บทที่ 9 การถามหยั่งเชิงของโค้วยู่นเอ๋อ
หลังจากที่แม่จากไป อาฝูดีกับเธอที่สุด แทบจะรักเธอเหมือนลูกแท้ๆ แต่ชาติที่แล้วเธอเชื่อฟังคำพูดของโค้วยู่นเอ๋อ คิดว่าคนรับใช้อย่างอาฝูจะคอยกำกับเธอ คิดจะควบคุมเธอ
หลังจากนั้นเธอจึงเมินเฉยต่ออาฝูมาก แล้วยังเรียกร้องไม่ให้อาฝูเรียกแค่ชื่อของเธอเพียงอย่างเดียว ต้องเพิ่มคำว่าคุณหนูสองคำนี้เข้าไปด้วย จะได้รู้จักที่ต่ำที่สูง
แม้จะเป็นเช่นนี้ อาฝูก็ยังคงดีกับเธอมากๆ ชาติที่แล้วหลังจากเธอเข้าคุก อาฝูยังมาเยี่ยมเธอตั้งหลายครั้ง
“อาฝู ป้าเข้ามาเลยค่ะ!”
กู้จิ่วฉือกำลังกอดหมอนจ้องอยู่ที่ประตู ตอบด้วยน้ำเสียงละอายใจ
“คุณอาฉือ คุณชายใหญ่บอกว่าในงานวันนี้คุณแทบจะไม่ได้กินอะไรเลย นี่ฉันเพิ่งอุ่น......”
แค่อาฝูเข้ามา ก็พูดอย่างกระตือรือร้น พูดๆอยู่ก็เหมือนกลัวว่าจะทำให้กู้จิ่วฉือรำคาญ จึงหยุดพูดด้วยความระมัดระวัง
“ขอบคุณค่ะอาฝู ฉันจะดื่มตอนที่มันยังอุ่นๆอยู่เลย”
กู้จิ่วฉือลงมาจากเตียงด้วยความรวดเร็ว รับแก้วนมมาจากในมือของอาฝู แล้วดื่มอย่างว่าง่าย
อาฝูเบิกตาโพลง มองกู้จิ่วฉืออย่างเหลือเชื่อ วันนี้คุณหนูโดนของหรือเปล่า? ทำไมจู่ๆถึงเปลี่ยนเป็นว่านอนสอนง่ายขนาดนั้น?
“คุณอาฉือ คุณ......”
“อาฝู ต่อไปเรียกฉันว่าอาฉือก็พอแล้วค่ะ แต่ก่อนฉันไม่รู้จักโต ป้าหวังดีต่อฉัน ฉันรู้ค่ะ”
อาฝูตกตะลึงไปชั่วครู่ กำลังมองกู้จิ่วฉือที่วันนี้แต่งหน้าอ่อนๆ เธอราวกับได้เห็นสาวน้อยคนก่อนนั้นที่มีไหวพริบเฉลียวฉลาด รูปร่างหน้าตาน่าเอ็นดูว่าง่าย
กู้จิ่วฉือรู้ว่าอาฝูอาจจะไม่ชินกับการเปลี่ยนแปลงของตนเอง เธอก็ไม่ได้อยากจะเน้นย้ำอะไรมาก เวลาผ่านไปอาฝูจะค่อยๆรู้ได้เอง
“ใช่สิคะ อาฝู ผ้าปูที่นอนแล้วก็พรมพวกนี้ไม่น่ามองเลยจริงๆ พรุ่งนี้ป้าช่วยหาคนมาเปลี่ยนทั้งหมดให้ฉันทีนะคะ แล้วก็เครื่องประดับที่รกรุงรังบนชั้นพวกนั้น เสื้อผ้าแปลกประหลาดในตู้เสื้อผ้า เปลี่ยนให้ฉันทั้งหมดเลย เป็นสไตล์ของใช้ในบ้านที่สบายตาตามปกติก็พอแล้ว......อาฝู?ป้าคิดอะไรอยู่?”
กู้จิ่วฉือพูดได้ครึ่งหนึ่ง ก็พบว่าอาฝูกำลังจ้องตนเองอย่างเหม่อลอย เธอยื่นมือไปโบกๆด้านหน้าของเธอ อีกฝ่ายถึงได้สติกลับมา
“ค่ะๆๆ เดี๋ยวฉันจะจัดการให้เลย! เสี่ยวอาฉือ......อาฉือ คุณโตขึ้นแล้วจริงๆ รู้เรื่องแล้ว”
อาฝูเบ้าตาแดงๆพูดขึ้น
“คนเรามักจะเข้าใจเมื่อเติบโตขึ้น เข้าใจว่าคนแบบไหนควรค่าที่จะทะนุถนอม คนแบบไหนที่มีค่าพอให้รัก”
กู้จิ่วฉือยิ้มเล็กน้อย พูดอย่างแฝงไว้ด้วยความหมาย ทั้งตอบอาฝู แล้วก็พูดให้ตนเองฟัง
............
คืนนั้นอาฝูก็ช่วยกู้จิ่วฉือเปลี่ยนผ้าปูที่นอนผ้านวมและพรม รวมไปถึงผ้าม่านด้วย
ชุดเครื่องนอนสีขาวโพลน กับผ้าม่านสีชมพูอ่อน ในที่สุดก็ทำให้ห้องนอนของเธอเหมือนที่ที่ผู้หญิงทั่วไปอาศัยอยู่แล้ว
กู้จิ่วฉืออาบน้ำเสร็จออกมา ขณะที่กำลังเพลิดเพลินอยู่กับห้องนอนที่แปลงโฉมใหม่ทั้งหมดอย่างพึงพอใจอยู่นั้น จู่ๆก็ได้ยินเสียงมาจากทางประตูห้อง โค้วยู่นเอ๋อผลักประตูแล้วเดินเข้ามาทันที
“อาฉือ เธอยังไม่นอน......”
แค่โค้วยู่นเอ๋อเข้ามาเห็นห้องนอนที่เปลี่ยนแปลงไปมาก ก็ประหลาดใจจนลืมไปหมดแล้วว่าจะพูดอะไร
กู้จิ่วฉือขมวดคิ้วมองเธอ: “พี่ยู่นเอ๋อ พี่จะเข้ามาไม่รู้จักเคาะประตูก่อนเหรอ?”
โค้วยู่นเอ๋อเคยชินกับน้ำเสียงพาลๆตรงไปตรงมาของกู้จิ่วฉือแล้ว จึงไม่รู้สึกผิดปกติเลยสักนิด ยังคงเหมือนเมื่อก่อน เดินเข้ามาตรงๆเลย ดึงเก้าอี้ของกู้จิ่วฉือออกมา แล้วนั่งลงไปด้านหน้า
“อาฉือ พวกเราก็เป็นแบบนี้มาโดยตลอดนี่นา~”
เป็นแบบนี้มาโดยตลอด......
กู้จิ่วฉือยิ้มเยาะอยู่ในใจ คิดว่าตนเองเป็นเจ้าของตระกูลกู้จริงๆสินะ!
ดูแล้วเธอต้องคิดวิธีไล่โค้วยู่นเอ๋อออกไปจากตระกูลกู้ก่อนถึงจะถูก......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ห่วงรักคุณปีศาจ