ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 272

ท้ายที่สุดแล้วเด็กหนุ่มกลับจูงมือเด็กสาวที่หน้าตาสวยสดงดงามเดินจากไป ในความทรงจำนั่นเธอเคยร้องไห้งอแงฟูมฟาย

และยังมีฉากที่เลือดไหลนองดุจสายน้ำในพระราชวัง เขาที่ร่างสูงใหญ่และทรงพลัง สายตาที่เขาก้มลงมองเธอนั้น นำมาซึ่งความอดไม่ได้ที่จะเห็นอกเห็นใจ

เดิมทีนั่นคงเป็นความทรงจำที่ผ่านมาของเฉินเสียน เมื่อก่อนเฉินเสียนเคยหลงรักฉินหรูเหลียงอย่างจริงใจ

เฉินเสียนในวันนี้ยังคงได้รับผลกระทบจากวัยหนุ่มสาวในอดีต จึงมีความรู้สึกอ้อยอิ่งบางอย่างที่ยังคงค้างคาในใจ

ซูเจ๋อหย่อนตัวนั่งลงข้างๆ เฉินเสียนช้าๆ พร้อมกับพูดขึ้นว่า : "ท่านเป็นห่วงเขามากเกินไป ข้าจะหึงเอาได้"

เฉินเสียนเท้าคาง ยิ้มเจือจางพร้อมกับพูดขึ้นว่า : "ตอนนี้ก็เริ่มหึงแล้วหรือ งั้นวันข้างหน้ากลับอาณาจักรต้าฉู่ไปแล้วจะทำยังไง? ข้ากับเขาเป็นสามีภรรยากัน และข้าต้องดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของเขาอยู่แล้ว ต่อหน้าจะต้องแสดงความรักใคร่ที่ไร้ซึ่งความกังขา เมื่อถึงยามค่ำคืน บางทีข้าและเขาอาจจะร่วมห้อง......"

ยังไม่ทันที่จะพูดจบ จู่ๆ ซูเจ๋อก็ดึงเฉินเสียนเข้ามากอดแนบแน่น

เฉินเสียนอิงแนบอยู่ในอ้อมกอดของ ซูเจ๋อ เธอกำคอเสื้อของเขาไว้ ขมวดคิ้วแน่น แล้วจึงพูดขึ้นว่า : "ข้าไม่สามารถมาชมวิวทิวทัศน์แบบนี้กับท่าน และไม่สามารถให้ท่านกอดข้าได้ตามใจชอบแบบนี้อีก เมื่อก่อนข้าไม่เคยจะคิดถึงเรื่องนี้เลย ที่แท้แล้วมันก็คือการทรมานอย่างหนึ่งนี่เอง"

"อาเสียน ไม่ใช่แค่ท่านคนเดียวที่รู้สึกทรมาน"

เฉินเสียนพูดขึ้นน้ำเสียงเบาบาง : "เฉินเสียนคนเดิมนางรักฉินหรูเหลียงอย่างสุดซึ้ง แต่นางกลับไม่เคยรู้เลย ว่ามีคนคนหนึ่งคอยอยู่เคียงข้างนาง คุ้มครองนางอยู่เสมอ ความสุขอยู่รอบกายแท้ๆ แต่นางกลับไม่รู้ว่านั้นคือความสุข"

หลายวันผ่านไป ถึงแม้ว่าบาดแผลของฉินหรูเหลียงจะยังไม่ได้หายสนิท แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับการเดินทาง

พวกเขาเสียเวลาอยู่ในราชนิเวศน์บนเขานี้นานเกินไป และควรจะเดินทางกลับไปที่อาณาจักรต้าฉู่ตั้งนานแล้ว

ยังดีที่เขตชายแดนของทั้งสองอาณาจักรสงบลงได้ ข่าวคราวการลงนามสนธิสัญญาสันติภาพของทั้งสองอาณาจักรถูกแพร่กระจายออกไป ราษฎรของอาณาจักรเย่เหลียงต่างพากันยินดีปรีดาที่สามารถนำคูเมืองของเมื่อก่อนกลับมาได้

และถึงแม้อาณาจักรต้าฉู่จะสูญเสียคูเมืองไป แต่ก็ดีตรงที่สามารถหลุดพ้นจากความทุกข์ทรมานและความลำบากของสงครามได้ เพราะเหตุนี้จึงหายใจได้อย่างโล่งอก

ตอนนี้แม่ทัพโฮ้วรับผิดชอบกองทัพเมืองเสวียนอยู่ และกำลังรอเฉินเสียนกับซูเจ๋อพาฉินหรูเหลียงกลับมา

เมื่อเสร็จภารกิจใหญ่โตแล้ว องค์จักรพรรดิเย่เหลียงรู้ว่าพวกเขายังมีเรื่องที่จะต้องทำ จึงไม่ได้คะยั้นคะยอให้อยู่ต่อ

องค์จักรพรรดิทรงรับสั่งให้ทหารอีกหลายนายเตรียมพร้อมสำหรับการลงเขา แล้วทรงรับสั่งให้นางกำนัลส่งมอบของดีของอาณาจักรเย่เหลียงเยอะพอควร

และหนึ่งในนั้นก็คือเหล้าสับปะรดจำนวนหลายใบไห

เฉินเสียนชอบเหล้าสับปะรดท้องถิ่นของอาณาจักรเย่เหลียงเป็นอย่างมาก จึงรีบรับด้วยความยินดี

นอกจากนี้ องค์จักรพรรดิเย่เหลียงยังทรงรับสั่งให้ทหารย้ายตัวหลิ่วเฉียนเฮ้อออกจากกรงขังเดิม ไปยังกรงเหล็กที่แข็งแรงและแน่นหนากว่าเดิม

ด้านนอกกรงขังเหล็กมีกุญแจเหล็กขนาดใหญ่ที่ทั้งหนาและหนักมาก ซูเจ๋อเป็นคนลงกลอนเองกับมือ

แล้วจึงส่งมอบลูกกุญแจไว้บนมือของเฉินเสียน ภายใต้แววตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังของหลิ่วเฉียนเฮ้อ

เฉินเสียนใช้นิ้วเกี่ยวกับพวงกุญแจไว้ แล้วจึงฉีกยิ้มที่มุมปากให้กับหลิ่วเฉียนเฮ้อ พร้อมกับพูดขึ้นว่า : "ไม่พอใจรึ? ระหว่างทางก็ทนไปก่อน แล้วกัน รอกลับเมืองหลวงแล้ว จะค่อยๆ ให้เจ้าได้พอใจ"

ฉินหรูเหลียงที่เดินออกมาด้วยความอ่อนล้า เมื่อเห็นหลิ่วเฉียนเฮ้อในกรงเหล็กนั่น แววตาของเขาก็ชะงักไปทันที

เฉินเสียนเลิกคิ้วให้ฉินหรูเหลียงพร้อมกับพูดขึ้นว่า : "พี่ชายของหลิ่วเชียนเสวี่ย คงไม่ต้องให้ข้าแนะนำแล้วกระมัง พวกท่านคงจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว เอาล่ะ นี่ก็ไม่เช้าแล้ว ออกเดินทางกันเถอะ"

กรงเหล็กที่ใช้ขังหลิ่วเฉียนเฮ้ออยู่ ถูกยกไปไว้บนรถลาก มีทหารหลายนายคอยคุ้มกันเขาลงจากเขา

เฉินเสียน ซูเจ๋อและฉินหรูเหลียงก็ได้เดินตามหลังมาติดๆ ด้านหลังยังมีทหารคุ้มกันอีกนับหลายนายตามหลังมาด้วย

เมื่อเริ่มลงเขาไปแล้ว แม่ทัพใหญ่เย่เหลียงจะรับหน้าที่ดูแลต่อ เพื่อส่งพวกเขากลับไปยังอาณาเขตต้าฉู่ด้วยตัวเอง

บนเขานี้บรรยากาศเงียบสงบ ได้ยินเพียงเสียงฝีเท้าและเสียงเสียดสีของใบไม่ในป่าที่สั่นไหวเป็นบางครั้งบางคราว

มีหมอกเบาบางลอยตัวอยู่ในอากาศ เห็นเพียงภาพที่มัวหมองและไม่ชัดเจนอยู่ตรงหน้า ที่ปรากฏและหายไปสลับกันไปมา

เพียงแต่ว่าในขณะที่ยังเดินทางไม่ถึงตีนเขา และพึ่งเดินทางได้แค่ประมาณครึ่งทางเท่านั้น ก็ได้เจอเข้ากับเหล่าทหารของอาณาจักรเย่เหลียงหนึ่งกองที่กำลังเดินขึ้นเขามา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี