ข้ามมิติมาหารัก นิยาย บท 2

ใบหน้าของฝู้อวี้สิงก็ยังนิ่งเฉยเหมือนเดิม เขาออกคำสั่งกับเซี่ยเชียนเกอที่อยู่ข้างกายว่า "เข็นผมลงไป"

เซี่ยเชียนเกอไม่ทันได้คิดอะไรมาก เธอลุกขึ้นยืน เข็นฝู้อวี้สิงลงชั้นล่าง ที่ชั้นล่าง มีชายหนึ่งคนหญิงหนึ่งคนนั่งรออยู่ ผู้หญิงแต่งตัวสวยงาม แค่มองดูก็รู้ว่าเป็นคุณหญิงเศรษฐี ส่วนผู้ชาย สวมเสื้อสูท หน้าตามีความคล้ายกับฝู้อวี้สิงเล็กน้อย แต่สายตาที่เขามองฝู้อวี้สิงนั้นกลับมีความดูถูกเยาะเย้ยอยู่ด้วย

เซี่ยเชียนเกอเข็นฝู้อวี้สิงเข้าไป เธอยืนอยู่ด้านข้าง ยืนเงียบๆอยู่ข้างกายฝู้อวี้สิงอยู่อย่างนี้ แม่ฝู้เห็นว่าเซี่ยเชียนเกอเห็นตัวเองแล้วไม่เอ่ยปากทักทายทำความเคารพ เธอจึงพูดอย่างรังเกียจว่า "อวี้สิง ภรรยาที่แกแต่งด้วยเป็นใบ้งั้นหรอ? ทำไมเห็นว่าฉันมาแล้วยังไม่ทักทายเรียกแม่สักคำเลยเชียว?"

ฝู้อวี้สิงมองข้ามคำบ่นของแม่ เขาพูดอย่างเย็นชาว่า "คุณมาทำอะไร?"

แม่ฝู้ชินกับคำพูดเย็นชาที่เขามีต่อตัวเองไปนานแล้ว เมื่อได้ยินฝู้อวี้สิงพูดเช่นนี้ ในใจเธอจึงไม่ได้โมโหอะไร "อวี้สิง ที่จริงแล้วที่วันนี้แม่มา นอกจากอยากจะมาดูภรรยาที่คุณปู่ของแกให้แกแต่งงานด้วยแล้ว ก็ยังมีอีกเรื่องที่อยากจะมาปรึกษาหารือกับแก"

ฝู้อวี้สิงพอจะคาดเดาได้บ้างแล้วว่าเป็นเรื่องอะไร ดังนั้นบนใบหน้าของเขาจึงเต็มไปด้วยสีหน้าเยาะเย้ย เมื่อแม่ฝู้เห็นจึงรีบพูดว่า "อวี้สิง แกอย่าใช้สีหน้าแบบนี้กับแม่เลย แม่รู้สึกเสียใจนะ"

ตั้งแต่เล็กจนโต ภายในใจของเธอก็มีเพียงแค่ฝู้เฉิงหยุนเท่านั้น ไม่เคยมีเขามาก่อนเลย ดังนั้น ถึงแม้เธอจะมีความรู้สึกเสียใจ ก็ไม่มีทางเป็นเพราะเขาแน่นอน

ฝู้อวี้สิงไม่อยากเล่นละครความรู้สึกรักลึกซึ้งกับแม่ของตนเอง เขาจึงพูดออกไปด้วยน้ำเสียงนิ่งเย็นว่า "ถ้าหากวันนี้คุณมาเพื่อดูหน้าภรรยาของผม ตอนนี้คุณก็เห็นแล้ว กลับไปได้แล้วหรือยัง?"

ฝู้อวี้สิงทำไมถึงทำตัวแบบนี้กับเธอ?

ทุกครั้งที่เธอมา เขาก็ไล่เธอตลอด ครั้งนี้ ถ้าหากว่าเธอไม่ได้พูดสิ่งที่อยากพูดภายในใจออกมา เธอไม่มีทางที่จะไปแน่นอน "อวี้สิง เมื่อกี้แม่พูดไปแล้วว่าครั้งนี้ที่แม่มา นอกจากมาดูภรรยาคนนี้ของแกแล้ว ยังมีเรื่องที่อยากจะปรึกษาหารือกับแกด้วย แกดูแกสิ ตอนนี้ดวงตาบอดทั้งสองข้าง ขาเองก็พิการไม่สะดวก แล้วบวกกับที่วันนี้แกแต่งงานมีครอบครัวแล้ว แม่คิดว่า สิ่งที่แกควรจะทำตอนนี้มากที่สุดก็คือใช้เวลาอยู่กับเซี่ยหาน พักผ่อนเชื่อฟังคำพูดหมอให้ดีๆ ส่วนเรื่องที่บริษัท แกดูสิน้องชายของแกก็โตขนาดนี้แล้ว แกมอบตำแหน่งท่านประธานให้กับน้องชายแกดีมั้ย? ยังไงซะ พวกแกสองคนก็เป็นพี่น้องกัน ตำแหน่งท่านประธาน ใครเป็นก็ไม่ได้ต่างดันเนี่ย ใช่มั๊ย?"

เขารู้อยู่แล้ว ว่าเป้าหมายที่แม่คนนี้ของเขามาในครั้งนี้ก็เพื่อตำแหน่งท่านประธาน และเช่นเดียวกันก็คือมีเพียงแค่ตำแหน่งท่านประธานนี้เท่านั้นที่จะสามารถทำให้แม่คนนี้ของเขามาเยือนยังคฤหาสน์ของเขาได้

พูดแล้วก็ช่างน่าสมเพชจริงๆ!

"ในเมื่อคุณคิดว่าตำแหน่งท่านประธานใครเป็นก็เหมือนกัน งั้นผมเป็นกับฝู้เฉิงหยุนเป็นมันต่างกันยังไงละครับ?"

แตกต่างอยู่แล้ว!

ความต่างก็คือฝู้เฉิงหยุนถึงจะเป็นลูกชายของเธอ แต่ฝู้อวี้สิงไม่ใช่ แต่ว่าเรื่องนี้เป็นความลับ เธอพูดออกไปไม่ได้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้น เธออาจจะถูกไล่ออกจากบ้านตระกูลฝู้ไปแล้ว "อวี้สิง พูดอย่างนี้ก็ไม่ผิด แต่ว่าแกดูสิดวงตาของแกกับขาของแกล้วนบาดเจ็บทั้งนั้น คุณหมอย้ำนักย้ำหนากับฉันไว้ว่าให้ฉันมากล่อมให้แกพักผ่อนดีๆ รีบทำการผ่าตัดซะ แต่ว่าช่วงนี้แกงานยุ่งมาก ไม่มีเวลาจะพักผ่อน แล้วยิ่งไม่มีเวลาจะทำการผ่าตัดอีกด้วย ดังนั้น ถ้าหากว่าแกมอบตำแหน่งท่านประธานออกมาให้ในเวลานี้ เช่นนั้นแล้วทุกอย่างนี้ก็แก้ไขจบสิ้นทั้งหมดแล้วไม่ใช่งั้นหรอ?"

"แกดูแกสิ ปีนี้เพิ่งจะอายุ 27 ปีเอง ดวงตาก็บอด สองขาเองก็พิการ แล้ววันนี้แกยังแต่งงานกับเซี่ยหานเค้าแล้วอีกด้วย ถึงแม้แกจะไม่คิดถึงตัวเอง แต่เพื่อเซี่ยหานแล้ว แกก็ควรที่จะรักษาดวงตาและขาของตัวเองให้หายสิ"

ฝู้อวี้สิงพูดอย่างเยาะเย้ยว่า "ฟังอย่างนี้แล้ว คุณทำเพื่อหวังดีกับผมทั้งนั้น?"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามมิติมาหารัก