เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน บทที่ 12

sprite

สายตาของเฉินลู่นิ่งเรียบเป็นอย่างมาก ทว่าดูเย็นชาเล็กน้อย

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นหัวข้อที่เขาค่อนข้างไม่ชอบ อาจเป็นไปได้ว่ากำลังล่วงล้ำเขตหวงห้ามของเขา

สวีซุ่ยหนิงไม่กล้ามองเขา เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเธอส่งจดหมายให้กับเฉินลู่ด้วย ยิ่งกว่านั้นในจดหมายเขียนอะไรลงไปเธอก็จำไม่ได้ แต่เมื่อเห็นสายตาของเขาแล้ว เธอรู้ได้ทันทีว่ามันไม่น่าจะใช่หัวข้อปกติทั่วไป

จากนั้นเฉินลู่ได้เป็นคนติวหนังสือให้กับเธอในช่วงมัธยมศึกษาปีที่หก

ไม่น่าแปลกใจทุกครั้งที่พบหน้ากัน เขามักจะเย็นชา ทบทวนบทเรียนสิบนาทีต่างก็แยกย้าย และเขาเอ่ยกับเธอตรงๆว่าเขานั้นไม่ชอบผู้หญิงอย่างเธอ

ลั่วจือเห้อยิ้ม : "สวีซุ่ยหนิง ใช้ได้เลยนะ จับปลาสองมือน่ะไม่ใช่ปัญหาหรอก แต่เธออ่อยฉัน แล้วยังกล้าอ่อยเฉินลู่ อันนี้ฉันว่าไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไร ทำไม อยากให้ฉันกับเฉินลู่คอยปรนนิบัติรับใช้เธอร่วมกันงั้นเหรอ?"

ตลอดทั้งชีวิตของสวีซุ่ยหนิงนอกเหนือจากการแสดงความคิดเห็นเป็นครั้งคราวแล้ว ส่วนใหญ่เธอก็จะเก็บเนื้อเก็บตัวเป็นคนดี ไม่เป็นอริกับใคร ทว่าตอนนี้ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวและรีบอธิบายอย่างรวดเร็ว "ในตอนนั้นฉันเป็นผู้แพ้ในเกมพูดความจริงหรือเลือกรับคำท้า ฉันขอโทษด้วยจริงๆ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะล่วงเกินนายเลย"

ลั่วจือเห้อเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ "เธอชื่นชมฉัน อันไหนที่เรียกว่าล่วงเกินเหรอ?"

ไม่เก็บไปใส่ใจก็ถือว่าดีแล้ว

สวีซุ่ยหนิงถอนหายใจยืดยาว หน้าอกของเธอขยับขึ้นและลง เธอยังไม่ทันพูดอะไรก็ได้ยินเขาเอ่ย "ทว่าคิดว่าเฉินลู่อาจจะไม่ค่อยชอบใจในเรื่องนี้"

วินาทีนั้นร่างกายของสวีซุ่ยหนิงกระชับแน่นขึ้นทันใด

แต่ลั่วจือเห้อกลับไม่พูดอะไรอีก เขาเพียงกล่าว "หากเธอไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อ งั้นไปที่ห้องรับรองก่อนก็ได้"

สวีซุ่ยหนิงจึงรีบปลีกตัวจากไป

สายตาของลั่วจือเห้อหยุดลงและจ้องมองเรือนร่างของเฉินลู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาลุกขึ้นและหยุดบทสนทนากับเหล่านักธุรกิจใหญ่

แม้ว่าเขาเป็นแพทย์ ทว่าเขาไม่อาจทนได้ที่มีผู้อาวุโสที่เก่งกาจและเหล่านักธุรกิจมาประจบสอพลอเขา

เมื่อลั่วจือเห้อเดินตามหลังเฉินลู่ เขาก็สัมผัสได้ เขาเอ่ย "ทำไมนายถึงยุ่มย่ามกับแฟนเก่าของเจียงเจ๋อ?"

ลั่วจือเห้อพูดอย่างใจนึก "เธอกำลังตามจีบฉัน"

เฉินลู่ชะงักและเหลือบสายตามองเขา

"ฉันจำชื่อของเธอไม่ได้ แต่ตอนที่อยู่โรงเรียนฉันเคยเห็นหน้าเธอหลายครั้ง" ตอนที่อยู่โรงเรียน ลั่วจือเห้อบอกเพื่อนข้างกายเขาตั้งหลายครั้งหลายหนว่าผู้หญิงคนนั้นสวยใช้ได้

ต่อมาเด็กผู้หญิงคนนั้นก็มาที่หอพักของเขาและส่งจดหมายให้เขา

ขณะนั้นลั่วจือเห้อรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ใช้ได้เลยจริงๆ

หากว่าในช่วงปีที่สามเขาไม่ได้ไปเรียนต่อต่างประเทศ ลั่วจือเห้ออาจจะตกอยู่ในเงื้อมมือของเธอแล้วก็เป็นได้

เฉินลู่เอ่ยอย่างเย็นชา "ยับยั้งชั่งใจไว้"

ลั่วจือเห้อเอ่ยกระตุ้นความสนใจ "ข้างกายนายมีโจวอี้ ย่อมไม่รู้ถึงความดีของเด็กสาวคนนั้น อย่างเธอนั้น เมื่อพระอาทิตย์ขึ้น..."

ริมฝีปากของเขากระตุกรอยยิ้ม เขาได้เพิ่มคำสุดท้ายภายในใจของเขา

สดใส

เฉินลู่กระตุกมุมปากของเขา เอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ "ก็แบบนั้นแหละ"

"ทำไม นายเคยลองแล้วหรือไง?" จากนั้นเฉินลู่ยังไม่ทันจะเอ่ยปาก เขาก็กล่าว "ถามไปก็ไร้ประโยชน์ นายถูกโจวอี้ควบคุมไว้อยู่แล้ว"

น้ำเสียงของเฉินลู่เยือกเย็นขึ้นและดูไม่แยแส "โจวอี้เกี่ยวอะไรด้วย?"

"ไม่เกี่ยวอะไร ตอนนั้นแข่งกันแย่งเธอมาตั้งหลายปี" ลั่วจือเห้อพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา

เฉินลู่ก้าวเท้าและเดินจากไป

.....

สวีซุ่ยหนิงที่อยู่ภายในห้องรับรอง เธอพบเพื่อนร่วมชั้นที่เขียนจดหมายให้เธอในตอนที่เธอเล่นเกมแพ้ เธอถามเขาว่าในจดหมายที่มอบให้เฉินลู่นั้นเขียนอะไรไว้

เพื่อนร่วมชั้นตอบว่าจำไม่ได้ แต่บอกว่าได้ถ่ายรูปเอาไว้และเก็บไว้ในไป๋ตู้คลาวด์ ต้องไปค้นหา

สวีซุ่ยหนิงรออยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ได้ยินเสียงข้อความดังขึ้น

เธอกดเข้าไปดู ราวกับว่าฟ้าผ่าตอนกลางวัน[1]

ในนั้นมีเพียงหนึ่งประโยค

อ่าน เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน จิ่นอวิ๋น บทที่ 12 นวนิยายออนไลน์ฟรี

The เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน จิ่นอวิ๋น บทที่ 12 ซีรีส์ได้รับการอัปเดตพร้อมรายละเอียดใหม่มากมาย ขนานกับลักษณะบุคลิกภาพนั้น คือ อารมณ์ของคนที่รักชีวิต รักชีวิต อยากหนีจากสถานการณ์ชีวิตที่มืดมนและน่าสลดใจ ในบทที่ เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน บทที่ 12 ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน กล่าวได้ว่า เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน นวนิยาย บทที่ 12 เป็นบทที่อ่านง่ายที่สุดในซีรีส์ เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน ชุดนี้

เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน จิ่นอวิ๋น บทที่ 12

เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน บทที่ 12