ไหม?” ตงฟางหยุนเอ๋อร์เอ่ยจบ แม้แต่ตนเองก็ยังไม่ค่อยเชื่อเท่าไร

ฟางไห่อิงปาดคราบน้ำตาออกให้เธอ พร้อมฉีกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย “หยุนเอ๋อร์ ไม่เป็นอะไรหรอก ตอนเด็กๆ ฟางเหมี่ยวดื้อมากเลยนะ ชอบพาฟางเหยียนออกไปมีเรื่องชกต่อยบ่อยครั้ง เด็กซนสองคนก็จะกลับมาพร้อมบาดแผล เลือดตกยางออกทุกครั้งเลย ผ่านไปไม่กี่วันก็กลับมาแข็งแรงมีชีวิตชีวาแล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งที่รุนแรงที่สุด! ไม่ใช่หรอก”

เอ่ยมาจนจบ ฟางไห่อิงร่ำไห้จนพูดไม่ออก ทว่าบนใบหน้าของเธอยังคงรอยยิ้มอันใจดีไว้เช่นเดิม รอยยิ้มนั้นทำให้ผู้ได้เห็นต้องใจแหลกสลาย ไม่กล้ามองสบตาตรงๆ ตงฟางหยุนเอ๋อร์ร่ำไห้จนไร้น้ำเสียงเป็นที่เรียบร้อย เข้าไปโผกอดฟางไห่อิงแล้วปล่อยโฮร้องไห้หนัก ฟางไห่อิงแม้ใบหน้าจะมีรอยยิ้มไม่คลาย ทว่าในจิตใจกลับแหลกสลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยราวกับกระจกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เธออดกลั้นน้ำตาเอาไว้อย่างแรง มองดูเรือนตระกูลฟางที่ดำรงอยู่นานกว่าสิบกว่าปี เริ่มกลายเป็นซากปรักหักพังทีละน้อย ภายในใจก็พลันเจ็บปวดขึ้นมาจนถึงขีดสุด ไม่สามารถที่จะใช้คำไหนบรรยายออกมาได้โดยสิ้นเชิง

หรือว่าตระกูลฟางจะมาถึงขั้นนี้เสียแล้ว?

บัดนี้ฟางเหยียนยังสบายดีอยู่หรือไม่?

เธอไม่ทราบ ไม่มีข่าวคราวก็ถือเป็นข่าวคราวที่ดีที่สุด

วันนี้เป็นวันที่ดำมืดที่สุดของตระกูลฟาง โศกนาฏกรรมของฟางเหมี่ยวมิใช่การเริ่มต้นและมิใช่การสิ้นสุด

ในเวลานี้ ชายฉกรรจ์แห่งตระกูลฟางกำลังฮึดขึ้นมาต่อสู้กับศัตรู เดิมพันด้วยเลือดเนื้อของตน มีกี่ครอบครัวที่ต้องพลัดพรากจากกัน มีกี่ชีวิตที่ต้องดับสิ้นไปในศึกครั้งนี้ มีกี่ครอบครัวที่ต้องอยู่กับความโศกเศร้าของการสูญเสียลูกหลานไป

ฟางจินหยวนหัวสมองว่างเปล่าไปในทันที ความสิ้นหวังผุดขึ้นมาในหัวอย่างท่วมท้น โดยเฉพาะนิสัยอันโหดเหี้ยมเป็นทุนเดิมของหม่างเทียนและซื่อนวี่ ทำให้กองกำลังของตระกูลฟางลดน้อยลงเรื่อยๆ นี่ถือเป็นกระบวนการทำลายล้างวงศ์ตระกูล!

ในช่วงเวลานี้ ที่ฟางจินหยวนตระหนักนั้นมิใช่การดับสิ้นของตระกูล ครั้นนึกถึงฟางเหยียน หลานชายผู้มากความสามารถ หากตอนนี้เขาอยู่ด้วย สถานการณ์จะพลิกกลับมาเป็นดีได้หรือไม่? เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นมา ทันใดนั้นเขาก็ส่ายหน้า ฟางเหยียนใช้ชีวิตอยู่แต่กับความเคียดแค้น ไม่มีทางที่จะมากู้สถานการณ์ให้ตระกูลฟาง

ทว่าเขายังคงคาดหวังว่าฟางเหยียนจะสามารถกลับมาได้ ต่อให้จะได้เจอกันเป็นครั้งสุดท้าย เขาก็คงตายตาหลับแล้ว

ความเจ็บปวดของร่างกายไม่เทียบเท่ากับความทุกข์ทรมานในจิตใจ ตระกูลฟางได้แตกแยกกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ราวกับวันสิ้นโลกกำลังจะมาเยือน สิ่งที่สั่งสมมาถูกทำลายลงภายในชั่วพริบตาเดียว อีกทั้งคนในครอบครัวตระกูลฟางกำลังลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง

ในเวลานี้ ทั้งเรือนตระกูลฟางตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นคาวเลือด เมื่อเทียบกับตระกูลฟางที่ถูกโจมตีจนพ่ายแพ้ ความสิ้นหวังที่ปกคลุมทั้งครอบครัวตระกูลฟางนั้นยิ่งน่าใจหายเสียมากกว่า รวมไปถึงผู้นำตระกูลอย่างฟางจินหยวนด้วย คนในตระกูลฟางต่างก็คิดว่าตระกูลฟางกำลังจะจบสิ้นแล้ว!

ใช่แล้ว!

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ตระกูลฟางก็คงมีเพียงหนทางเดียว นั่นก็คือดับสิ้นอย่างน่าเวทนา เพียงห้าคนก็สามารถทำลายทรัพย์สมบัติร้อยกว่าปีของตระกูลฟางลงได้ พูดแล้วก็น่าขันเล็กน้อย ทว่าไม่มีผู้ใดรู้สึกว่าน่าขัน นี่คือคำสั่งสอนนองเลือด

เสียงการต่อสู้อันรุนแรงดังสนั่นขึ้นมา จากนั้นขวังซือและทั้งสี่คนนั้นก็แยกออกจากกัน สี่คนนั้นถอยกระเด็นไปหลายเมตร ทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยบาดแผล เลือดสดๆ ไหลรินออกมาไม่หยุด ราวกับเป็นมนุษย์เลือดอย่างไรอย่างนั้น

โดยเฉพาะขวังซือ กรอบตาอันแดงก่ำที่นองไปด้วยเลือดสดๆ ทั้งพิลึกและน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม มันเลียเลือดสดๆ บนแขนตัวเอง เผยให้เห็นเขี้ยวสีแดงที่อาบด้วยเลือดสดๆ ราวกับชูร่า เทพแห่งสงครามที่เดินออกมาจากขุมนรกอย่างไรอย่างนั้น

“เทพธิดา ทำยังไงดี? ต่อให้พวกเราต้องทุ่มแรงทั้งหมด ก็ทำได้แค่เสมอกับขวังซือเท่านั้น กำลังกายลดลงอย่างผิดปกติ เกรงว่าถึงตอนนั้นพวกเราคงจะต้องเหมือนกับนักเบญจธาตุ ที่ถูกมันหักคอขาดแน่เลย!”

หญิงหน้ากากพยัคฆ์ทราบอยู่ลึกๆ แล้วว่าสิ่งที่เขาเอ่ยมานั้นเป็นความจริง สู้รบทำสงครามมาตั้งนานเพียงนี้ ขวังซือยังคงแข็งแกร่งกล้าหาญดังเดิม แถมยังไม่เห็นว่าพละกำลังจะลดลงแต่อย่างใด ในทางกลับกัน ดันสู้รบไปก็ยิ่งอาจหาญขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเป็นเครื่องยนต์ที่รู้จักแต่การสู้รบเท่านั้น!

หญิงหน้ากากพยัคฆ์ครุ่นคิดในใจชั่วครู่หนึ่ง จากนั้นจึงตะโกนบอกหม่างเทียนว่า “จนถึงตอนนี้พวกกุ้งฝอยแค่นั้นก็ยังจัดการไม่ได้เลยเหรอ ไร้น้ำยาสิ้นดี รีบไสหัวมาช่วยเหลือเร็วเข้า!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ