เทพบุตรในคราบซาตาน นิยาย บท 13

หลายวันผ่านไป เมื่อตะวันรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับใบบุญได้เยอะพอสมควร วันนี้ในตอนเย็นหลังเลิกงาน ลูกน้องคนสนิทของกวินได้เดินเข้าไปในบ้านพร้อมกับซองสีน้ำตาล ซึ่งเป็นข้อมูลของใบพลูที่เขาใช้อำนาจเก่าของมาเฟีย ซึ่งมีเส้นสายมากพอสมควรคักลอกสำเนาจากโรงเรียน ทั้งใบสมัครที่สำคัญสูติบัตรของใบพลูไม่ได้ระบุชื่อของบิดา

“ก่อนที่นายรองจะเปิดดูเอกสารนี้ ผมขอถามตามตรง นายรองตอบมาตามความเป็นจริงนะครับ อย่างที่ลูกผู้ชายเขาพูดกันจะได้หรือเปล่า” ตะวันดึงเอกสารกลับ พร้อมกับคำถามที่ทำให้กวินหัวเสีย

นับวันลูกน้องของเขายิ่งทำตัวดังเจ้านาย คอยเจ้ากี้เจ้าการถามโน่นนี่นั่นจนน่ารำคาญ แต่เขาก็ไม่เคยโกรธตะวัน เพราะทั้งคู่โตมาด้วยกัน ซึ่งเขาก็ทำงานไม่เคยบกพร่องแถมยังเป็นคนคอยรับฟังปัญหาชีวิตของเขาในแต่ละวันอีกต่างด้วย

“นายนี่นับวันยิ่งทำตัวเป็นเจ้าชีวิตของฉันนะตะวัน อยากรู้อะไรก็ถามมา ในซองนั้นมันมีอะไรพอที่จะทำให้ฉันหัวใจพองโตได้หรือเปล่า แค่สะกดรอยตามเธอ ทำไมนายถึงหาข้อมูลหลายวันจัง เธอมีใครหรือยัง” คราวนี้กวินถามออกไปพร้อมกับจิบไวน์ราคาแพงเข้าปาก พลางรอคำตอบจากตะวัน ที่กำลังนั่งลงที่โซฟาฝั่งตรงข้ามกับเจ้านายหนุ่ม

“นายรองเคยมีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง ในแบบที่ไร้การป้องกันกับคุณใบบุญมาก่อนหรือเปล่าครับ” คำถามของตะวันทำให้กวินแทบสำลักไวน์ เมื่อเขานึกถึงค่ำคืนอันแสนหวาน ที่ได้ครอบครองความสาวของเธอ ในแบบที่เขาจำไม่เคยลืม แถมข้อเสนอที่เจ้าเล่ห์ของเขา คือการเพิ่มเงินให้กับเธอนั้น เขาช่างเป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัวสิ้นดี

“ฉันจะพูดแบบหมดเปลือกก็แล้วกัน จะไม่ปิดบังอะไรเลย ฉันเห็นว่านายเป็นคนสนิทหรอกนะ” กวินพูดจบพร้อมกับกระดกไวน์ในแก้วเข้าปาก เขาอมไว้ในกระพุ้งแก้มแล้วค่อยๆ กลืนลงไปอย่างช้าๆ เพื่อสัมผัสถึงรสชาติของมัน

“ผมถามว่าได้ป้องกันหรือเปล่า” คราวนี้ตะวันได้ถามเจ้านายออกไปเสียงแข็ง เมื่อเขาเห็นแววตาของใบพลูเหมือนกวินยังกับแกะ นัยน์ตาของเธอสีอัมพันเหลืองทอง คล้ายดวงตาของหมาป่า ที่มีการผสมผสานของโทนสีทองและน้ำตาลอ่อน ดูโดดเด่นไม่แพ้กวินที่เป็นลูกครึ่ง

“เธอคือผู้หญิงคนแรกและคนเดียวที่ฉันไม่คิดจะป้องกัน” คำตอบของกวินทำให้หัวใจของตะวันเต้นแรง

แววตาของเขาเป็นประกาย ราวกับว่าตัวเองนั้นคือบิดาของใบพลูเสียเอง ทั้งที่ตะวันยังไม่รู้ความจริง เพราะบางทีสิ่งที่เขาคิดอาจจะไม่ใช่ความจริงก็ได้ แต่ถ้าเกิดว่าใบพลูเป็นลูกของกวินจริงๆ ที่นี่เงียบเหงามานาน ถ้าหากมีเด็กมาวิ่งเล่นคงเบิกบานใจน่าดู บ้านหลังนี้จะได้มีชีวิตชีวาขึ้นมาเสียที

“เรื่องนี้เกิดขึ้นนานหรือยังครับนายน้อย” เขาตั้งหน้าตั้งตาถามกวิน ราวกับเจ้านายหนุ่มเป็นจำเลย มีเขาเป็นตำรวจที่นั่งสอบสวนอยู่ในห้องกับผู้ต้องหา เพื่อเค้นเอาความจริงจากปากของกวิน

“นายถามทำไม เกิดอะไรขึ้น เธอท้องเหรอ” คราวนี้ชายหนุ่มได้วางแก้วไวน์ลง พร้อมกับหันมาโฟกัสที่ใบหน้าของตะวันแทน ขณะที่หัวใจของเขาเริ่มเต้นแรงด้วยความอยากรู้คำตอบจากลูกน้องคนสนิท

“ผมไม่แน่ใจ ถึงได้ถามอยู่นี่ไง นายรองกับเธอมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งผ่านมาแล้วกี่ปี ประมาณเอาก็ได้” คราวนี้ตะวันได้จ้องไปที่ใบหน้าคมของกวิน เขามองอย่างไม่กะพริบตาด้วยความอยากรู้คำตอบเช่นกัน

“ก็ตั้งแต่ที่เรายังไม่ได้ปิดบ่อน ประมาณหกเจ็ดปีได้มั้ง” คำตอบของกวิน ทำให้ตะวันถอนหายใจออกมาเสียงดัง เขาไม่รู้ว่าความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไร แต่ถ้าหากเจ้านายจะมีใครที่ไม่ใช่คุณริสา ซึ่งเขาเคยปรารถนาอยากให้มาเป็นนายหญิงของกวินชู

แต่คนที่เหมาะสมที่สุดในตอนนี้คงไม่พ้นใบบุญ ถ้าหากเธอคือแม่ของลูกเจ้านายหนุ่มของเขา ตะวันก็พร้อมที่จะยอมรับเธอ ในฐานะภรรยาของนายรอง ซึ่งยังมีลูกสาวพ่วงท้ายที่เป็นคุณหนูของบ้านตามมาอีกด้วย

“นายรองครับ เปิดดูซองเอกสารนี่ดูสิครับ” คราวนี้ตะวันยอมส่งซองสีน้ำตาลให้กับกวิน

“เด็กที่ไหนน่ารักจัง ฉันชอบเวลาที่เธอยิ้ม แววตาของหนูน้อยคนนี้ เหมือนกับฉันไม่มีผิด เธอเป็นลูกของใครอย่าบอกนะว่า...” กวินถึงกับหัวใจเต้นแรง พร้อมกับมือสองข้างประสานกันเอาไว้ ให้ได้องศาก่อนจะเกยคางลงไป ชายหนุ่มหายใจเข้าออกยาวๆ ด้วยความรู้สึกผิดที่ไม่คิดตามหาใบบุญอย่างจริงจัง

“ผมเองก็ไม่แน่ใจ ว่าหนูใบพลูคือลูกของนายรองหรือเปล่า เพราะในใบเกิดของเธอ ไม่ไดระบุชื่อของบิดาเอาไว้ แต่อายุของเธอหกขวบกว่าเห็นจะได้ อีกไม่กี่เดือนก็เจ็ดปีเต็มแล้วครับ” ตะวันพูดขึ้น ทำให้กวินรีบหยิบสำเนาสูติบัตรของใบพลูขึ้นมาอ่านอย่างละเอียด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพบุตรในคราบซาตาน