ลู่ฝานกวาดสายตามองไปยังทุกคน ความคิดของพวกเขา การวิพากษณ์วิจารณ์ของพวกเขา เหมือนจะไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลยแม้แต่น้อย
ลู่ฝานหันหน้ากลับมา มองไปที่สิบสามและพูดว่า: “ช่วยฉันดูแลเจ้าดำให้หน่อย! ”
ขณะที่พูด ลู่ฝานก็นำเจ้าดำไปวางไว้ในมือของสิบสาม เจ้าดำบิดขี้เกียจเล็กน้อย แล้วก็นอนต่อ
หานสงที่อยู่ด้านหลังของลู่ฝานได้พูดขึ้นว่า: “เพื่อนลู่ฝาน ครั้งนี้เหมือนจะเล่นกันหนักเลยทีเดียวนะ นายจะต้องแสดงพลังความสามารถอย่างเต็มที่! ”
ลู่ฝานยิ้มและพูดว่า: “วางใจได้”
กระโดดขึ้นไปบนก้อนหินยักษ์ และมองไปที่เทียนตู้ด้วยสายตาที่สงบนิ่ง
เวลานี้ ร่างกายของเทียนตู้สั่นเทาเล็กน้อย มือที่ถือกระบี่นั้นเหมือนจะไม่ค่อยมั่นคงแล้ว
“เหมือนว่านายจะประหม่าอยู่บ้างนะ! ”
ลู่ฝานยิ้มและพูดขึ้นพร้อมกับมองไปที่เทียนตู้
เทียนตู้สีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย และพูดขึ้นว่า: “วันนี้ บุคคลผู้ยิ่งใหญ่แต่ละท่านต่างก็มากันแล้ว ต้องมีความตื่นเต้นและดีใจบ้างเป็นธรรมดา นายต่างหากล่ะ ที่ยังแกล้งทำตัวเป็นปกติอยู่ คิดว่าทำตัวแบบนี้แล้ว จะสามารถแสดงให้เห็นว่านายสงบหนักแน่นได้จริงเหรอ? โง่เขลาสิ้นดี”
ลู่ฝานส่ายศีรษะและพูดว่า: “ฉันก็แค่บอกว่านายประหม่าและตื่นเต้นเท่านั้นเอง”
เทียนตู้กวัดแกว่งกระบี่ยาว และพูดว่า: “เกียจคร้านที่จะทะเลาะต่อเถียงกับนาย ลู่ฝานในเมื่อนายมาแล้ว อย่างนั้นการประลองในวันนี้ พวกเรามาท้าเดิมพันสิ่งของกันอีกไหมล่ะ? ”
ลู่ฝานพูดขึ้นว่า: “แล้วแต่นายเลย”
เทียนตู้ยิ้มและพูดว่า: “อย่างนั้นก็ตกลง ถ้าหากฉันเป็นฝ่ายชนะ ฉันต้องการอสูรวิเศษของนาย”
ลู่ฝานพูดว่า: “ฉันรู้อยู่แล้วว่า พวกนายไม่มีทางลืมสิ่งนี้ไปแน่ แล้วถ้าหากนายเป็นฝ่ายแพ้ล่ะ? ”
เทียนตู้หัวเราะเหอะเหอะแล้วพูดว่า: “ก็แล้วแต่นายเลย”
ลู่ฝานพยักหน้า แล้วก็ยื่นมือออกไปทางเทียนตู้ และปราณชี่ในร่างกายก็เริ่มพลุ่งพล่านขึ้น
เวลานี้เทียนตู้เองก็เริ่มที่จะปลดปล่อยปราณชี่ของตนเองออกมาเช่นกัน พลังกลิ่นอายที่รุนแรงนั้น ได้ก่อให้เกิดลมพัดขึ้นในบริเวณโดยรอบ
ลำแสงห้าธาตุเปล่งประกาย ร่างกายของเทียนตู้ได้ถูกปกคลุมด้วยเกราะลำแสงสีเหลืองที่หนาแน่น
เพียบพร้อมด้วยพลังธาตุดินในธาตุทั้งห้า และวิทยายุทธปราณชีวิตชั้นเจ็ด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า