เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น นิยาย บท 129

“โอ้ย เจ็บจะตายอยู่แล้ว.....บรรพบุรุษของฉัน...พระเจ้าของฉัน....” หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งถูกซากปรักหักพักทับอยู่ทางด้านล่าง คำวิงวอนขอร้องที่ร้องไห้เรียกพ่อเรียกแม่ กางเกงเปียกชื้นด้วยปัสสาวะเต็มไปหมด

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนพิงอยู่ตรงกำแพงที่อยู่ไม่ใกล้ ใบหน้าไม่มีสีเลือดฟาดเลยแม้แต่นิดเดียว ดวงตาคู่นั้นมองป้ายโฆษณาที่หล่นลงมาอย่างสยดสยอง

ลมพัดไป ป้ายโฆษณาที่แตกพังแล้วเปิดออกมุมหนึ่ง สามารถเห็นว่าโครงเหล็กกดอยู่บนข้อเท้าของหวงฟาง เท้าของเธอพลิกเสียจนเปลี่ยนรูป เนื้อเปิดออก เลือดกระจายทั่วทุกด้าน กระดูกแยกออกมา หน้าซีดเสียจนทำให้รู้สึกกลัว

“โธ่ เสี่ยวเนี่ย.....รีบมาช่วยแม่เร็วเข้า กระดูกของฉันถูกอัดอยู่ข้างนอก แกยกเหล็กนั่นออกให้ฉันที ไม่อย่างนั้นขาข้างนี้ฉันคงจะเละแล้ว เร็วเข้าสินังเด็กนี่.....”

หวงฟางพูด และยังยื่นมือออกมาให้กับเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน ตัวสั่นเทา ดูแล้วเหมือนกับศพแห้งที่ปืนขึ้นมาจากในบ่อน้ำโบราณแบบนั้น

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนไม่ขยับ ความทรงจำในครึ่งนาทีก่อนหน้านี้เกิดขึ้นมาทั้งหมด

เมื่อครู่นี้เธอรู้สึกโมโหเสียจนปวดหัว ไม่ได้สังเกตว่าหวงฟางทำอะไรเอาไว้ จู่ๆก็ได้ยินเสียงลม และเห็นหวงฟางถอยหลังไป แล้วก็รีบถอยหลังตามด้วย หลังจากนั้นก็เห็นว่าหวงฟางยกเท้าขึ้นมาจะถีบเธอ แต่คิดไม่ถึงว่าใต้เท้านั้นจะลื่น เสียงดังตึง ชั้นโฆษณาหล่นลงมาฝุ่นฟุ้งกระจาย....

หวงฟางถูกทับ การคิดร้ายกับคนอื่นแต่ย้อนกลับมาหาตัวเองนี้เป็นการแสดงได้อย่างงดงามมาก

“นังเด็กบ้า แกกำลังหัวเราะเยาะอยู่ใช่ไหม?” หวงฟางมองเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนอย่างรู้สึกโมโหแต่ไม่มีแรง ในปากก็ส่งเสียงร้องที่โศกเศร้าขึ้นมา “ฉันเลี้ยงแกมาเป็นสิบกว่าปี ตอนเด็กๆฉันก็ยังเคยซักผ้าอ้อมให้แกด้วยนะ แกจะเนรคุณไม่ได้นะ.....”

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนตื่นขึ้นมาจากความตกใจกลัว แววตาเยือกเย็นเหมือนกับมีด “คุณหวง คุณอยากจะให้มันหล่นมาทับฉันใช่ไหมคะ?”

“ฉัน....เป็นไปได้ยังไงที่จะให้หล่นมาทับแก?” หวงฟางปาดเหงื่อ ความชั่วร้ายในดวงตานั้นหายไป เริ่มสร้างภาพลักษณ์ที่ยิ่งใหญ่ให้กับตัวเอง “พอฉันเห็นว่าป้ายโฆษณาจะหล่นมาทับเธอ ก็คิดที่จะใช้เท้าเกี่ยวเธอข้ามา ใครจะคิดว่าจะเป็นการทำให้ตัวเองต้องเข้าไปแบบนี้”

เธอสามารถเปลี่ยนสีขาวให้กลายเป็นดำกลับตาลปัตรไปหมดได้จริงๆ ทั้งๆที่คิดจะถีบเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเข้าไป ผลปรากฏเป็นการทำร้ายตัวเอง ถ้าหากเธอไม่ได้จะถีบออกไปนั้น ก็จะไม่ถูกทับเลย

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเห็นว่ารอบไม่มีคน ก็อยากจะหาคนช่วยแต่ก็หาไม่เจอ จึงทำได้เพียงเดินเข้ามา แล้วนั่งลงที่พื้น ดึงกระเป๋าของหวงฟาง แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา

“เสี่ยวเนี่ยน แกจะทำอะไร?” หวงฟางตกใจจนหน้าซีด

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนกดโทรออกเบอร์110แล้วเอามาแนบหู “โทรแจ้งตำรวจให้คุณไงคะ ให้ตำรวจมาช่วยคุณ”

“ไม่ต้องแจ้งตำรวจสิ ลูก” หวงฟางก็ไม่รู้ว่าเอาแรงมาจากไหน ดึงโทรศัพท์มือถือมา

“ไม่แจ้งตำรวจถ้าอย่างนั้นคุณก็รอตายแล้วกันนะคะ!” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนลุกขึ้นมาช้าๆ มองพิจารณาเธอจากบนลงล่าง “หรือว่าทำเรื่องบาป แล้วกลัวว่าจะมาเจอกับตำรวจ?”

“ไม่ใช่ รอตำรวจก็ต้องรอนานมาก” หวงฟางใช้สายตาที่จริงใจเป็นอย่างมากมองเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน “เด็กดี รีบเอาเหล็กออกให้ทีนะ ให้เท้าของฉันออกมาได้ก่อน มันทับอยู่แบบนี้เจ็บมาก ขอร้องล่ะ เด็กดี.....”

ถึงแม้ว่าตลอดชีวิตนี้เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนจะไม่เคยได้ยินหวงฟางพูดจาดีๆแบบนี้กับเธอ แต่ก็ยังปฏิเสธอยู่ดี “ฉันไม่มีแรงแล้ว เมื่อกี้กลัวมากเกินไป ตกใจจนระดับพลังงานหมดไปแล้ว ฉันไปทางนั้นเรียกคนมาช่วยคุณแล้วกันนะคะ”

“นี่แกเห็นคนจะตายแล้วยังไม่ช่วยอีกเหรอ?” เห็นเธอจะหนีไปแล้ว หวงฟางก็รู้สึกโมโหขึ้นมาบ้าง แววตาก็เริ่มร้ายขึ้นมาอีกครั้ง

“อืม” เอี่ยนเสี่ยวเนี่ยนพยักหน้าลง “ก็เห็นว่าตายแต่ไม่ช่วย ไม่ผิดกฎหมายใช่ไหม?”

“แกมันไม่มีหัวใจเลยจริงๆ ฉันเลี้ยงแกมาหลายปีขนาดนั้น ต่อให้เห็นแก่หน้าพ่อของแก แกก็จะไปไหนไม่ได้ แกยังมีความรู้สึกโดยสัญชาตญาณอยู่หรือเปล่า? แกใจดำมากเลยนะ!”

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนหัวเราะเยาะ แล้วเดินออกไปยังปากทาง

ทันใดนั้นเอง ทางด้านหลังก็มีเสียงร้องอย่างคร่ำครวญดังขึ้น เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนตกใจเสียจนขนลุกขนพอง หันไปมองก็เห็นว่าหวงฟางนั้นเจ็บเสียจนสลบไปแล้ว เลือดของเธอยิ่งไหลก็ยิ่งมาก ถ้ายังเสียเวลาต่อไปอีกชีวิตอาจจะตกอยู่ในอันตรายได้

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนนึกถึงความดีของพ่อแล้ว จึงถอนหายใจออกมา และหันหลังเดินกลับมาอีกครั้ง

หวงฟางแอบเปิดหางตาขึ้นมา เธอก็รู้ว่าเด็กนี่เหมือนกับเอี๋ยนจื้อโก๋ว เป็นคนดีมากแล้วก็โง่ด้วยเช่นกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น