ดอกหญ้าสีคราม นิยาย บท 9

เธอยื่นบัตรธนาคารและกระดาษที่มีรหัสผ่านกลับไปให้สีคราม โดยไม่ดูรหัสผ่านด้วยซ้ำ

“คุณสีคราม บ้านหลังนี้ไม่ได้เป็นของคุณคนเดียว ฉันก็อาศัยอยู่ที่นี่ด้วยเหมือนกัน คุณเป็นคนซื้อบ้านหลังนี้ ทำให้ฉันประหยัดค่าเช่าบ้าน คุณไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเรื่องอื่นๆ ในบ้านทั้งหมดหรอก ฉันจะเป็นคนซื้อของเข้าบ้านเอง”

“เว้นแต่ว่าเฟอร์นิเจอร์นั้นมีราคามากกว่า 2,000 หยวน ฉันจะมาปรึกษาคุณ”

รายได้ของเธอไม่แย่นัก และสามารถใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งเงินของเขา นอกจากค่าใช้จ่ายราคาสูง

ไม่ใช่ว่าเธอรับไม่ได้ที่เขาจ่ายเงิน เหตุผลหลักคือท่าทีของเขาทำให้ดอกหญ้าอารมณ์เสีย เขาทำเหมือนเธออยากได้เงินเล็กๆ น้อยๆ แถมยังขอให้เธอจดบัญชีไว้และตามจ่ายให้ทีหลัง

สีครามไม่ใช่คนโง่ ในทางกลับกันเขาฉลาดมาก การปฏิเสธของดอกหญ้าทำให้เขาเข้าใจว่าท่าทีของเขาทำร้ายศักดิ์ศรีเธอ

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็ยื่นบัตรธนาคารและกระดาษที่มีรหัสผ่าน กลับไปให้เธออีกครั้ง พลางพูดด้วยน้ำเสียงยังอ่อนโยนกว่าเดิม “ผมรู้ว่าคุณสามารถทำเงินได้จากการเปิดร้านของตัวเอง

ในเมื่อคุณบอกว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านของเรา นั่นแปลว่าเราทั้งคู่มีส่วนต้องช่วยเหลือกัน ผมจะปล่อยให้คุณแบกรับค่าใช้จ่ายของครอบครัวทั้งหมดคนเดียวได้ยังไง? รับไปเถอะ คุณไม่ชอบให้ผมตามจ่ายทีหลังไม่ใช่เหรอ?”

“คิดยังไงกับเรื่องซื้อรถที่ผมเล่าให้ฟังครับ? อยากให้ผมช่วยดาวน์รถไหม? รายได้แบบคุณไม่น่ามีปัญหาเรื่องซื้อรถนะ” เขาไม่ได้จงใจตรวจสอบว่ารายได้ของเธอเป็นอย่างไร แต่หากเธอสามารถเปิดร้านหนังสือหน้าโรงเรียนมัธยมนรารีได้ นั่นแสดงให้เห็นว่าเธอยังมีความสามารถและทำเงินไม่น้อย ทุกวันนี้ผู้หญิงและเด็กต่างเป็นวัยที่ต้องใช้เงินมากที่สุด

“บ้านของฉันอยู่ไม่ไกลจากร้าน ฉันขี่สกู๊ตเตอร์ไปเองได้ ในจังหวัดนรารีน่ะรถติดมากแค่ไหนคุณก็รู้ รถสี่ล้อแบบนั้นสู้รถสองล้อของฉันไม่ได้หรอก”

สีครามพูดไม่ออก

สิ่งที่เธอพูดเป็นความจริง

เขามักจะไปทำงานในช่วงเวลาเร่งด่วน

บางครั้งมีเรื่องด่วนต้องออกไปในชั่วโมงเร่งด่วน ทำให้เขาแทบรอไม่ไหวที่จะใช้เครื่องบินส่วนตัวมากกว่า

“แต่การมีรถยนต์สะดวกกว่านะ คุณขับรถพาพี่สาวกับหลานชายไปเที่ยวในช่วงสุดสัปดาห์ได้ด้วย”

สีครามจำได้ว่าคุณย่าบอกว่าผู้หญิงคนนี้กับพี่สาวของเธอต้องพึ่งพาอาศัยกันตลอดชีวิต และคนที่เธอห่วงใยที่สุดคือพวกเขาสองคน

“ค่อยว่ากันทีหลัง เราเพิ่งแต่งงานกัน ฉันยังไม่คุ้นเคยเท่าไร ฉันรู้สึกลำบากใจถ้าจะต้องใช้เงินซื้อรถ จริงๆ แล้วฉันมีเงินเก็บเพียงพอสำหรับซื้อรถแล้ว แต่ฉันอยากซื้อบ้านมากกว่า ไม่เหมือนพวกผู้ชายที่ชอบซื้อรถ”

ผู้ชายและผู้หญิงมีทางเลือกในการซื้อบ้านและรถที่แตกต่างกัน ผู้หญิงมักเลือกซื้อบ้าน ในขณะที่ผู้ชายมักเลือกซื้อรถยนต์

“แต่พี่ฉันอยากเจอคุณมากเลย ฉันบอกเธอไว้คุณกำลังไปทำงานต่างจังหวัด เอาไว้ฉันค่อยพาคุณไปหาเธอทีหลังก็แล้วกัน”

สีครามตอบรับในลำคอเบาๆ

หลังจากที่ทั้งคู่คุยกันเสร็จ ดอกหญ้าขอตัวไปตากผ้า ส่วนสีครามอยากนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่ห้องโถง แต่พวกเขายังไม่ได้สมัครรับหนังสือพิมพ์ ดังนั้นเขาจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาเช็คข่าวเพื่อฆ่าเวลา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดอกหญ้าสีคราม