ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 270

“สอนให้เขารู้วิธีการหาผลประโยชน์ยิ่งใหญ่ให้แก่อาณาจักรโดยที่สูญเสียค่าใช้จ่ายให้น้อยที่สุด”ซูเจ๋อยิ้มอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วพูดว่า“อย่าคิดแต่จะทำสงคราม การยึดครองดินแดนนั้น เห็นได้ชัดว่ายังมีวิธีอื่นๆที่ทำให้เกิดสันติภาพได้อีกมากมาย”

“นึกไม่ถึงว่าเขาจะฟัง?”

“ทำไมจะไม่ฟัง ถึงอย่างไรนั่นมันก็เป็นเรื่องของผลประโยชน์ต่ออาณาจักร”

เฉินเสียนไม่ได้ถามอะไรมาก เธอไม่ได้ดื้อรั้นที่จะถามให้รู้แน่ชัด

เมื่อไรที่ซูเจ๋อควรจะบอกเธอก็คงจะบอกเธอเอง

เพียงเธอไม่รู้ว่าต้องรอให้ผ่านไปอีกนานสักเท่าไร แล้วก็ไม่รู้แน่ชัดว่าสถานการณ์จะมันเป็นอย่างไร

ซูเจ๋อพาเธอไปส่งที่หน้าประตูห้อง มองเธอเข้าไปในห้องแล้ว จึงค่อยหันหลังเดินออกไป

ตอนที่อยู่ในคุกนั้นไม่ได้นอนพักผ่อนที่ดี เวลานี้กลับมาอยู่ในห้องที่ถูกเตรียมไว้ให้เฉินเสียน เฉินเสียนวางศรีษะลง ไม่นานก็หลับไป

นอนหลับจนถึงฟ้าสว่าง

จนกระทั้งช่วงเวลาที่ซูเจ๋อกับจักรพรรดิเย่เหลียงได้ลงนามสนธิสัญญากัน เฉินเสียนยังอยู่ในห้วงความฝัน

ต้าฉู่กับเย่เหลียงได้ลงนามสัญญาสันติภาพกันอย่างเป็นทางการ ต้าฉู่ยอมยกสามคูเมืองให้แก่เย่เหลียง

ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุว่าเหตุใดในจำนวนขุนนางชั้นผู้ใหญ่ของเย่เหลียงนั้น จึงทำหน้าไม่พอใจ กับสนธิสัญญาระหว่างต้าฉู่กับเย่เหลียงเป็นอย่างมาก

เดิมทีเย่เหลียงไม่ตกลงกับข้อเงื่อนไขของต้าฉู่ แต่ไม่รู้ว่าทำไม จักรพรรดิพวกเขาถึงได้เปลี่ยนใจกะทันหัน แล้วตกลงยอมรับเงื่อนไขนั้น

หลังจากสองอาณาจักรลงนามสันติภาพแล้ว ซูเจ๋อก็ลงนามสนธิสัญญากับองค์จักรพรรดิเย่เหลียง

สนธิสัญญาฉบับนั้นถูกลงนามโดยปิดบังเหล่าขุนนางชั้นผู้ใหญ่ไม่ให้รู้ เพื่อป้องกันข่าวรั่วไหลเพราะมันจะไม่เป็นผลดีต่อทั้งสองฝ่าย

จักรพรรดิประทับตาลงบนสนธิสัญญา แล้วซูเจ๋อก็ใช้รอยพิมพ์มือประทับลงไปบนสนธิสัญญานั่น จักรพรรดิพูดว่า “ถ้าเจ้าไม่เคารพในสนธิสัญญา ข้าจะประกาศให้โลกได้รู้ ทำให้เจ้าไม่มีที่ยืนบนแผ่นดินต้าฉู่”

ซูเจ๋อพูดอย่างหน้าตาเฉยว่า “ถ้าเกิดมีการฝ่าฝืนขึ้น ถึงเวลานั้นก็ให้ฝ่าบาทจัดการลงโทษได้เลยพ่ะย่ะค่ะ”

เฉินเสียนท่าทางสะลึมสะลือ แล้วรู้สึกว่าข้างเตียงนั้นมีคนอยู่

เธอพลิกตัวไปมา ค่อยๆลืมตาขึ้น ใช้สายตามองไปรอบๆนิดหน่อย แล้วจึงหลับตาลง

อืม ข้างเตียงนั้นมีเงาดำอยู่……ไม่ใช่สิ ทำไมในห้องนอนเธอถึงมีคนอื่นอยู่!

เธอไม่เคยคิดเลยว่าจะมีคนอื่น!

เมื่อหลังจากรู้สึกตัวดี เดิมทีที่สมองยังงัวเงียเธอก็มีสติขึ้นมาได้ทันที เธอลืมตาอย่างกะทันหัน มองไปยังข้างเตียงทันที

สุดท้ายก็พบว่ามีคนหนึ่งคนนอนฟุบอยู่ข้างเตียง มองมาที่เธอด้วยดวงตาสีดำขลับมันแวววาวอย่างไม่กะพริบตา

ดวงตาคู่นั้นแฝงไปด้วยความไร้เดียงสา สายตามองมาด้วยอยากรู้อยากเห็น ไม่เหมือนกับมีเจตนาร้ายอะไร

หลังจากจ้องตากันอยู่ชั่วขณะ เฉินเสียนกรีดร้องอย่างฉับพลัน ผลสุดท้ายอีกฝ่ายจึงตื่นตกใจกลัว แล้วร้อง “อ๊ะ”เสียงดังออกมา

เฉินเสียนมองไปทางอย่างใกล้เขา เขาจึงตกใจ ตัวจึงถอยไปด้านหลัง แล้วล้มลงไปนั่งที่พื้น

เฉินเสียนนั่งรูปผมที่ยุ่งให้เรียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น งอขานั่งลงบนเตียง ใบหน้าที่มีความสะลึมสะลือ มองเอียงไปทางคนที่นั่งอยู่กับพื้น ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “เจ้าคือใคร?เข้ามาในห้องข้าทำไม?”

เด็กชายเยาว์วัยคนนี้ น่าจะอ่อนกว่าเฮ่อโยวนิดหน่อย เครื่องแต่งกายทั้งตัวนั้นดูสวยและล้ำค่าปลายคิ้วงอน สายตาวาว อวัยวะบนใบหน้านั้นละเอียดอ่อนงดงาม เป็นผู้ชายที่ดูแล้วมีเสน่ห์

เพียงแต่ว่าเข้ามาในห้องเฉินเสียนโดยที่ไม่มีการให้เสียงสักคำ ทำให้เธอรู้สึกไม่ชอบ

แม้ว่าเฉินเสียนจะไม่พูดอะไรสักคำ แต่อารมณ์ที่แสดงออกมานั้นแฝงไปสามคำ——ตื่นอย่างหงุดหงิด

ชำเลืองมองผิวพรรณที่นุ่มนวลของเขา คงไม่เคยได้รับความลำบากมาก่อนแน่นอน แล้วก็ยังไม่ค่อยมีประสบการณ์อะไร

เด็กชายที่ถูกเฉินเสียนขู่ให้เสียขวัญ แล้วยังทำให้เขาตกใจจนต้องล้มลงไปกับพื้น รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก รู้สึกว่านี่เป็นการทำลายน้ำใจและไม่ไว้หน้าเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี