อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 218

“เจ้ามาทำไมกัน?”

โม่จงหรานกวาดตามองเขาครู่หนึ่ง

“เสด็จพ่อ ลูกมารับหนิงเอ๋อร์กลับจวน”

โม่เยว่กล่าวตอบอย่างเคารพนบนอบ

โม่จงหรานโบกไม้โบกมือให้พวกเขารีบไสหัวไป ตอนนี้แค่เห็นสองสามีภรรยาคู่นี้ก็รู้สึกโมโหขึ้นมา ตราบใดที่พวกเขาอยู่ด้วย ก็ไม่มีวันไหนที่สงบสุขเลย

โม่เยว่กับหยุนหว่านหนิงกล่าวอำลา

ทันทีที่ออกจากห้องทรงพระอักษร หยุนหว่านหนิงก็มองดูเขาด้วยความสงสัย “ท่านจะใจดีขนาด เข้าวังมารับข้าโดยเฉพาะเลย?”

“ข้าทำด้วยความจริงใจ เจ้าไม่เชื่อหรือ?”

โม่เยว่ถามกลับ

“ว่ากันว่า ลมปากผู้ชายพูดคำสวยหวานแท้จริงแล้วหลอกลวงทั้งนั้น ถ้าหากเชื่อว่าผู้ชายจะพูดความจริง แม่หมูก็สามารถปีนต้นไม้ได้แล้ว!”

หยุนหว่านหนิงยิ้มเย้ยหยัน

ความสัมพันธ์ของนางกับโม่เยว่ ยังไม่ได้ลึกซึ้งจนถึงขั้นนั้นหรอกใช่ไหม?

ตอนนี้พวกเขาสองคน ก็เหมือนกับพี่น้องนักปฏิวัติที่อยู่ร่วมชายตาเดียวกัน อยู่ในค่ายเดียวกันเท่านั้น

“หยาบคาย”

โม่เยว่มองดูนางครู่หนึ่ง น้ำเสียงราบเรียบ “หยุนหว่านหนิง ดีร้ายเจ้าก็เป็นถึงคุณหนูของจวนกั๋วกง ทำไมกิริยาวาจา ไม่สามารถสุภาพหน่อยล่ะ?”

“ท่านยังเป็นถึงท่านอ๋องแห่งราชวงศ์เลย!”

หยุนหว่านหนิงตอกกลับเขาอย่างไม่ไว้หน้า “คิดดูเองสิว่าเมื่อสี่ปีก่อน ท่านปฏิบัติอย่างไรต่อข้า?”

“ท่านมีลักษณะท่าทางของท่านอ๋องแม้เพียงเล็กน้อยหรือ?”

ตอนนี้มาพูดเรื่องสุภาพไม่สุภาพอะไรกับนาง นี่ไม่ใช่การพูดเหลวไหลไร้สาระหรอกหรือ? !

โม่เยว่ถูกตอกกลับจนทำอะไรไม่ได้นอกจากคล้อยตาม จึงได้ยิ้มออกมา หยิบปิ่นหยกสองอันออกมาจากอกแล้วยื่นไปให้นาง “ดูสิ เจ้าชอบอันไหน?”

มองดูเขาทำราวกับให้สิ่งของล้ำค่า หยุนหว่านหนิงยังนึกว่าเป็นของดีที่มีมูลค่าสุดที่จะประเมินได้เสียอีก

ใครจะรู้ว่าเมื่อรับมาดูแล้ว......

ปิ่นหยกถูกขัดอย่างหยาบกระด้าง ไม่มีสีและความวาวเลยแม้แต่น้อย

แม้แต่การแกะสลักข้างบน ก็ยัง......หยาบมาก

รูปแบบของปิ่นหยกทั้งอันมีกลิ่นอายราคาถูก หยาบ และสะเพร่าไม่ละเอียด

หยุนหว่านหนิงมองไปที่โม่เยว่อย่างดูแคลนครู่หนึ่งทันที “ช่วงนี้ท่านร้อนเงินใช่ไหม?”

“ไม่นะ มีอะไรหรือ?”

“ถ้าหากไม่มีเงิน ก็เอ่ยปากขอร้องข้า ข้าจะสนับสนุนท่านสักหน่อย ถึงแม้จะทำแบบขอไปที ก็ไม่จำเป็นต้องทำให้มันชัดเจนขนาดนี้ก็ได้มั้ง?”

หยุนหว่านหนิงยื่นปิ่นหยกคืนให้เขา “ข้าไม่ชอบแต่งตัว ท่านเอาปิ่นนี้ไปมอบให้คนรักที่ไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ของท่านดีกว่า”

นางก้าวเท้าเดินจากไปไกล

โม่เยว่ถือปิ่นหยกสองอันเอาไว้ ตะลึงงันอยู่กันที่

มองดูแผ่นหลังที่ไม่แม้แต่จะหันกลับมามองของนาง เขาค่อยๆขมวดคิ้วขึ้นมา

เขาก้มหน้ามองดูปิ่นหยกสองอันที่อยู่ในมือ สีหน้าซับซ้อน

หรูโม่ไม่รู้ว่าปรากฏตัวขึ้นมาเมื่อไหร่ ยืนอยู่ข้างกายของเขา “นายท่าน เหตุใดท่านถึงไม่บอกพระชายา ว่าปิ่นหยกสองอันนี้ท่านทำให้นางกับมือตัวเอง?”

หากว่ามองสังเกตดีๆ ก็จะสามารถมองเห็นว่าสองมือของโม่เยว่ หยาบกระด้างกว่าเมื่อก่อนไม่น้อยจริงๆ

ถึงขั้นบนนิ้วมือ ยังมีบาดแผลเล็กๆอยู่

“พูดหรือไม่พูดมันจะมีความหมายอะไร?”

โม่เยว่เก็บปิ่นหยกกลับเข้าไปใหม่ ระงับความผิดหวังในดวงตาเอาไว้ในตอนที่เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ก็กลับมามีท่าทางที่ไม่แสดงอารมณ์ความรู้สึกตามปกติ “ในใจของนางโกรธแค้นข้า”

“ก็เป็นเรื่องที่สมควรอยู่แล้ว”

เขายิ้มออกมาอย่างเยาะเย้ยตัวเอง

“แต่ว่านายท่าน ข้าน้อยคิดว่า......ท่านควรจะคุยกับพระชายาให้ดี”

หรูโม่ออกอุบายและวางแผนให้เขา “ในเมื่อเหตุการณ์เมื่อสี่ปีก่อนเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน อย่างไรก็ต้องคุยกันให้ชัดเจน จะให้พระชายาเกลียดชังท่านตลอดเช่นนี้ ก็ไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหา!”

“ยังมีทางด้านพระชายาหยิง เดิมทีท่านก็ไม่คิดอะไรกับนางอยู่แล้ว พระชายาดันคิดอย่างสุดจิตสุดใจว่า พระชายาหยิงคือยอดดวงใจของท่าน”

“หากยังไม่แก้ความเข้าใจผิดนี้ เกรงว่าท่านกับพระชายาคงต้องอยู่กันเช่นนี้ตลอดชีวิตแน่”

ขณะที่พูดไป หรูอวี้ก็มองสังเกตสีหน้าท่าทางของเขาไปด้วย

เห็นโม่เยว่ไม่ได้พูดอะไร ก็กล่าวขึ้นมาอีกว่า “ที่สำคัญคือทางด้านคุณชายน้อย! ปฏิเสธที่จะยอมรับว่าท่านคือพ่อของเขาตลอด ข้าน้อยรู้ว่าในใจของนายท่านรู้สึกเศร้าเสียใจ”

หรูโม่ก็เศร้าเสียใจมากเช่นกัน

นึกไม่ถึงว่าแม้แต่คุณชายน้อยนายท่านก็ไม่สามารถจัดการได้!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์