จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี นิยาย บท 35

บทที่ 35 คุกเข่าเรียกพ่อ

ความมืดครึ้มค่อยๆแผ่เข้ามา ลานจอดรถของโรงแรมเผิงไหลปินหูมีรถBMWสีเทาเงินปรากฏขึ้น แล้วมีคู่กิ่งทองใบหยกลงมาจากรถ

คืนนี้หานหยู่เยนแต่งตัวสง่าราศีมาก

ผมดกดำไม่ได้กระจายแต่ม้วนอยู่ด้านหลัง จึงทำให้ขาดความใสซื่อ แต่เพิ่มลุคผู้ใหญ่ขึ้นมา

สวมใส่ชุดสูทสีเทาที่ค่อนข้างจะเป็นทางการเล็กน้อย กระโปรงสั้นระดับสะโพกเผยสองขาเรียวยาวอันงดงามที่ใส่ถุงน่องสีเนื้อ ใต้เท้าใส่รองเท้าส้นสูงสีดำ

ออร่าจัดเต็ม ไม่ธรรมดาเสียเลย

หานหยู่เยนรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เบนสายตามองด้านข้าง พลางถามว่า“ไม่มีปัญหาจริงๆเหรอ?เฮยหนิวเป็นเจ้าถิ่นในปินหู หากเขาคิดกลับคำลงมือทำร้ายพวกเรา พวกเราก็ไม่มีทางหนีรอดไปได้เลยนะ”

“วางใจได้ มีผมอยู่”

แววตาของโล่เฉินสว่างวาบเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ

หานหยู่เยนหมุนนัยน์ตาคาดเดาว่าโล่เฉินอาจจะติดต่อผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคยช่วยชีวิตไว้คนนั้น ฉะนั้นจึงไม่มีความยำเกรงแต่อย่างใด

มีผู้ใหญ่ลึกลับค่อยหนุนหลังอยู่ ถึงแม้จะคุยไม่ลงเอยกับเฮยหนิว แต่อย่างน้อยก็ไม่มีอันตรายอะไร

ทั้งสองคนเดินเข้าไปที่ห้องโรงแรมเผิงไหลปินหู ผู้จัดการห้องโถงรีบเดินเข้ามาต้อนรับ “ท่านคือคุณหานใช่ไหมครับ เถ้าแก่หนิวรออยู่แล้วครับ เชิญตามผมมาได้เลยครับ!”

“เถ้าแก่หนิว?โรงแรมเผิงไหลปินหูเป็นธุรกิจของเฮยหนิวเหรอคะ?”โล่เฉินถามด้วยความตกตะลึง

ผู้จัดการตอบว่า“ไม่ใช่ครับ แต่เถ้าแก่หนิวเป็นหุ้นส่วนของที่นี่ไม่น้อยเลยครับ เขาอยู่ห้องที่หนึ่งชั้นหลีเหิ้นเทียนทางนี้เลยครับ”

โรงแรมเผิงไหลปินหูมีอีกชื่หนึ่งว่าตึกเผิงไหลเหมือนกับตึกซิงหยุนที่เป็นโรงแรมส่วนบุคคล ซึ่งโรงแรมแห่งนี้มีชื่อเสียงในเมืองเจียงไม่น้อย สามารถเทียบกับตึกซิงหยุนได้เลย

ตึกเผิงไหลมีทั้งหมดสามสิบหกชั้น จุดเด่นคือตั้งชื่อแต่ละชั้นตามสวรรค์สามสิบหกชั้น

เฮยอยู่ชั้นหลีเหิ้นเทียนก็แสดงว่าอยู่ที่ชั้นสามสิบสาม

เมื่อเข้ามาภายในห้องหมายเลขหนึ่งด้านในมีแสงสีเจิดจรัส

ด้านในห้องวีไอพีมีโต๊ะยาวสิบกว่าเมตรตั้งอยู่ตรงนั้น หัวโต๊ะมีผู้ชายหน้าดำคล้ำนั่งอยู่คนหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าเป็นตัวเอกของคืนนี้

ด้านซ้ายมือของเฮยหนิวมีหานหยุนเทานั่งอยู่

“คุณในได้สักทีนะ ช่างทำตัวยิ่งใหญ่เหลือเกินที่ให้พี่หนิวรอสักนาน ใช้ได้นี่”หานหยุนเทารู้สึกไม่พอใจ

แต่หานหยู่เยนไม่ได้สนใจอะไร

เธอจับจ้องมองอยู่แต่เฮยหนิว จากนั้นค่อยๆอ้าปากพูดด้วยใบหน้าประหลาดใจ “เป็น...เป็นคุณเหรอ!”

“ไม่เจอหน้ากันห้าปี คิดไม่ถึงว่าคุณยังจำผมได้อยู่ เห็นท่าจะมีผมอยู่ในใจนะนี่!”เฮยหนิวพูดด้วยเสียงหัวเราะ ดวงตากลับมาแสงอันเย็นเยียบประกายเด่นชัด

โล่เฉินแอบถอนหายใจเล็กน้อย ดึงหานหยู่เยนมานั่ง

“เศษสวะอย่างคุณมาทำอะไร?”หานหยุนเทาเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม

“คุณก็มาแล้ว ผมจะไม่มาได้ยังไง”

โล่เฉินตอบกลับแบบไม่สะทกสะท้าน

คำพูดนี้ชัดเจนมาก บอกว่าหานหยุนเทาก็เป็นเศษสวะคนหนึ่ง

หานหยุนเทาไม่ได้โง่เขลา จึงฟังความหมายที่แอบแฝงออก เลยรู้สึกโกรธขึ้นมาทันที

แต่เฮยหนิวรั้งเขาไว้ เอ่ยด้วยใบหน้าหยอกล้อ“ท่านนี่ก็คือลูกเขยแต่งเข้าบ้านเจ้าสาวที่มีชื่อเสียงเกรียงไกร ได้ยินชื่อมานาน

หากพูดไปแล้วผมถือว่าเป็นผู้อาวุโสของคุณนะ”

“ทำไม?”

“เมื่อก่อนผมกับหยู่เยนเคยคบกัน แต่ภายหลังเลิกราแบบไม่ค่อยสวยสักเท่าไหร่ อย่างนี้ไม่เรียกว่าผู้อาวุโสจะให้เรียกว่าอะไร!”

เฮยหนิวเพิ่งกล่าวจบ หานหยู่เยนก็ไม่อาจอดกลั้นได้อีก ตบโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน ตำหนิสุดเสียงว่า “เฮยหนิว คุณอย่าพูดมั่วซั่ว ใครเคยคบกับคุณ คุณเป็นคนยังไงไม่รู้ตัวบ้างเหรอ ฉันจะชอบคุณได้ยังไง!”

แต่งงานมาสามปี โล่เฉินไม่เคยเห็นหานหยู่เยนพูดจาประชดประชันทำร้ายจิตใจใครมาก่อน วันนี้ทุบสถิติเป็นครั้งแรก

เห็นได้ชัดว่าเธอโกรธมากๆ

สีหน้าเฮยหนิวเคร่งขรึม หานหยุนเทาดุด่า“สามหาว ทำไมพูดจาอย่างนี้กับพี่หนิว หาที่ตายเหรอ”

“ไม่เจรจากันแล้ว โล่เฉินพวกเรากลับกันเถอะ ฉันจะดูสิว่าคุณจะเล่นไม้ไหนได้อีก”

เห็นหานหยู่เยนจะไป หานหยุนเทาก็ร้อนใจขึ้นมา

เฮยหนิวระงับอารมณ์โกรธในก้นบึ้งของหัวใจ พูดเสียงเย็นชาว่า“เห็นทีว่าผมจะจำผิดซะแล้ว เรื่องที่ผ่านไปแล้วก็ช่างเถอะมาพูดเรื่องงานกันดีกว่า!”

“ใจเย็นๆ นั่งสิ”

โล่เฉินก็กล่าวห้าม

ไม่ใช่เพราะเกรงกลัวเฮยหนิว แต่อยากจะพูดสักหน่อยว่าเขามีแผนการอะไรแอบแฝงอยู่ หากกลับไปอย่างนี้ เฮยหนิวคงต้องล่อทำร้ายลับๆแน่ๆ ยากที่จะปกป้อง

“บริกร เสิร์ฟอาหาร”

“อาหารเครื่องดื่มไม่ต้อง รีบพูดเรื่องงานดีกว่า”หานหยู่เยนเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือก

เฮยหนิวเอ่ยอย่างไม่รีบร้อน“ดื่มเหล้าไปด้วยคุยไปด้วยไง อย่าใจร้อนสิ หลายปีผ่านไปคุณก็ยังไม่เปลี่ยนเลย”

ไม่นานบริกรก็เสิร์ฟอาหารและเหล้าเต็มโต๊ะ ซึ่งเป็นอาหารชั้นเลิศ และเป็นเหล้าที่ราคาหลักหมื่นต่อขวดกันเลยทีเดียว

“หยู่เยนพวกเราก็เป็นคนคุ้นเคยอยู่แล้ว ผมไม่อยากจะเกินไปหรอกนะ แต่ปินหูเป็นถิ่นของผม คุณทำโครงการอยู่ที่นี่ก็ควรให้เกียรติผมบ้าง ไม่ใช่ผมมีอคติกับคุณหรอกนะ ตระกูลอื่นที่มาทำงานที่นี่ต่างรู้กฎข้อนี้ดี”

เฮยหนิวใช้มีดและส้อมหั่นสเต็กดูแล้วตลกยิ่งนัก

แต่คนก้าวร้าวก็เป็นคนก้าวร้าววันยันค่ำ จะแสร้งทำอย่างไรก็ไม่กลายเป็นสุภาพบุรุษหรอก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิผู้ฝึกอายุห้าพันปี