เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน บทที่ 7

หญิงสาวคนนั้นทั้งกล้าหาญและกระตือรือร้น ร่างกายของเธอแทบจะเคลื่อนลงมาทาบทับร่างกายของเขา
เฉินลู่ไม่ได้ผลักไสเธอและไม่ได้กระทำการสิ่งใดกับเธอ เขาเพียงแค่กวาดสายตามองเธอและเอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ "ฉันไม่ชอบดื่ม"
"ท่าทางการปฏิเสธของคุณนั้นดูไม่ค่อยเด็ดขาดเท่าไรเลยนะคะ" มือของหญิงสาวคล้องคอเขาพร้อมรอยยิ้ม "เพียงแค่ผลักไสฉันออกไปนั่นหมายถึงว่าคุณกำลังปฏิเสธ"
"แบบนี้เหรอ?" เขายื่นมือออกไปและค่อยๆผลักร่างกายของเธอออก
สีหน้าของหญิงสาวดูน่าเกลียดขึ้นทันใด ใบหน้าที่ถูกปฏิเสธเผยให้เห็นทั้งความอับอายและความกริ้วโกรธ "เฉินลู่ มอบให้ถึงที่แต่คุณกลับไม่ต้องการงั้นเหรอ?"
เฉินลู่เอ่ย "เธอควรคำนึงถึงชื่อเสียงของพ่อเธอบ้างนะ ไม่จำเป็นจะต้องทำตัวเหมือนผู้หญิงที่ดูถูกตัวเองแบบนั้น"
อีกอย่าง เหมือนกับสวีซุ่ยหนิงที่สามารถสนุกสนานได้เป็นครั้งคราว แต่คนตรงหน้า เมื่อมีความสัมพันธ์แล้วร้อยละเก้าสิบมักหาช่องทางฉวยโอกาสแต่งงานอย่างแน่นอน
เฉินลู่ไม่ได้วางแผนจะฝังศพตัวเองไว้ด้วยการแต่งงานเช่นนั้น
ท้ายที่สุดหญิงสาวนั้นดวงตาแดงก่ำและวิ่งหนีไป
แต่ทว่าไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าหญิงสาวคนนั้นจะขบคิดได้อย่างรวดเร็ว เมื่อพบหน้ากันอีกครั้ง เธอเอ่ยด้วยท่าทีเคร่งขรึม "เฉินลู่ คุณพูดถูก ฉันไม่ควรทำลายชื่อเสียงของพ่อฉัน ฉันคิดแล้ว ในเมื่อฉันรู้สึกดีกับคุณ ฉันควรจะตามจีบคุณ"
เฉินลู่เลิกคิ้วขึ้น
หญิงสาวคนนั้นเอ่ยด้วยความมั่นอกมั่นใจ "ฉันจะต้องจีบคุณติดอย่างแน่นอน"
ชีวิตนี้มีคนคอยตามจีบเฉินลู่มากมาย แต่ทว่าไม่มีใครที่กล้าพูดด้วยความมั่นใจว่าจะตามจีบเขาติด สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกว่ามันน่าสนใจ อยากจะรู้นักว่าเธอจะทนอยู่ได้นานเพียงใด จะโชว์ความสามารถใดออกมาได้บ้าง
เขาเอ่ยถามกลับด้วยท่าทีไม่ใส่ใจ "งั้นเหรอ?"
เมื่อรับฟังและไตร่ตรองดูแล้ว คำพูดเพียงสองคำของเขานั้นมีทั้งน้ำเสียงยั่วยุและน้ำเสียงของการให้กำลังใจ
วางกลยุทธ์หญิงงาม ต่อให้หญิงสาวเหล่านั้นจะงดงามเพียงใด ไหนเล่าที่พวกเธอจะเทียมเท่าเฉินลู่ได้ เขาจะระงับอารมณ์หรือจะมั่วโลกีย์ทุกสิ่งทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับความสนใจของเขา
หญิงสาวนั้นดูตื่นตัวราวกับดอกไม้ที่บานสะพรั่ง เปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์และพลังทั้งยังมีความมั่นใจอย่างแรงกล้า "สักวันหนึ่ง คุณจะต้องเป็นฝ่ายขอร้องฉัน อ้อนวอนอยากจะนอนกับฉันและคุกเข่าขอให้ฉันแต่งงานกับคุณ"
เหมือนกับเฉินลู่ เธอเองก็เรียนแพทย์เช่นกัน ในเวลาอันรวดเร็วเธอได้ทำการตัดสินใจเดินทางกลับประเทศจีนกับเขา หลังจากที่ศาสตราจารย์ได้ยินการตัดสินใจของลูกสาวเขา เขาก็สนับสนุนและเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง
"เล่อชีฝากนายดูแลด้วย" ศาสตราจารย์เอ่ยฝากฝังทั้งยังกล่าว "อย่างไรเสีย เธอค่อนข้างจะเป็นมืออาชีพ ไม่แน่ว่าอาจทำนายให้ได้เปลี่ยนมุมมองใหม่"
น้ำเสียงของเขานั้นไม่อาจซ่อนเร้นความภาคภูมิใจเอาไว้ได้
เฉินลู่พอจะเข้าใจได้ ซูเล่อฉีเกรงว่าเวลาเธอได้ทำงานแล้วเธอจะมีความสามารถที่มากล้น
ผู้หญิงที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถก็สามารถทำให้ผู้คนสนใจได้ เฉินลู่เองก็ชื่นชมผู้หญิงประเภทนี้
เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการฝึกอบรม ซูเล่อฉีก็บินกลับไปยังประเทศจีนพร้อมกับเขา
.........
สวีซุ่ยหนิงรู้ว่าเฉินลู่กลับมายังประเทศจีนแล้ว เขากลับมาประมาณหนึ่งสัปดาห์แล้ว
และรู้ผ่านจางอวี้ ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังกินข้าว เธอเอ่ยโดยไม่ได้ตั้งใจว่า "วันนั้นที่กลับจากทำธุระ ฉันเจอเฉินลู่ที่สนามบิน"
สวีซุ่ยหนิงส่งข้อความหาเฉินลู่ผ่านวีแชท แต่ทว่าเธอพิมพ์ข้อความไปเพียงแค่ 'อยู่หรือเปล่า' และไม่มีการตอบข้อความกลับมา
ว่ากันว่าคนอย่างพวกเขามักจะพูดเข้าประเด็นโดยตรงและจะไม่ตอบกลับข้อความที่น่าเบื่อหน่ายเช่นนี้
สวีซุ่ยหนิงนั้นแท้จริงแล้วไม่ใช่คนประจบประแจง ทว่าเธอนั้นต้องการให้เจียงเจ๋อชดใช้ ตราบใดที่เธอนึกถึงภาพเหตุการณ์ที่พ่อของเธอคิดฆ่าตัวตาย เธอแทบทนรอไม่ไหวที่จะส่งเจียงเจ๋อลงนรก
เธอไม่อาจทนต่อไปได้
เช่นนั้นแล้วในวันจันทร์ สวีซุ่ยหนิงจีงเป็นผู้ริเริ่มไปหาเฉินลู่
ระหว่างทางที่เธอกำลังตรงไปยังห้องทำงานของเฉินลู่ เธอเผอิญพบกับเจี่ยงหนานตั๋ว
"มาหาเฉินลู่งั้นเหรอ?" เขาเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา "เฉินลู่อยู่ในห้องผ่าตัดน่ะ"
อ่าน เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน นวนิยาย บทที่ 7 ออนไลน์ฟรี
ที่ เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน บทที่ 7 เห็นความรักของ Thi No, Chi Pheo, the ผู้อ่านรู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่น่ารักมากแต่ก็สัมผัสได้ถึงความเท่าเทียมกัน ที่ บทที่ 7 เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน ความรู้สึกของทั้งสองคนถูกปฏิเสธโดยคนในสังคมทั้งหมด แต่พวกเขาก็เป็นคนที่ซื่อสัตย์ที่สุดและปรารถนาที่จะรักมากที่สุด ติดตามเนื้อหา เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน จิ่นอวิ๋น บทที่ 7 ที่นี่
เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน จิ่นอวิ๋น บทที่ 7
เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน บทที่ 7